เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้รุกส่วนแบ่งตลาดบ้านเดี่ยวปี 2550 รับกำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นตัวหลังแนวโน้มดอกเบี้ยและราคาน้ำมันลดลง เปิด ตัวโครงการใหม่เนเชอรัล วิลล์ บนทำเลทอง วงแหวนรามคำแหง – สุวรรณภูมิ เฟสแรก 320 ยูนิต มูลค่า 1,500 พันล้านบาท ระบุไตรมาส 3 ปี 2550 บ้านตัวอย่าง 6 สไตล์ และสโมสรเสร็จให้เยี่ยมชมพร้อมเปิดจอง
นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการทั้งหมด 20 โครงการ ซึ่งสามารถดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องได้ถึง 3-5 ปี ข้างหน้า แบ่งเป็นสินค้ากลุ่มทาวน์เฮ้าส์ ราคาเฉลี่ย 1 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “เค.ซี.รามอินทรา” และ “เค.ซี.คลัสเตอร์” จำนวน 5 โครงการ สินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยว ระดับราคา 1.5 – 2 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “เค.ซี. กรีนวิลล์” และ “เค.ซี. การ์เด้นโฮม” จำนวน 6 โครงการ สินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยว ระดับราคา 2 – 4 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “เค.ซี. พาร์ค วิลล์” จำนวน 4 โครงการ สินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยว ระดับราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป ภายใต้ชื่อ “เค.ซี. เนเชอรัล วิลล์” และ “เค.ซี. เลควิว” จำนวน 4 โครงการ และที่ดินจัดสรรเพื่อแบ่งขาย 1 โครงการ ราคาประมาณ 1.2 ล้านบาท สำหรับยอดขายบ้านในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 707.70 ล้านบาท ซึ่งหากในไตรมาส 4 นี้ บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ใกล้เคียงหรือมากกว่ายอดขาย 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 235.90 ล้านบาท เชื่อว่าในปี 2549 นี้ ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมาย 1,000 ล้านบาท ที่วางไว้
ทั้งนี้ จากราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มคงที่และมีแนวโน้มลดลงในอนาคต ประกอบกับสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ที่มีทิศทางดีขึ้น นับเป็นปัจจัยบวกให้กำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาอีกครั้ง ดังนั้น ในปี 2550 บริษัทจึงตั้งเป้าว่า จะคงอัตราการเติบโตในระดับเดิมไว้ที่ 10 - 15% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 40% โดยแผนการตลาดในไตรมาส 4 – ปี 2550 นอกจากการทำตลาดเพื่อปิด 5 โครงการ ได้แก่ เค.ซี.พาร์ควิว 2, เค.ซี.สุวินทวงศ์, เค.ซี. การ์เด้นโฮม 18, เค.ซี. การ์เด้นโฮม 20 และเค.ซี.รามอินทรา 8 ภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มยอดขายเฟสต่อเนื่องของอีก 15 โครงการ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการในขณะนี้แล้ว บริษัทจะเปิดตัว 1 โครงการใหม่ ภายใต้ชื่อ “เนเชอรัล วิลล์ วงแหวนรามคำแหง” ในรูปแบบโครงการบ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Contemporary ท่ามกลางสวนสวยสไตล์ Tropical เฟสแรกจำนวน 320 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 5.3 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการถมดินเพื่อปรับพื้นที่ โดยคาดว่าจะเริ่มงานก่อสร้างได้ในต้นปี 2550 และสามารถเปิดให้ลูกค้าที่สนใจจอง พร้อมเยี่ยมชมบ้านตัวอย่าง 6 แบบ และสโมสรที่เสร็จสมบูรณ์ ได้ในไตรมาส 3 ปี 2550
สำหรับสาเหตุที่เค.ซี. ตัดสินใจเปิดโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ในปีหน้า เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางบนขึ้นไป ท่ามกลางกระแสความนิยมทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียม เนื่องจากมั่นใจในทำเลที่ตั้งของโครงการเนเชอรัล วิลล์ วงแหวนรามคำแหง ซึ่งอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิอันเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางธุรกิจและชุมชนเมืองที่จะทวีความสำคัญขึ้นในอนาคต ประกอบกับด้วยรูปแบบโครงการที่เป็นบ้านสั่งสร้าง มีบ้านสวย 6 แบบ หลากหลายฟังก์ชั่นการใช้งานให้เลือก พร้อมกับวัสดุก่อสร้างคุณภาพชั้นเยี่ยมที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ และความพรั่งพร้อมของสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ทั้งถนนขนาดใหญ่ สโมสร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ และระบบรักษาความปลอดภัย ภายใต้ราคาขายที่ดึงดูดใจกว่าโครงการอื่นในทำเลเดียวกัน จึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อีกทั้ง ปัจจุบันบริษัทมีโครงการทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการแล้ว 5 โครงการ รวม 4,282 ยูนิต ประกอบกับภายในสิ้นปี 2549 นี้ มีโครงการบ้านเดี่ยวที่จะปิดการขาย 4 แห่ง บริษัทจึงเลือกที่จะเพิ่มสัดส่วนสินค้าบ้านเดี่ยวในปีหน้า เพื่อคงความหลากหลายของสินค้าภายใต้แบรนด์ เค.ซี.ในระดับราคาต่างๆ ไว้รองรับความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้า
“ถึงแม้ว่าโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน จะสามารถพัฒนาต่อไปอีก 3-4 ปี แต่บริษัทมีแผนจะซื้อที่ดินเพิ่มทุกปี โดยเตรียมงบประมาณไว้ 300 ล้านบาทต่อปี สำหรับทำเลยังคงเน้นด้านตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่บริษัทได้พัฒนาโครงการมาอย่างยาวนานต่อเนื่องกว่า 25 ปี และด้วยความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการ ประกอบกับมีการควบคุมต้นทุนและมาตรฐานการก่อสร้างที่ได้คุณภาพ เนื่องจากมีทีมช่างประจำที่มีประสบการณ์ในการรับงานของบริษัท จึงมีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้าง พบปัญหาความเสียหายของวัสดุ และเกิดความผิดพลาดจากการก่อสร้างน้อย อีกทั้ง ด้วยพื้นที่ตั้งโครงการทั้งหมดอยู่บริเวณเดียวกัน ทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้างได้ดี ส่งผลให้สินค้าบ้านทุกระดับของเค.ซี. ที่โดดเด่นด้วยคุณภาพและราคา ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในทุกโครงการ” นายอภิสิทธิ์กล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
บริษัท เจดี พาร์ทเนอร์ จำกัด
โทร (02) 661-8803-5 โทรสาร (02) 661-8813
E-mail :
[email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net