ซึทาญ่า จับมือมหาวิทยาลัยศรีปทุม ร่วมรณรงค์ต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์

บริษัท ซึทาญ่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำธุรกิจศูนย์เช่า ซีดี วีซีดี และดีวีดี ภาพยนตร์ ระบบแฟรนไชส์อันดับหนึ่งของเมืองไทย ผนึกกำลังกับมหาวิทยาลัยศรีปทุมร่วมต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ ด้วยการจัดโครงการ “Tsutaya Anti-piracy” โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาสร้างสรรค์การวางแผนรณรงค์ทางการโฆษณา ในวิชาการสัมมนา และการจัดทำโครงงานโฆษณา ภาควิชาการโฆษณา คณะนิเทศศาสตร์ นายวันชัย พละพงค์พานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซึทาญ่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัท ฯ เล็งเห็นว่า ปัจจุบันปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจภาพยนตร์ ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมกับสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ โดยรัฐบาลต้องสูญเสียรายได้อย่างมหาศาลจากการไม่สามารถเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในอุตสาหกรรมนี้ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ ทำให้ประเทศคู่ค้าใช้เป็นข้ออ้างในการออกมาตรการกีดกันทางการค้า ที่สำคัญการระบาดหนักของการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาได้ลุกลามไปถึงในบ้านและสถานศึกษา ส่งผลร้ายให้กับสังคมไทยเนื่องจากพฤติกรรมการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาเป็นจุดเริ่มต้นของการบ่มเพาะจริยธรรมของคนไทยรุ่นใหม่ให้เจือจางลง และด้วยบริษัทฯ ตระหนักว่าพลังคนรุ่นใหม่เป็นหัวใจสำคัญของประเทศและเป็นพลังบริสุทธิ์ในการเริ่มต้นของพฤติกรรมที่ดี ทางบริษัทฯ จึงได้เข้าร่วมกิจกรรมกับสถาบันการศึกษา ซึ่งสถาบันแรกที่บริษัทฯ ได้เข้าร่วม คือ มหวิทยาลัยศรีปทุม โดยบริษัท ฯ เล็งเห็นถึงความพร้อมของมหาวิทยาลัย จึงได้ตอบรับกับกิจกรรมนี้ นายวันชัย กล่าวต่อว่า ซึทาญ่า ได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยศรีปทุมให้เป็นผู้เสนอโจทย์ในโครงการ “Tsutaya Anti-piracy” เพี่อให้นักศึกษาได้นำไปคิดสร้างสรรค์วางแผนงานรณรงค์ทางการโฆษณาและแผนงานโฆษณา ทั้งนี้ผลงานของนักศึกษาที่ได้รับคัดเลือกเป็นอันดับ 1 ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะนำแผนงานดังกล่าวมาประยุกต์ใช้จริงตามความเหมาะสม โดยให้เครดิต กับทางนักศึกษา และมหาวิทยาลัย ด้าน อาจารย์ศรายุธ ยืนยง หัวหน้าภาควิชาการโฆษณา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุมกล่าวว่า การจัดทำโครงการโฆษณา “TSUTAYA Anti Piracy” ทางมหาวิทยาลัยมองเห็นว่าเป็นเรื่องของการบริการสู่สังคม อีกทั้งนักศึกษาสามารถสร้างสรรค์แผนงานโฆษณาและมีทักษะจากการได้ลงมือปฏิบัติงานด้วยการประยุกต์หลักทฤษฎีที่เรียนรู้มาให้เกิดประโยชน์ ในการผลิตชิ้นงานจะต้องมีความเป็นรูปธรรมชัดเจน และมีคุณภาพ ภายใต้การวิเคราะห์ถึงปัญหา แนวความคิด และการวางวัตถุประสงค์ทางการโฆษณาที่ถูกต้องอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยตระหนักถึงปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ว่าเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมที่ควรได้รับการแก้ไข และเป็นเรื่องที่น่ายินดีหากโครงการนี้สามารถเป็นจริงได้ สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าววันชัย พละพงค์พานิช
• ข่าวมหาวิทยาลัยศรีปทุม
• ข่าวมหาวิทยาลัยศรีปทุ
• ข่าวคณะนิเทศศาสตร์
• ข่าวนิเทศศาสตร์