นายดำรง วัธนเวคิน กรรมการผู้จัดการบริษัท เมกไกวส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขัดเคลือบสีรถยนต์ Mequiar’s จากสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า ในการดำเนินธุรกิจปี 2007 เมกไกวส์จะดำเนินธุรกิจตามแนวทางที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2006 ซึ่งเป็นไปตามที่บริษัทแม่กำหนดสูตร 100 ปี 4 กลยุทธ์เพื่อสร้างความยั่งยืนในธุรกิจซึ่งจะประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 4 ด้านคือ การจัดทำ Web Site ให้เป็นแหล่งข้อมูลที่ให้ความรู้และให้รายละเอียดแก่ผู้ที่สนใจในสินค้าและการบริการของเมกไกวส์อย่างดีที่สุด ด้านที่ 2 คือการจัดทำแคตตาล๊อก Brilliant Solutions เป็นคู่มือที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ ด้านที่ 3 คือการจัดกิจกรรม (Event) ซึ่งจะเน้นการให้ความรู้แก่เจ้าของรถ ซึ่งกิจกรรมนี้จะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องและต้องร่วมดำเนินการกับคาร์คลับต่างๆ เพื่อเข้าถึงเจ้าของรถอย่างแท้จริง สำหรับด้านที่ 4 การจัดทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ซึ่งเมกไกวส์จะให้ความสำคัญกับงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ใกล้เคียงกันโดยมอบหมายให้บริษัท อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแทนส์ จำกัด หรือ INAC ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ของเมกไกวส์มาตั้งแต่ปี 2002 เป็นผู้ดูแลต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2007 เมกไกวส์จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 25% จากปี 2006
“นโยบายหลักของเมกไกวส์ คือการสร้างเครื่องมือเพื่อสื่อสารให้เข้าถึงโดยตรงกับเจ้าของรถ ซึ่งเป็นกลุ่มคนรักรถตัวจริง ด้วยนิยามที่ว่า...คนที่รักรถจะรักเมกไกวส์…” นายดำรงกล่าวและว่า สำหรับในปี2006 ผลประกอบการของเมกไกวส์อินส์ สหรัฐเติบโตขึ้นประมาณ 26 % แต่เมืองไทยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยประมาณ 20 -25 % ต่อปี โดยปีนี้มีการวิเคราะห์ว่าสถิติยอดจำหน่ายรถยนต์จะไม่ดีอย่างที่คิด ขณะที่เมกไกวส์มองว่าการขัดเคลือบสีรถไม่จำเป็นจะต้องเป็นรถใหม่ดังนั้นเหตุที่ยอดจำหน่ายรถยนต์น้อยลงจึงไม่มีผลกระทบกับธุรกิจการขัดเคลือบสีรถของเมกไกวส์ นอกจากนี้ผู้รักรถที่ใช้เมกไกวส์ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีการใช้รถหลากหลายทั้งใหม่และเก่า ทั้งรถที่มีราคาสูงมากจนถึงระดับปกติ รวมทั้งรถกลุ่มคลาสสิกซึ่งรถกลุ่มนี้จำเป็นต้องใช้การดูแลขัดเคลือบสีระดับพิเศษ ภาพรวมธุรกิจปีนี้จึงไม่มีผลกระทบกับธุรกิจของเมก- ไกวส์ปัจจุบันเมกไกวส์มีช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเมกไกวส์มี 3 ช่องทางคือ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการในศูนย์บริการของเมกไกวส์ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 45 ศูนย์ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 35% ของยอดรายได้ ช่องทางที่ 2 คือการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในคอนซูมเมอร์โปรดักส์ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้า ประดับยนต์ทั่วไปคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 45% ของยอดรายได้ ช่องทางที่ 3. คือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่ม Professional เช่น อู่ซ่อมสีรถยนต์ ดีเลอร์ โรงงาน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20 % ของยอดรายได้
นายดำรงกล่าวว่า ในปี 2007 เมกไกวส์มีกิจกรรมที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องอีกหลายกิจกรรม เช่นการขยายศูนย์บริการของเมกไกวส์ซึ่งได้รับการติดต่อจากผู้รักรถทั่วประเทศขอร่วมเปิดศูนย์บริการขัดเคลือบสีรถยนต์กับเมกไกวส์สำหรับในปีนี้ขยายได้ประมาณเดือนละ 1 ศูนย์บริการ โดยปัจจุบันเมกไกวส์มีศูนย์บริการ 45 ศูนย์บริการ นอกจากนี้เมกไกวส์มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ของศูนย์บริการใหม่เพื่อให้เป็นโลโก้เดียวกันทั่วโลก ซึ่งมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งตอนนี้ในต่างประเทศเช่นประเทศจีน เกาหลี ไต้หวัน ฯลฯ เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว นอกจากนี้กิจกรรม Meguiar’s Award 2007 ซึ่งในปีนี้ดำเนินการเป็นปีที่ 3 ตอนนี้อยู่ในระหว่างการเริ่มดำเนินการ และจะทำการประกาศผลผู้ได้รับรางวัลราวเดือนกรกฎาคมศกนี้ สำหรับสถานที่จัดงานยังไม่กำหนด แต่คาดว่าจะมีความยิ่งใหญ่เพิ่มมากขึ้นจากปี 2006 นอกจากนี้เมกไกวส์ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการพัฒนาเว็ปไซด์ให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีตเพื่อรองรับตามนโยบายการดำเนินธุรกิจในปี 2007 ซึ่งเว็ปไซด์นี้จะมีการให้คำแนะการใช้งานร่วมถึงวิธีการดูแลรักษารถ เพื่อต้องการจะให้ความรู้เจ้าของรถ การดูแลสีรถ การดูแลภายในต่างๆ ที่ถูกต้อง พร้อมทั้งจะมี VDO ที่ให้ความรู้ จำหน่ายด้วยโดยผู้สนใจสามารถสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ทได้และสามารถจัดส่งสินค้าให้ภายใน 2 วัน
รายละเอียดข่าวเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแทนส์ จำกัด
โทร.029861135 ,029861854
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net