ไบโอเนท-เอเชีย เปิดตัวศูนย์วิจัย-พัฒนาและโรงงานผลิตวัคซีนต้นแบบ มาตรฐานจีเอ็มพีแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไอกรน

บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด เปิดตัวศูนย์วิจัย-พัฒนาและโรงงานวัคซีนต้นแบบอันทันสมัย ตามมาตรฐานจีเอ็มพี แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อพัฒนาและผลิตวัคซีนสำเร็จรูปกึ่งอุตสาหกรรม ด้วยเงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ที่มีกำหนดสร้างเสร็จประมาณปลายปี 2551 ไบโอเนท-เอเชีย มุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมด้านวัคซีน เช่น วัคซีนป้องกันโรคไอกรน โดยใช้เทคโนโลยีของบริษัทฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางสำคัญด้านไบโอเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นการดำเนินตามนโยบายของภาครัฐ บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2544 เป็นบริษัทที่ปรึกษาระดับนานาชาติด้านวัคซีน ซึ่งให้บริการด้านการตลาด และเทคโนโลยีแก่บริษัทผู้ผลิตวัคซีนในประเทศกำลังพัฒนา ผู้บริหารของบริษัทฯ ประกอบไปด้วยผู้บริหารคนไทยและต่างประเทศที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญทางด้านวัคซีนและชีววัตถุ มากกว่า 10 ปี ไบโอเนท-เอเชีย ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาการผลิตและการกระจายวัคซีน โดยอาศัยเครือข่ายที่ปรึกษา นักวิชาการ และผู้แทนจำหน่ายวัคซีนที่มีอยู่ทั่วโลก นายวิฑูรย์ วงศ์หาญกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด กล่าวว่า “ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ไม่เพียงแต่ให้การสนับสนุนทางด้านวิชาการแก่เครือข่ายไบโอเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เรายังได้เข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการพัฒนาวัคซีนที่หลากหลายด้วย นอกจากเป้าหมายในการพัฒนาวัคซีนเองแล้ว ไบโอเนทยังต้องการที่จะถ่ายทอดวิสัยทัศน์ และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและผลิตวัคซีนทั้งในรูปแบบของวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และวัคซีนชนิดใหม่ให้แก่พันธมิตรของเรา รวมไปถึงการช่วยกระจายวัคซีนเหล่านั้นให้ไปถึงมือผู้ใช้ด้วย นี่คือเหตุผลที่บริษัทฯ ริเริ่มการก่อสร้างศูนย์วิจัย-พัฒนา มาตรฐานจีเอ็มพี อันทันสมัย เพื่อพัฒนาและผลิตวัคซีนสำเร็จรูปในระดับโรงงานต้นแบบแห่งแรกในประเทศไทย ไบโอเนทกำลังก้าวไปสู่การเป็นบริษัทพัฒนาและจัดจำหน่ายวัคซีนระดับโลกที่สามารถเสนอให้มีการพัฒนาร่วมกันระหว่างผู้ผลิตวัคซีนและองค์กรทางวิทยาศาสตร์” บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย ได้เลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้งโรงงานต้นแบบเพื่อการวิจัยและพัฒนาวัคซีนแห่งแรก เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลไทยมีนโยบายให้การสนับสนุนและพิจารณาให้ไบโอเทคโนโลยีเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ อีกทั้งประเทศไทยยังมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในด้านการวิจัยวัคซีนโรคต่างๆ เช่น ไข้สมองอักเสบ ไข้เลือดออก และโรคพิษสุนัขบ้า นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีสภาพทางเศรษฐกิจที่ เหมาะสม มีระบบการสื่อสาร ระบบโลจิสติก และระบบสาธารณูปโภคที่เอื้ออำนวย ผนวกกับมีช่างเทคนิค นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ และวิศวกรที่ได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดี ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการคิดค้นและพัฒนาวัคซีนใหม่ๆ ดร. ฟาม ฮอง ไทย ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ มีแผนที่จะลงทุนกว่า 300 ล้านบาท สำหรับศูนย์วิจัย-พัฒนา และโครงการในระยะเริ่มต้น ระยะ 2-3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังจะยื่นขอใบอนุญาตส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อจะได้รับสิทธิพิเศษเนื่องจากอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยีถูกจัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่อีกประเภทหนึ่ง ที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้การสนับสนุน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายทางด้านไบโอเทคโนโลยีของประเทศ การริเริ่มจัดตั้งศูนย์วิจัย-พัฒนาในประเทศไทยนับว่าเป็นก้าวแรกสำหรับประเทศไทย ในการเป็นศูนย์กลางด้านไบโอเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย” ศูนย์วิจัย-พัฒนาแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 10 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคซึ่งอยู่ใกล้กับตัวเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ใช้สอยรวม 2,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน ห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีน ที่ผลิตจากแบคทีเรีย ซึ่งมีความปลอดภัยทางชีวภาพระดับที่ 2 ขึ้นไป โดยได้รับการติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์เพาะเชื้อและทำให้เชื้อบริสุทธิ์ รวมทั้งเครื่องจักรอุปกรณ์สำหรับการบรรจุวัคซีนที่ใช้ทดสอบในคน (Clinical Batch) และมีกำลังการผลิตระดับกึ่งอุตสาหกรรม ไบโอเนท-เอเชีย มีความตั้งใจที่จะพัฒนานวัตกรรมด้านวัคซีน โดยใช้เทคโนโลยีและความร่วมมือกับนักวิชาการของประเทศไทย รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตวัคซีนต่างๆ ในเอเชีย ตัวอย่างเช่น โครงงานวิจัยและพัฒนาล่าสุดที่ทางบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย ดร. ฌอง ปีเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและเทคนิค บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด กล่าวว่า “เป้าหมายแรกของศูนย์วิจัย-พัฒนา ไบโอเนท-เอเชีย คือการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดใหม่ วัคซีนชนิดใหม่นี้ถูกนำมาใช้ด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัยที่ดีกว่าชนิดเดิม แต่มีการใช้อยู่ในวงจำกัด เฉพาะในยุโรปตะวันตก อเมริกาเหนือ ญี่ปุ่น และเกาหลี เท่านั้น แม้ว่าวัคซีนชนิดนี้จะได้ถูกพัฒนาขึ้นในระดับอุตสาหกรรมแล้ว องค์การอนามัยโลกก็ยังไม่สามารถที่จะแนะนำให้ใช้ทั่วโลกได้ เนื่องจากเงื่อนไขด้านราคา แต่ปัจจุบันสถานการณ์ดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงไป เมื่อมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่จะจัดหาวัคซีนไอกรนได้ในราคาที่ถูกลง องค์การอนามัยโลกจึงเชิญชวนให้ผู้ผลิตวัคซีนในประเทศที่กำลังพัฒนา ดำเนินโครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดนี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อก่อให้เกิดการใช้วัคซีนอย่างกว้างขวาง ดร. ฌอง ปีเตอร์ กล่าวเสริมว่า “บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลในการสร้าง และผลิตสายพันธุ์เชื้อโรคไอกรนสำหรับผลิตวัคซีน โดยใช้เทคนิคพันธุวิศวกรรมที่ทันสมัย การดำเนินการของศูนย์วิจัย-พัฒนาของไบโอเนท จะสามารถสร้างคุณค่าให้กับประเทศไทยและสนับสนุน โครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค (EPI) ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งในที่สุดแล้วประเทศไทยจะได้รับประโยชน์อย่างยั่งยืนจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยนี้ ดร. ฮอง ไทย กล่าวว่า “ผมเชื่อเป็นอย่างมากว่าภาครัฐและเอกชน ควรที่จะต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและแลกเปลี่ยนความรู้ความชำนาญในด้านไบโอเทคโนโลยีมากขึ้น แท้จริงแล้ววัคซีนหลายตัวที่กำลังพัฒนาอยู่ทั่วโลกในปัจจุบัน ก็เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnerships: PPP) ดังนั้น ไบโอเนท-เอเชีย จึงวางแผนที่จะสร้างความร่วมมืออันจะก่อให้เกิดผลดีในด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนในอนาคต เช่น วัคซีนที่ป้องกันไข้สมองอักเสบ ไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ และเชื้อนิวโมคอคคัส โดยผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนรวมทั้งองค์กรต่างๆ ทั้งของไทย และต่างประเทศ “นอกจากนี้ ความร่วมมือในอนาคตกับสถาบันต่างๆ ในประเทศไทย จะเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ด้านวัคซีนและไบโอเทคโนโลยีสำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาและผลิตวัคซีนใหม่ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ไม่ใช่เพียงแค่การคิดค้นวัคซีนในราคาที่ถูกลงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านทรัพยากรบุคคล เทคโนโลยี และความชำนาญอีกด้วย” นายวิฑูรย์ กล่าวสรุป ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท แบรนด์คอม คอนซัลแทนส์ จำกัด บริษัท ไบเนท-เอเชีย จำกัด คุณไพลิน บูรณะมิตรานนท์ คุณจิตตาพร วัฒนเสรี คุณพัชรี และยา และ คุณเสาวรินทร์ ทองทัศน์ โทร. 02-673-9137-8 แฟกซ์ 02-673-9140 ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด อีเมล์ [email protected] โทร. 02-645-0171 (32 สาย) แฟกซ์ 02-645-0170 สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวไบโอเทคโนโลยี
• ข่าวอุตสาหกรรม
• ข่าวเทคโนโลยี
• ข่าวประเทศไทย
• ข่าวโรคไอกรน