ทัช พร็อพเพอร์ตี้ ชี้เศรษฐกิจยุครัดเข็มขัดคือโอกาสทองของมืออาชีพในธุรกิจบริหารการขายอสังหาริมทรัพย์

ทัช พร็อพเพอร์ตี้ ชี้เศรษฐกิจยุครัดเข็มขัดคือโอกาสทองของมืออาชีพในธุรกิจบริหารการขายอสังหาริมทรัพย์ ลูกค้ามั่นใจช่วยลดความเสี่ยงด้วยประสบการณ์และทีมงานมืออาชีพ - ปี 51 ตั้งเป้าบริหารเพิ่ม 5 โครงการทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้าน บาท- นางสาววิสาร์กร ฉันทไกรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทัช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจบริหารการขายอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางความเสี่ยงของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นจากการภาวะเงินเฟ้อและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ในปีนี้ถือเป็นโอกาสดีของธุรกิจรับบริหารการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผลมาจากการที่ยังมีผู้สนใจลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้นในทำเลที่มีศักยภาพดี ซึ่งผู้ลงทุนต้องการให้บริษัทบริหารการขายมืออาชีพเข้ามาช่วยบริหารงานขายและการตลาด เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ทัช พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารการขายที่มีประสบการณ์ยาวนานในตลาดอสังหาริมทรัพย์ สามารถเติบโตได้กว่า 100% ในระยะเวลาอันสั้น โดยในปี 2550 ซึ่งเป็นปีแรกของการเริ่มดำเนินงานภายหลังจากแยกทีมดำเนินงานจาก พลัส พร้อพเพอร์ตี้ เพื่อขยายธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ให้สามารถรองรับความต้องการของตลาดในทุกระดับ เรามีโครงการที่รับบริหารงานขายอยู่รวม 3 โครงการ คิดเป็นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม Sense Sukhumvit ของกลุ่มบริษัท ศุภราช ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ปัจจุบันมียอดขายกว่า 90%, โครงการคอนโดมิเนียม The Breeze หัวหิน ของกลุ่ม LHM Group (บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากกาญจนบุรี) ปัจจุบันมียอดขายกว่า 65% และโครงการคอนโดมิเนียม Haven ของกลุ่มบริษัท พี เอ็น เรียลพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ปัจจุบันมียอดขาย 40% ในปี 2551 ทัช ตั้งเป้ารับบริหารการขายโครงการเพิ่มอีก 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท โดยเพียงช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ทัช ได้รับบริหารการขายโครงการแล้ว 4 โครงการ รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการที่กรุงเทพฯ 1 โครงการ, โครงการที่พัทยา 2 โครงการ, และโครงการที่หัวหิน 1 โครงการ โดยทั้ง 4 โครงการจะเริ่มทยอยเปิดขายตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการรับบริหารการขายเพิ่มอีก 1 โครงการ ซึ่งทำให้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้แน่นอน “ทัช พร็อพเพอร์ตี้ บริหารงานขายภายใต้ปณิธานที่ว่า ธุรกิจของลูกค้าคือธุรกิจของเรา ดังนั้น เราจึงวางแผนกลยุทธ์ในด้านการตลาด การขาย และการประชาสัมพันธ์อย่างละเอียด เพื่อให้สามารถสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้แผนการตลาดและการขายเป็นไปตามเป้าหมายและงบประมาณที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ที่เราสามารถทำได้นั้น เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ด้านการตลาดและการขายมากว่า 10 ปี ทำให้เราสามารถมองเห็นถึงจุดอ่อน-จุดแข็ง โอกาสและอุปสรรคในการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์แต่ละโครงการได้เป็นอย่างดี โดยเราสามารถทำการบริหารได้ทั้งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพราะมีความพร้อมด้านบุคลากรและข้อมูลตลาดที่เป็นประโยชน์ในการวางแผนการตลาดและการขาย เพื่อให้เกิดกลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแก่ลูกค้าของเรา” นางสาววิสาร์กร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทัช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าว เมื่อประเมินถึงอัตราการเติบโตของธุรกิจบริหารการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์นั้น นางสาววิสาร์กร กล่าวแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “โดยส่วนตัวมองว่ายิ่งเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัว โอกาสของธุรกิจด้านที่ปรึกษางานขายยิ่งได้รับความสำคัญมากขึ้น เพราะผู้ลงทุนต้องการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังและ “พลาดไม่ได้” และหากรายใดที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์และความชำนาญทางด้านการตลาดหรือทีมงานขายพอ สิ่งแรกที่ต้องนึกถึงคือ “บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารการขาย” เนื่องจากกลุ่มผู้พัฒนาหน้าใหม่ต้องการทีมงานมืออาชีพมาคอยให้คำปรึกษาเพื่อลดความเสี่ยงกับสภาวะตลาดปัจจุบัน ปัจจุบันกลุ่มผู้สนใจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหม่ๆ ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นโครงการในระดับกลาง ทำให้ ทัช มีโอกาสที่จะขยายธุรกิจบริการด้านนี้มากยิ่งขึ้น” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วิภาวริศ เกตุปมา หรือ จาจิญา เพ็งพันธ์ และศิริรักษ์ วัลมาลี บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด 02-951-9119, 081-890-3568, 084-155-1987 สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าววิสาร์กร ฉันทไกรวัฒน์
• ข่าวทัช พร็อพเพอร์ตี้
• ข่าวอสังหาริมทรัพย์
• ข่าวพร็อพเพอร์ตี้
• ข่าวเมืองไทย