มายด์แชร์ชี้เทรนด์ คอมพิวเตอร์คือจอที่เด็กเลือกรับชมมากที่สุด

นางสาวปัทมวรรณ สถาพร Director of Insights and Research, มายด์แชร์ กล่าวว่า “ในฐานะที่เราเป็นผู้นำธุรกิจเอเยนซี่ด้านบริการสื่อโฆษณา และการลงทุนด้านการสื่อสารของประเทศไทย เราจึงได้ให้ความสำคัญกับการทำการศึกษาและวิจัยผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โอกาสเปิดภาคการศึกษานี้บริษัทฯจึงได้ทำวิจัย “โลลีป๊อป” ในกลุ่มเด็กอายุ 6 -11 ปี ซึ่งมีจำนวนถึง 9 % ของจำนวนประชากรของประเทศ เป็นการทำวิจัยร่วมกับบริษัทวิจัยผู้บริโภค Millward Brown Firefly งานวิจัยนี้จะทำให้ลูกค้าของเราที่เป็นเจ้าของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเด็กเข้าใจแนวคิดความต้องการของเด็กๆ จากพฤติกรรมและการใช้ชีวิตของเด็กๆมากขึ้น ” นางสาวปัทมวรรณ กล่าวต่อว่า “จากที่เราเข้าไปศึกษาชีวิตประจำวันของเด็กๆ ปรากฎว่า เด็กชอบสื่อที่มีภาพเคลื่อนไหว และนำเสนอเรื่องที่เป็นเหตุเป็นผล “จอทีวี” ยังมีบทบาทสำคัญในการรับสื่อของเด็กแต่เทรนด์ของการรับสื่อผ่านจอต่างๆได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ที่ชี้ชัดคือเมื่อเด็กมีโอกาศของการได้มีคอมพิวเตอร์และ/หรือถ้ามีเวลาใช้คอมพิวเตอร์ได้มากยิ่งขึ้น เทรนด์ของสื่อสำหรับเด็กน่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน” งานวิจัยนี้เป็นการทำวิจัยในเชิงคุณภาพ (Qualitative) ที่ใช้วิธีการ Ethnography คือเข้าไปสอบถามและศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค “ในอดีตพวกเราเติบโตและรู้จัก จอ 2 จอ คือ จอทีวี และจอภาพยนตร์ แต่ในปัจจุบันหากนับกันให้ดีๆรอบๆตัวเรามี “จอ” มากกว่า 25 “จอ” ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น จอกล้องดิจิทัล จอมือถือ จอเกมส์กด จอในรถยนตร์ หรือจอ LCD ในรถไฟฟ้า ฯลฯ จอต่างๆอยู่รอบข้างเด็กทุกๆวันแต่เด็กยังไม่ค่อยได้นึกถึงจอเหล่านี้มากนัก เด็ก ๆ ปัจจุบันใช้เวลาว่างในการรับชมผ่านจอเป็นส่วนใหญ่แบ่งได้ดังนี้ 2- 4 ชั่วโมงต่อวันกับการดูทีวีในห้องนั่งเล่นหรือในห้องนอน เล่นเกมส์อีก 1 ชั่งโมงในวันธรรมดา และอาจถึง 3-4 ชั่วโมงต่อวันในช่วงเสาร์และอาทิตย์ เล่นอินเตอร์เน็ต 1 ชั่วโมงต่อวันในวันธรรมดา และอาจมากกว่านั้นในช่วงเสาร์และอาทิตย์ อย่างที่กล่าวไว้เบื้องต้นจอ ที่กลุ่มอายุ 6 - 11 ปี ต้องการมากที่สุดคือ คอมพิวเตอร์ เพราะเปรียบเสมือน ‘all-in-one’ สามารถดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ค้นหาข้อมูล ในจอเดียว” ปัทมวรรณกล่าว นางสาวปัทมวรรณชี้ว่า นักการตลาดปัจจุบันจำเป็นที่จะต้องติดตามและเข้าใจผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลาเพื่อปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขันกันทำการตลาดในยุคที่เปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้นักการตลาดจะมองว่ากลุ่มเป้าหมายของสินค้าเด็กคือแม่ของเด็กๆเพราะแม่คือผู้มีเงินในการใช้จ่ายมากกว่าเด็กและเป็นคนติดสินใจเลือกซื้อสินค้าและยี่ห้อต่างๆให้แก่ลูกและครอบครัว แต่สำหรับครอบครัวปัจจุบัน เด็กๆมีบทบาทอย่างมากในครอบครัว มายด์แชร์ Insight เชื่อว่างานวิจัยนี้จะทำให้ลูกค้าของบริษัทฯเข้าใจแนวคิดความต้องการของเด็กๆมากขึ้น เลือกใช้สื่อและวางสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมถึง พัฒนาเนื้อหาของงานโฆษณาในรูปแบบต่างๆ ที่คำนึงถึงและเป็นประโยชน์ต่อเด็กมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการทำ เว็บไซต์ สปอนเซอร์รายการ หรือ การสร้างเนื้อหารายการขึ้นเอง (Branded Content) สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวปัทมวรรณ สถาพร
• ข่าวการศึกษานี้
• ข่าวคอมพิวเตอร์
• ข่าวการสื่อสาร
• ข่าวมายด์แชร์