กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา
น.พ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประ ธานคณะผู้บริหารกลุ่ม โรงพยาบาลกรุง เทพตะวันออก ประกอบด้วย โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี และโรงพยาบาลกรุงเทพตราด เปิดเผยถึงแนวทางธุรกิจเฉพาะของ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ในปีนี้ ว่า
ร.พ.กรุงเทพพัทยาเผยแผนธุรกิจ หันจับกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น หลังปรับ Position จากไฮเอนด์ สู่ลูกค้ารายได้ระดับกลาง หวังโกยรายได้แบบยั่งยืน ไม่อิงลูกค้าต่างชาติที่เอาแน่ไม่ได้ ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจ และการเข้ามารักษารูปแบบเชิงท่องเที่ยวตามฤดูกาล ตั้งเป้าเติบโต 10% จากกลยุทธ์ราคาที่ลดแล้ว 15-20% ค่าบริการทางการแพทย์ และทำกิจกรรมเข้าหาชุมชนรูปแบบ CSR ซื้อใจคนท้องถิ่น
ทิศทางการดำเนินงานและกลุ่มเป้าหมาย ร.พ.กรุงเทพพัทยาปีนี้วางไว้อย่างไร?
ร.พ.กรุงเทพพัทยา ได้ปรับ Position ของตัวเองมาเป็นโรงพยาบาลดูแลคนไข้ในท้องถิ่นโดยปรับราคาการรักษาพยาบาล บริการให้ค่าใช้จ่ายของคนไข้ลดลง จากไฮเอนด์ สู่กลุ่มผู้บริโภครายได้ระดับกลางมากขึ้น
ปี 2552 นี้ร.พ. กรุงเทพพัทยาตั้งเป้าหมายจะเป็นศูนย์กลางที่จะรักษาพยาบาลของภาคตะวันออก ที่มีศักยภาพการเป็นศูนย์ชำนาญการรักษาโรคเฉพาะทางเช่น ศูนย์หัวใจ ศูนย์สมอง ศูนย์กระดูกและข้อ ศูนย์การได้ยิน และศูนย์ดูแลผู้มีบุตรยาก ฯลฯ ด้วยเครื่องมือแพทย์ ที่ทันสมัยและทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะโรค
สัดส่วนคนไข้ต่างชาติ เดิมตั้งเป้าเฉลี่ยต่อปีให้เกิน 60% ปีนี้ปรับสัดส่วนคนไข้ต่างชาติเฉลี่ยทั้งปีไม่น่าจะเกิน 60% เพราะส่วนใหญ่แล้วตัวเลขคนไข้ต่างชาติจะผันแปรไปตามฤดูกาลท่องเที่ยว ไฮซีซั่น สัดส่วนจะอยู่ประมาณ 65% ส่วนโลว์ซีซันสัดส่วนจะอยู่ระหว่าง 45-50%
แผนการตลาดเพื่อที่จะประชาสัมพันธ์ ให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้?
การประชาสัมพันธ์และกิจกรรมการ ตลาดมุ่งเน้นให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่าเราเป็นโรงพยาบาลผู้ให้บริการสังคม ที่สามารถไว้ใจให้เราดูแลสุขภาพและการบริการ นอกจากนี้กิจกรรมไม่ได้หว่านงบโฆษณาประชาสัมพันธ์มากนัก หลักๆ แล้วโฟกัสไปที่กิจกรรมเพื่อสังคม หรือซีเอสอาร์ Corporate Social Responsibility กับชุมชนมากขึ้นซึ่งทำมาหลายโครงการตลอดปีที่ผ่านมาเพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าสังคมสามารถไว้วางใจ ทั้งคุณภาพการรักษาและบริการได้
ในเรื่องของราคานั้นปีนี้จะยังคงอัตราเดิมเอาไว้ไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด นอกจากนี้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าองค์กร พนักงานบริษัท ร.พ.กรุงเทพพัทยา มีการทำสัญญาร่วมกันอยู่แล้วปีนี้จะมีการลดราคาในบางหน่วยงานถึงครึ่งหนึ่ง อย่างหน่วยงานราชการเองสามารถเบิกได้บางส่วนการรักษาพยาบาลบางโรค เพื่อขยายฐานคนไข้ระดับกลางเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลมากขึ้น
ร.พ.กรุงเทพพัทยา จะมีการลงทุนอะไรใหม่ๆ บ้างในปีนี้
เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาได้ลงทุนสร้างอาคารใหม่ ทำ ให้สามารถรองรับผู้ป่วยคนไข้ในถึง 300 ห้อง ปีนี้จะเป็นการลงทุนต่อเนื่องในส่วนของเครื่องมือทางการแพทย์ เทคโนโลยีใหม่ๆ การอบรมพัฒนาทักษะบุคลากรทางการ แพทย์ และการบริการ สำหรับการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ให้ทันสมัย เพราะปัจจุบันเครื่องไม้เครื่องมือจะต้องปรับคุณภาพให้ทันเทคโนโลยีด้วย เช่นปีนี้ศูนย์โรคหัวใจ เราได้ซื้อเครื่องกระตุ้นหัวใจ 4-5 เครื่อง, อุปกรณ์พิเศษตรวจสอบคัดกรองโรคหัวใจ, เครื่องช่วยฟัง เรื่องของโรคทางทางสมอง เส้นเลือดผิดปกติ เป็นต้น
ข้อได้เปรียบ อะไรที่คิดว่า ร.พ.กรุงเทพพัทยา มีเหนือคู่แข่งในทำเลเดียวกัน?
โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางประจำกว่า 100 คนไม่รวมแพทย์ที่ปรึกษาอีกกว่า 100 คน อย่างศูนย์โรคหัวใจมีแพทย์ประจำ 10 คน ศูนย์โรคทางสมองมี 5 คน เป็นต้น อย่างไรก็ตามความเป็น ร.พ.กรุงเทพพัทยา เมื่อมีโรงพยาบาลใกล้เคียงขอความช่วยเหลือ เมื่อมีแพทย์ที่ทำการรักษาไม่เพียงพอในบางกรณี หรือโรงพยาบาลรัฐขอความช่วยเหลือเข้ามา เราก็ส่งทีมแพทย์เข้าไปช่วยเหลือ
ปีนี้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตผลประกอบการไว้อย่างไร?
ยอมรับว่าปีนี้คาดเดายาก ในสถาน การณ์ที่แปรปรวน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ ที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโรงพยาบาลจะต้องเติบโต ทำให้เราตั้งเป้าปีนี้ ไม่น้อยกว่า 10% จากปีที่แล้วผลประกอบ การ ร.พ.กรุงเทพพัทยา อยู่ที่กว่า 2,000 ล้านบาท และเป็นอันดับสาม ในการทำรายได้สูงสุดให้กับกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เบอร์หนึ่งเป็นโรงพยาบาลกรุงเทพอันดับ สองเป็น โรงพยาบาลสมิติเวช
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 086-396-7011 Anan
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net