นายองอาจ พร้อมจรรยากุล รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า กรมธุรกิจพลังงานในฐานะผู้ดูแลความปลอดภัยของการใช้พลังงานโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือก๊าซหุงต้ม โดยเร่งรัดให้ผู้ค้าก๊าซตามมาตรา 7 ทดสอบและหรือซ่อมบำรุงถังก๊าซหุงต้มที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี และ10 ปี ตามมาตรฐาน สมอ. ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2549 และเพื่อให้การทดสอบและซ่อมบำรุงถังก๊าซหุงต้มเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดโครงการสำรวจและติดตามผล ณ สถานีบรรจุก๊าซรวมทั้งสิ้น 12 ครั้ง ทั่วประเทศ สำหรับการดำเนินงานนั้น กรมธุรกิจพลังงานได้ประสานกับพลังงานจังหวัด เพื่อออกตรวจสอบโรงบรรจุก๊าซทั่วประเทศ โดยหมุนเวียนไปทุกสำนักวิชาการพลังงานภาค 1 – 12 ซึ่งแต่ละครั้งจะแบ่งเป็น 2 สายๆ ละ 2 - 3 คน โดยจะเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2552 – เดือนมกราคม 2553 ซึ่งหากพบว่ามีถังก๊าซหุงต้มที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี และ10 ปี จะมีการดำเนินการตามมาตรฐาน สำหรับถังอายุเกิน 5 ปี (แต่ไม่เกิน10 ปี) เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำ ตักเตือน และเร่งรัดให้โรงบรรจุก๊าซส่งถังก๊าซหุงต้มให้ผู้ค้าก๊าซมาตรา 7 ทดสอบและหรือซ่อมบำรุง สำหรับถังที่อายุเกิน 10 ปี จะดำเนินการสั่งงดบรรจุก๊าซและทำเครื่องหมายกากบาทสีดำบนถังก๊าซหุงต้ม
“กรมธุรกิจพลังงาน ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก โดยมาตรการคัดแยกถังก๊าซหุงต้มเพื่อให้บริษัทผู้ค้าก๊าซมาตรา 7 ทดสอบและหรือซ่อมบำรุงเมื่อมีอายุครบวาระ 5 ปี และ 10 ปี ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีส่วนในการช่วยลดปัญหา และอุบัติเหตุจากการใช้ถังก๊าซหุงต้มที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนให้เชื่อมั่นในความปลอดภัยของตัวถังก๊าซหุงต้มด้วย” นายองอาจกล่าว
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net