ผลสำรวจความเชื่อมั่นลูกค้าสินเชื่อธนาคารกรุงไทยไตรมาสที่ 4 ปี 2552 เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 และทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี สะท้อนความเชื่อมั่นของนักธุรกิจต่อภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจว่ามีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น รวมทั้งสอดคล้องกับเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
นางพัชรศิริ เกียรติกำจาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารความเสี่ยงและกำกับ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงผลการจัดทำดัชนีธุรกิจกรุงไทย หรือ Krung Thai Business Index (KTBI) ซึ่งเป็นดัชนีความเชื่อมั่นของนักธุรกิจทุกประเภททุกขนาดทั่วประเทศรวมกว่า 2,200 ราย ว่าดัชนี KTBI ประจำไตรมาสที่ 4/2552 ที่สำรวจในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 โดยปรับขึ้นจากระดับ 52.31 ในไตรมาสก่อนเป็น 54.52 ทั้งยังเป็นค่าดัชนีที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี นับจากไตรมาสที่ 4 ปี 2547
การปรับตัวเพิ่มขึ้นของ ดัชนี KTBI เป็นไปในทิศทางเดียวกับผลการสำรวจความเชื่อมั่นของแหล่งอื่น รวมทั้งสอดคล้องกับเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญอื่น ๆ เช่น ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการส่งออก นอกจากนี้ ผลการสำรวจครั้งนี้ยังพบว่า ความเชื่อมั่นในทุกองค์ประกอบของดัชนีล้วนปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นด้านภาวะธุรกิจโดยรวมและภาวะตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นมาก
นางพัชรศิริ เกียรติกำจาย เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นใน 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยอยู่ที่ระดับ 55.23 จากระดับ 53.44 ในไตรมาสก่อน ปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ การปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP ในปี 2553 การดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 หรือแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ที่มีวงเงินลงทุนสูงถึง 1.43 ล้านล้านบาท และได้เริ่มดำเนินโครงการแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งปัญหากรณีมาบตาพุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2208-4174-7
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net