LHK ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 พร้อมปรับขบวนบริษัทฯ ในเครือขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

นายประสาน อัครพงศ์พิศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โลหะกิจ เม็ททอล จำกัด (มหาชน) ผู้นำในการประกอบธุรกิจให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์สเตนเลสม้วนครบวงจร เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 2 เดือนกรกฎาคม - กันยายน 2552 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 494.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.80% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาและมีกำไรสุทธิ 27.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 278.80% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน ผลประกอบการในงวดครึ่งปีแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 904.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 17.93 ล้านบาท สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อย บริษัท ออโต้ เม็ททอล จำกัด ผู้ผลิตท่อสเตนเลสสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ได้เริ่มทำการส่งผลิตภัณฑ์ท่อไอเสียไปยังประเทศอินเดียตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทได้รับการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งปีนี้และปีหน้า นอกจากนี้บริษัทยังขยายฐานพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทฯ ท้องถิ่นของอินเดียอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มในการปรับตัวที่ดีขึ้น ปัจจุบันประเทศอินเดียเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตรถจักรยานยนต์และรถยนต์ขนาดเล็กซึ่งประหยัดพลังงานและเป็นแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกในขณะนี้ โดยการคาดการณ์จากกลุ่มนักธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ ประเทศอินเดียจะสามารถพัฒนาตนเองไปสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในไม่ช้า ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่ายอดขายของบริษัทจะเติบโตขึ้น จากการได้รับออเดอร์ท่อไอเสียสำหรับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากทางภาครัฐสนับสนุนการผลิตรถยนต์ Eco Car ซึ่งเป็นรถยนต์ของ Trend อนาคต ประกอบกับแนวโน้มผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคมาใช้รถยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น ได้แก่ สภาพเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น กฎเกณฑ์การให้สินเชื่อที่ผ่อนคลายมากขึ้นของสถาบันการเงิน และการแข่งขันกันทุ่มกิจกรรมการตลาดของค่ายรถจักรยานยนต์และดีลเลอร์ นอกจากนี้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของปี 2552 การสั่งซื้อจากลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิคส์ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากระดับสินค้าคงคลังที่ปรับตัวลดลง ทำให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเพื่อเติมเต็มคำสั่งซื้อที่เริ่มมีเข้ามา อีกหนึ่งบริษัทย่อย บริษัท ดี-สเตนเลส จำกัด ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท สเตนเลสทางเลือก จำกัด โดยสินค้าในกลุ่ม D-Stainless ทั้งผลิตภัณฑ์แผ่นและท่อสเตนเลสจากประเทศญี่ปุ่น ยังคงมีการจัดจำหน่ายเป็นปกติเช่นเดิมภายใต้บริษัท สเตนเลสทางเลือก จำกัด โดยทางบริษัทฯ จะสามารถเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้นโดยการคัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้คอบคลุมและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่หลากหลายระดับในประเทศ ทั้งนี้บริษัท โลหะกิจ เม็ททอล จำกัด(มหาชน) ผู้นำในการให้บริการสเตนเลสครบวงจรด้วยระบบ iSerlution มั่นใจว่าจะสามารถนำองค์ความรู้ ประสบการณ์และเทคโนโลยีของบริษัทฯ มาสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทั้ง 2 บริษัทในเครือเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี

• ข่าวประสาน อัครพงศ์พิศักดิ์
• ข่าวผลประกอบการไตรมาส
• ข่าวโลหะกิจ เม็ททอล
• ข่าวเวลาเดียวกัน
• ข่าวผลประกอบการ