ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 ประจำวันที่ 3 ม.ค. 54 เกิดอุบัติเหตุทางถนนรวม 346 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 44 คน ผู้บาดเจ็บ 362 คน รวม 5 วัน (29 ธ.ค. 53 – 3 ม.ค. 54) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,227 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 325 คน ผู้บาดเจ็บ 3,453 คน ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจะได้สรุปวิเคราะห์สาเหตุเชิงลึกของปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 พร้อมจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3 มกราคม 2554 ซึ่งเป็นวันที่หกของการรณรงค์ในช่วง 7 วันระวังอันตราย พบว่า เกิดอุบัติเหตุ รวม 346 ครั้ง ลดลงจากปี 2553 (358 ครั้ง) 12 ครั้ง ร้อยละ 3.35 ผู้เสียชีวิต 44 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2553 (30 คน) 14 คน ร้อยละ 46.67 ผู้บาดเจ็บ 362 คน ลดลงจากปี 2553 (378 คน) 16 คน ร้อยละ 4.23 สาเหตุ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 31.79 รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 21.97 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้บาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 26.60 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 84.38 รองลงมา รถปิกอัพ ร้อยละ 7.39 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 59.25 บนถนนสายหลัก (ทางหลวงแผ่นดิน) ร้อยละ 40.46 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01- 20.00 น. ร้อยละ 31.50 โดยผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 52.22 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก 18 ครั้ง รองลงมา นครศรีธรรมราช 17 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 4 คน รองลงมา สงขลา 3 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 21 คน รองลงมา พิษณุโลก 18 คน จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ รวม 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นนทบุรี ยโสธร สระแก้ว และสุโขทัย ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,529 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 69,552 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 756,133 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการลดพฤติกรรมเสี่ยง 10 มาตรการรวม 89,822 ราย ส่วนใหญ่ไม่มีใบขับขี่ 27,114 ราย ร้อยละ 30.19 รองลงมา ไม่สวมหมวกนิรภัย 26,808 ราย ร้อยละ 29.85
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วัน (วันที่ 29 ธ.ค.53 – 3 ม.ค. 54) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,227 ครั้ง ลดลงจากปี 2553 (3,289 ครั้ง) 62 ครั้ง ร้อยละ 1.89 ผู้เสียชีวิตรวม 325 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2553 (309 คน) 16 คน ร้อยละ 5.18 ผู้บาดเจ็บรวม 3,453 คน ลดลงจากปี 2553 (3,563 คน) 110 คน ร้อยละ 3.09 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ เชียงราย 114 ครั้ง รองลงมา พิษณุโลก 109 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ลพบุรี 13 คน รองลงมา นครราชสีมา และสุรินทร์ จังหวัดละ 11 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 123 คน รองลงมา นครศรีธรรมราชและพิษณุโลก จังหวัดละ 117 คน
นายสรยุทธ กล่าวต่อไปว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 ประชาชนบางส่วนยังอยู่ระหว่างการเดินทางกลับ ซึ่งจากการดำเนินงานในช่วง 6 วันที่ผ่านมา พบว่า จำนวนการเกิดอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บลดลง ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น อีกทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นคนในพื้นที่สูงกว่าร้อยละ 80 เนื่องจากผู้ใช้รถใช้ถนนขาดวินัยในการขับขี่ และจากการวิเคราะห์อุบัติเหตุรายใหญ่ พบว่า ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความประมาทของผู้ขับขี่ การขับรถด้วยความเร็วสูง และเมาสุรา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ในคราวเดียวกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจะได้สรุปวิเคราะห์สาเหตุเชิงลึกของปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 พร้อมจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็งต่อไป
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนที่เดินทางกลับในวันนี้ให้ขับรถอย่างมีสติ ไม่ประมาท ไม่ขับรถเร็ว เคารพกฎจราจร มีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง หากเดินทางในระยะไกล ให้เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่ทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาททำให้เกิดอาการง่วงนอน รวมถึงตรวจสอบสภาพยานพาหนะให้พร้อมก่อนเดินทาง หากมีอาการอ่อนเพลีย ให้จอดพักตามสถานีบริการน้ำมันหรือจุดบริการตามเส้นทางต่างๆ ท้ายนี้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิและอาสาสมัครต่างๆ ที่ได้บูรณาการความร่วมมืออำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยในการเดินทางให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่