“บมจ.พี พลัส พี” จัดโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ ระบุเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุดและรองรับแผนการขยายงานในอนาคต พร้อมให้ “มันตรา แอสเซ็ท” ลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสม หวังอนาคตสามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เร็วยิ่งขึ้น “ชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์” ยืนยันวันนี้ PLUS เข้มแข็ง หวังผลประกอบการเติบโตโดดเด่น พร้อมยืนยันเป้าหมายก้าวสู่การเป็นบริษัทสื่อและสิ่งพิมพ์ที่ครอบคลุมมากที่สุด
นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี พลัส พี จำกัด (มหาชน) (PLUS) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัทครั้งที่ 7/2554 ได้มีมติให้ชะลอการซื้อทรัพย์สินและรับโอนกิจการทั้งหมดจาก บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (AQUA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ไว้ก่อน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างการพิจารณาจัดโครงสร้างธุรกิจและแหล่งเงินทุนของกลุ่มบริษัทใหม่ให้มีความเหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ และรวมไปถึงแผนการขยายงานในอนาคต
พร้อมกันนี้ได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท มันตรา แอสเซ็ท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ลดทุนจดทะเบียน เพื่อล้างผลขาดทุนสะสมของบริษัทย่อยและคืนเงินทุนให้กับผู้ถือหุ้น โดยให้โอนเงินทุนสำรองตามกฏหมายจำนวน 4,562,386.67 บาท เพื่อล้างขาดทุนสะสม และลดทุนจดทะเบียน จำนวน 112.50 ล้านบาท โดยการลดจำนวนหุ้นลง 11.25 ล้านหุ้น หุ้นละ 10 บาท เพื่อล้างผลขาดทุนส่วนที่เหลือจากการโอนเงินทุนสำรองตามกฏหมายแล้ว ให้นำเงินลดทุนส่วนที่เหลือคืนให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งภายหลังการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ บริษัท มันตรา แอสเซ็ท จำกัด บริษัทย่อย มีทุนจดทะเบียนคงเหลือเท่ากับ 37.50 ล้านบาท จำนวน 3.75 ล้านหุ้น หุ้นละ 10 บาท
“ในปัจจุบัน PLUS ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของ AQUA ในสัดส่วนร้อยละ 100 แต่จำเป็นต้องชะลอการเข้าซื้อทรัพย์สินของ AQUA เพราะต้องการที่จะจัดโครงสร้างธุรกิจภายในองค์กรให้มีความชัดเจน เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด อันเป็นการเดินไปสู่เป้าหมายของการเป็นบริษัทสื่อและสิ่งพิมพ์ให้ครอบคลุมมากที่สุด นอกจากนี้ การลดทุนจดทะเบียนของ “มันตรา แอสเซ็ท” ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างธุรกิจในครั้งนี้เช่นกัน เนื่องจากเป็นการลดทุนจดทะเบียนเพื่อล้างผลขาดทุนสะสม
อันจะส่งผลบวกต่อ PLUS ทำให้ขาดทุนสะสมลดลงด้วยเช่นกัน และเป็นอีกช่องทางที่จะทำให้อนาคต PLUS สามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เร็วยิ่งขึ้น”
นางชวนพิศกล่าวต่อในช่วงท้ายว่าแม้ PLUS ยังไม่ได้ซื้อทรัพย์สินจาก AQUA ก็ไม่กระทบต่อผลประกอบการของบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากการดำเนินธุรกิจยังคงเป็นไปตามปกติและในปัจจุบันถือว่าบริษัทมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของ PLUS ในอนาคต คาดว่าจะมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยแรงสนับสนุนของ AQUA ซึ่งที่ผ่านมาสามารถสร้างผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net