ริเวอร์เบด เทคโนโลยี (NASDAQ : RVBD) ผู้ผลิตอุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกาศเข้าร่วม OpenStack? community ชุมชนระดับโลกที่ร่วมมือพัฒนาบนสถาปัตยกรรมคลาวด์และระบบปฏิบัติการคลาวด์แบบเปิด เหตุมาจากหลายองค์กรทุกวันนี้ได้ย้ายทั้งข้อมูลและแอพพลิเคชันไปอยู่บนระบบคลาวด์โดยเชื่อมโยงการใช้งานผ่านทางเครือข่าย WAN ซึ่งทำให้เกิดความท้าทายด้านประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชันที่ใช้ และในฐานะสมาชิกของ OpenStack ริเวอร์เบดได้เพิ่มการสนับสนุนมาตรฐานดังกล่าวบนโซลูชันเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายระยะไกล (WAN Optimization) เพื่อช่วยให้องค์กรปรับเปลี่ยนสู่สภาพแวดล้อมแบบคลาวด์ได้สำเร็จ
การผสานมาตรฐานของชุมชน OpenStack เข้ากับโซลูชันการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย WAN ของริเวอร์เบดนั้น นับเป็นการต่อยอดความร่วมมือที่ริเวอร์เบด เคยมีกับชุมชน OpenStack ในเรื่องที่เกี่ยวกับการพัฒนาระบบควบคุมการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันเสมือน (vADC - virtual Application Delivery Controller) มาก่อนหน้านี้แล้ว โซลูชันเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย WAN และระบบคุมการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันเสมือนของริเวอร์เบดจะช่วยให้องค์กรมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ระบบไอทีขององค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนสภาพแวดล้อมทั้งพับบลิค, ไพรเวทและไฮบริดคลาวด์
“เราเชื่อว่าเป็นเรื่องดีที่ผู้นำด้านต่างๆ ของอุตสาหกรรมไอทีมาร่วมจับมือกันพัฒนาเทคโนโลยีระบบเปิดเพื่อประโยชน์ของสังคมและระบบประมวลผลแบบคลาวด์ ซึ่งจะเป็นการช่วยให้ระบบประมวลผลแบบคลาวด์เติบโตจนสามารถตอบสนองความท้าทายด้านการใช้งานแอพพลิเคชันในอนาคตได้” มาร์ค คูลเลียร์ รองประธาน Rackspace Cloud Builbers กล่าว
องค์กรกว่า 16,000 แห่งทั่วโลกต่างนำริเวอร์เบดมาช่วยในการทำความเข้าใจ, ควบรวมโครงสร้างระบบสารสนเทศและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยโซลูชันที่ช่วยให้องค์กรก้าวข้ามปัญหาด้านประสิทธิภาพการใช้งานเนื่องจากระยะทาง, ระบบสารสนเทศแบบกระจายศูนย์และปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น และเมื่อองค์ไอทีเริ่มหันมาควบรวมระบบ ทำเป็นระบบเสมือนรวมถึงย้ายการทำงานมาสู่คลาวด์ ทำให้ผู้ใช้อยู่ห่างไกลจากข้อมูลมากขึ้น แอพพลิเคชันเริ่มทำงานช้า ทั้งการย้ายไฟล์และเว็บไซต์เริ่มด้อยประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบต่อระบบงานโดยรวม ทั้งนี้ริเวอร์เบดจึงช่วยเปลี่ยนโฉมหน้าให้กับระบบไอทีให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วยการนำเสนอโซลูชันที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพให้กับเครือข่าย WAN ให้ระบบบริหารประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่ายในระดับของแอพพลิเคชัน มีระบบคุมการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน, ระบบเพิ่มประสิทธิภาพเว็บคอนเทนต์และระบบปกป้องข้อมูลบนคลาวด์สำหรับการสำรองข้อมูล, การจัดเก็บข้อมูลในระยะยาว รวมถึงระบบฟื้นฟูจากภัยพิบัติ ด้วยโซลูชันเพิ่มประสิทธิภาพระบบไอทีที่ครอบคลุมช่วยให้องค์กรสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้, สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทุกแอพพลิเคชัน ริเวอร์เบดช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพการทำงาน รวมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจและควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
เวนนูโกพาล ไป รองประธานฝ่ายพันธมิตรระดับโลก ของ ริเวอร์เบด กล่าวว่า “ทุกวันนี้เราก็หวังว่าการใช้งานแอพพลิเคชันบนคลาวด์จะสามารถให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกับผู้ใช้ โดยที่ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับว่าจะเชื่อมต่ออย่างไรหรืออยู่ที่ไหน ริเวอร์เบดทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาโซลูชันเพื่อตอบสนองความท้าทายด้านประสิทธิภาพให้กับหลายองค์กรที่ย้ายไปสู่สภาพแวดล้อมแบบคลาวด์” พร้อมเสริมว่า “ในฐานะหนึ่งในสมาชิกของ OpenStack ริเวอร์เบดจะเข้าไปช่วยออกแบบ, กำหนดคุณสมบัติและพัฒนามาตรฐานระบบเปิดสำหรับคลาวด์ เพื่อช่วยให้สามารถผนวกเข้ากับเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพระบบคลาวด์เพื่อสนองตอบความต้องการของแอพพลิเคชันในอนาคต และการเข้าร่วมกับ OpenStack จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับริเวอร์เบดในการสร้างความมั่นใจให้กับองค์กรทั่วโลกที่พยายามย้ายแอพพลิเคชันไปสู่สภาพแวดล้อมทั้งในระบบพับบลิค, ไพรเวทและไฮบริดคลาวด์ ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีเช่นเดิม
เกี่ยวกับ ริเวอร์เบด
ริเวอร์เบด มอบศักยภาพให้กับองค์กรที่มีการเชื่อมต่ออยู่ทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยีของริเวอร์เบดองค์กรธุรกิจสามารถติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อใช้ในเชิงกลยุทธ์ได้อย่างชาญฉลาดและประสบความสำเร็จ อย่างเช่น ระบบเสมือน, การควบรวมระบบ, การประมวลผลแบบคลาวด์ รวมถึงเทคโนโลยีการกู้คืนระบบจากภัยพิบัติ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ด้วยการมอบแพลตฟอร์มที่เหมาะสมให้กับองค์กรที่ต้องการเข้าใจระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมควบรวมระบบ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งริเวอร์เบดช่วยให้องค์กรเหล่านี้สามารถสร้างระบบโครงสร้างไอทีแบบไดนามิคได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว สอดรับกับความต้องการทางธุรกิจขององค์กร ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับริเวอร์เบด (NASDAQ: RVBD) พร้อมแล้วที่ www.riverbed.com