คนทำงานเครียดหางานพิเศษเพิ่มรายได้ หวังใช้ฟื้นฟูบ้านหลังน้ำลดและรับมือภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

จ็อบสตรีทดอทคอม เว็บไซต์จัดหางานที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการส่งเสริมความก้าวหน้าด้านอาชีพ จัดสำรวจแผนการรับมือจากผลกระทบน้ำท่วมในกลุ่มคนทำงาน ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อสำรวจการรับมือและความต้องการความช่วยเหลือจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ พบว่าผู้ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างและลดค่าแรงมีมากถึง 34% และมีถึง 59% ที่กำลังมองหางานใหม่และต้องการหารายได้เสริมเพื่อให้ครอบคลุมภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นหลังน้ำลด นางสาวฐนาภรณ์ สถิตพันธุ์เวชา ผู้จัดการสาขาประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ็อบสตรีท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งร้ายแรงที่เกิดขึ้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาส่งผลกระทบอย่างมากมายต่ออุตสาหกรรมต่างๆ มีโรงงานนับพันแห่งที่ต้องปิดการผลิตไปอย่างไม่มีกำหนด และบริษัทหลายแห่งในเขตกรุงเทพและรอบกรุงเทพที่ต้องหยุดงานชั่วคราว ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนทำงาน จ็อบสตรีทดอทคอมจึงได้จัดทำแบบสำรวจเพื่อให้ได้ทราบถึงผลกระทบที่คนทำงานได้รับรวมทั้งสิ่งที่ผู้หางานต้องการความช่วยเหลือจากจ็อบสตรีทดอทคอม ซึ่งพบว่าผู้หางานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้มีมากถึง 47% โดยแบ่งเป็นผู้ที่โดนปลดออกจากงาน 13% โดนลดค่าแรงและเงินได้อื่นๆ 21%” จากการสำรวจคนทำงาน จำนวน 1,700 ราย อายุระหว่าง 23-50 ปี พบว่าในจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบ 47% นั้น 21% ถูกลดค่าแรงรวมไปถึงเงินได้อื่นๆ เช่นเบี้ยเลี้ยง ค่าล่วงเวลา โบนัสประจำปีและสวัสดิการต่างๆ 13% โดนปลดออกจากงาน และ 14% ระบุว่าได้รับผลกระทบอื่นๆ เช่นต้องรับภาระงานมากขึ้นเนื่องจากบริษัทลดคน รายรับไม่พอกับรายจ่ายเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นแต่รายได้ลดลงหรือเท่าเดิม อยากหางานใหม่แต่งานหายากขึ้น และเกิดความเครียดจากภาวะน้ำท่วมรวมไปถึงสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจการเมือง เมื่อถามต่อถึงการเตรียมตัวเพื่อรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นหลังวิกฤตการณ์น้ำท่วม 40% เริ่มมองหางานใหม่ 19% พยายามหารายได้พิเศษนอกเหนือจากงานประจำเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทั้งราคาสินค้าที่แพงขึ้นและการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยหลังน้ำลด และ 2% มีการเตรียมรับมือในลักษณะอื่นๆ อาทิ การพัฒนาตนเองเพิ่มเติมช่วงที่หยุดงาน การพยายามลดค่าใช้จ่ายลง รวมไปถึงการใช้โอกาสนี้ในการออกไปช่วยเหลือผู้อื่น ในขณะที่มีถึง 39% ที่ระบุว่าไม่ได้เตรียมตัวใดๆ ทั้งสิ้น “จากการผลสำรวจทำให้เราทราบต่อไปว่าสิ่งที่ผู้หางานต้องการให้จ็อบสตรีทดอทคอมช่วยเหลือมากที่สุด คือเรื่องของการแนะนำข้อมูลตลาดแรงงาน และ การจัดอบรมเพื่อเพิ่มทักษะด้านต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้หางานสามารถแข่งขันได้ในตลาดแรงงาน ซึ่งจ็อบสตรีทดอทคอมก็ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ ‘JobStreet.com We care’ หรือโครงการเยียวยาด้านอาชีพขึ้น อาทิเช่น การเปิดให้ผู้ประกอบการทั้งในประเทศไทยและอีก 4 ประเทศในภูมิภาคเอเซียอาคเนย์ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปินส์ และอินเดีย ลงประกาศรับสมัครที่เว็บไซต์จ็อบสตรีทดอทคอมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและ ผู้หางานเองก็สามารถเข้ามาค้นหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับตนเองได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานทำ โดยเฉพาะถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้หางานที่จะได้ร่วมงานกับบริษัทข้ามชาติหรือได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ รวมทั้งยังมีบทความเพื่อการพัฒนาตนเองที่เผยแพร่บนเว็บไซต์และการจัดสัมมนาเพื่ออบรมทักษะด้านต่างๆ ที่จำเป็นในการสมัครงานให้กับสมาชิกจ็อบสตรีทและบุคคลทั่วไปที่สนใจเพื่อให้ผู้หางานนำไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาตนเองให้พร้อมกับการแข่งขันในตลาดแรงงานที่แน่นอนว่าหลังจากนี้ไปตลาดแรงงานจะเกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรงแน่นอน นอกจากนี้ยังวางแผนจัดกิจกรรมนัดพบแรงงานเพื่อเปิดโอกาสให้ฝ่ายนายจ้างและหางานได้มีโอกาสพบปะเพื่อตกลงการจ้างงานด้วย ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ www.jobstreet.com” นางสาวฐนาภรณ์ กล่าวเพิ่มเติม เกี่ยวกับจ็อบสตรีทดอทคอม ประเทศไทยจ็อบสตรีทดอทคอมได้ดำเนินงานร่วมกับบริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นเว็บไซต์อันดับหนึ่งในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 และมุ่งมั่นที่จะขยายบริการจัดหางานออนไลน์ในประเทศไทย เพื่อช่วยให้ผู้หางานในประเทศไทยมีโอกาสหาตำแหน่งงานที่ต้องการทั้งภายในและต่างประเทศ ปัจจุบันให้บริการแก่องค์กรและบริษัทมากกว่า 7,000 แห่ง และผู้หางานมากกว่า 420,000 ราย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ทิตยา เชื่อมสุวรรณ บริษัท จ็อบสตรีท (ประเทศไทย) จำกัด โทรศัพท์: 02-833-3000 ต่อ 4113 โทรสาร : 02-833-3051 Email: [email protected]

• ข่าวฐนาภรณ์ สถิตพันธุ์เวชา
• ข่าวจ็อบสตรีทดอทคอม
• ข่าวจ็อบสตรีท
• ข่าวมุ่งพัฒนา
• ข่าวประเทศไทย