พี.เอฟ.พี.ขยายธุรกิจอาหารญี่ปุ่น Sushi Station ปักธงในห้างโมเดิร์นเทรดตั้งเป้า 155 สาขา ภายในปี 2555

พี.เอฟ.พี.ผู้นำด้านอาหารแปรรูปจากปลาทะเลแช่แข็ง แบรนด์ “PFP” เปิดตัวน้องใหม่ Sushi Station ภายใต้การบริหารของ บริษัท พี.เอฟ.พี.อินเตอร์ฟูดส์ จำกัด ที่มุ่งเน้นการทำธุรกิจพร้อมทานทั้งคีออสและร้านอาหาร โดยเริ่มจำหน่ายอาหารญี่ปุ่น เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาปัจจุบันเปิดบริการ Sushi Station และ Sushi Gold แล้ว 80 สาขา ในบิ๊กซีและโลตัส ตั้งเป้าเพิ่ม 75 สาขา ในไตรมาส 2 และ 3 คาดรวม 155 ในสิ้นปีตั้งเป้ารายได้เพิ่ม 200 ล้านในปีแรก น.ส.เมตตา ปราบสุธา กรรมการบริหาร กลุ่มพีเอฟพี ได้กล่าวถึงธุรกิจน้องใหม่ว่า พีเอฟพีขยายธุรกิจในกลุ่มอาหารที่เป็นเป้าหมายหลักด้วยเพราะเป็นความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ และเทรนด์อาหารญี่ปุ่นยังเป็นกระแสนิยมของผู้รักสุขภาพอีกยาวนาน Sushi Station อาหารญี่ปุ่นสำหรับคนทำงาน กับกลยุทธ์ “อร่อย สด สะอาด คงคุณค่าจากทะเล” ที่มุ่งเน้นการปรุงสดใหม่ตลอดวันด้วยพนักงานมืออาชีพที่ผ่านการอบรมจาก เชฟชาวญี่ปุ่น มร.ยามาซากิ ที่คร่ำหวอดในวงการอาหารญี่ปุ่นโรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพฯ มากว่า 25 ปี จึงรู้และเข้าใจรสชาติของคนไทย Sushi Station มุ่งเน้นในย่านกลุ่มคนทำงาน และ Sushi Gold สำหรับกลุ่มธุรกิจในย่านนิคมอุตสาหกรรม หรือย่านธุรกิจสำคัญที่มีเมนูระดับหรูที่แตกต่างและบริการแคทเธอริ่งสั่งเพื่อการจัดเลี้ยง ที่ปัจจุบันมีบริการที่โลตัสนิคมอมตะ บิ๊กซีเมกาบางนา และบิ๊กซีลาดพร้าวเอ็กซ์ตร้า ที่นอกจากเมนู ซูชิแล้วยังมี ผัดไทยเส้นปลา สลัด สเต็ก ยำ ติ่มซำ และชุดของทอดทานเล่น รวมเมนูกว่า 50 รายการ ที่ราคาเริ่มต้น 5 บาท ถึง 199 บาท โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นคัดเลือกวัตถุดิบเกรดเอ และภาชนะการบรรจุที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค สำหรับ ผลิตภัณฑ์แปรรูปแช่แข็ง พีเอฟพี และอาหารทะเล ผัก ผลไม้ นำเข้าจากต่างประเทศที่จำหน่าย ในกลุ่มตลาดสด ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าพีเอฟพีช็อป ยังสามารถเติบโตได้ดี โดยร้านค้าพีเอฟพีช็อปให้บริการสินค้าในราคาย่อมเยากว่าร้านค้าปลีกทั่วไป เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือก หากถูกตัวแทนร้านค้าคนกลางมีการขายที่ราคาสูง โดยปัจจุบันมี 10 สาขา ล่าสุดสาขาตลาดสะพานใหม่ และจะเปิดสาขาที่ 11ตลาดสำโรงในเดือน มิ.ย. นี้ สำหรับปีนี้ตั้งเป้าขยายเพิ่มเพียง 10 สาขา หลังจากประสบภาวะน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา จึงต้องชะลอเพื่อศึกษาตลาดอีกครั้งในพื้นที่เป้าหมายตลาดสดเดิม นายทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. ได้กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์ธุรกิจที่ตั้งเป้าการเป็นผู้นำอาหารทะเลแปรรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน จึงได้วางแผนการบริหารธุรกิจที่ชัดเจน โดยบริษัท แปซิฟิค แปรรูปสัตว์น้ำ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านโรงงานการผลิตป้อนสินค้าให้บริษัทฯ ในกลุ่ม และดูแลตลาดต่างประเทศ บริษัท พี.เอฟ.พี.เทรดดิ้ง จำกัด บริหารการตลาดภายในประเทศและตลาดสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งอาหารทะเล ผัก ผลไม้ บริษัท พี.เอฟ.พี. อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด บริหารด้านอาหารพร้อมทาน แบรนด์ Sushi Station, Sushi Gold และคีออส พีเอฟพี, บริษัท ทีพี แปซิฟิค จำกัด บริหารด้านคลังสินค้าและการขนส่ง ในภาคเหนือและอีสาน ปีนี้คาดว่าการลงทุนของบริษัทฯ อยู่ที่ 200 - 300 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อลดการใช้แรงงาน การสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติมเพื่อการรองรับการขยายตัวของสินค้าซูชิในภาคเหนืออีสาน เพิ่มรถขนส่งและอุปกรณ์การควบคุม GPS เพื่อตรวจสอบเส้นทางรถและควบคุมการขนส่งให้ทันต่อการบริหารวัตถุดิบหน้าร้าน จากการปรับขึ้นของค่าจ้างขั้นต่ำผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯได้รับผลกระทบอย่างมากทั้งจากวัตถุดิบที่ปรับตัวและค่าจ้างแต่บริษัทฯ พยายามแบกรับภาระและปรับราคาผู้บริโภคให้น้อยที่สุด -กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวเมตตา ปราบสุธา
• ข่าวอาหารญี่ปุ่น
• ข่าวโมเดิร์นเทรด
• ข่าวอาหารแปรรูป
• ข่าวร้านอาหาร