ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เดินหน้าโครงการ ฮั้วไม่จ่ายใต้โต๊ะ ขจัดคอร์รัปชั่น พร้อมจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 กันยายนนี้

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น (ภตค.) กล่าวว่า “ความคืบหน้าการดำเนินการโครงการ ฮั้วไม่จ่ายใต้โต๊ะ ใบอนุญาตยิ้มที่ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร ถือเป็นโครงการนำร่องสร้างความโปร่งใส ป้องกันปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ในขั้นตอนการขออนุญาตการก่อสร้างบ้านพักอาศัยให้ถูกต้องตามแบบ ซึ่งพบว่าเป็นขั้นตอนที่มีการให้และรับสินบน เป็นประจำ โดยภคต. และกทม. ได้ตกลงที่จะขยายผลโครงการต่างๆ ดังนี้ กทม.จะขยายโครงการให้ครอบคลุมการก่อสร้างอาคารครบทุกประเภท รวมถึงอาคารขนาดใหญ่ นอกจากนี้ทาง ภตค. จะร่วมมือกับเอกชนในการสร้างระบบเปิดเผยข้อมูลต่อผู้เกี่ยวข้องและสาธารณชนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์” “ที่สำคัญคือ ทาง ภตค. อยากจะขอเชิญชวนหน่วยงานราชการ องค์กรที่ต้องการการสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานเข้าร่วมในโครงการฮั้วไม่จ่ายใต้โต๊ะ โดยจะเสนอโครงการเกี่ยวกับการขออนุญาตก่อสร้างในรูปแบบเดียวกัน กระจายไปสู่จังหวัดอื่นๆ โดยขอความร่วมกับจากหอการค้าจังหวัดและสภาอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน” นายประมนต์ กล่าว ภตค. ได้กำหนดจัดงาน วันต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 กันยายน 2555 ซึ่งเป็นวันเสียชีวิตของคุณดุสิต นนทะนาคร อดีตประธานกรรมการหอการค้าไทย ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ตอกย้ำให้สังคมตระหนักถึงภารกิจที่ต้องทำร่วมกัน กระตุ้น ให้สังคมพร้อมใจ ร่วมมือในการเปลี่ยนค่านิยมของสังคม เพื่อให้เครือข่ายขยายตัวและมีความเข้มแข็งมากขึ้น ยกย่อง ประกาศเกียรติคุณ องค์กร บุคคล ผู้ดำเนินธุรกิจอย่างสุจริต และยืนยันเจตนารมณ์ให้ทุกภาคส่วนเห็นถึงความมุ่งมั่นของ ภตค. โดยจะเรียนเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีร่วมงาน มีการนำเสนอดัชนีคอร์รัปชั่นของประเทศไทย จัดแสดงผลงานและกำหนดเป้าหมายการทำงานของ ภตค. และภาคบ่ายเป็นการจัดงานสัมมนา 5 กลุ่มคือ ภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคเยาวชน ภาคสื่อมวลชน และภาคธุรกิจ เพื่อร่วมกันแสดงพลังสังคมในการสร้างและขับเคลื่อนประเทศไทยให้สุจริตและโปร่งใส สำหรับความคืบหน้าโครงการหมาเฝ้าบ้าน จากที่ได้มีการจัดตั้งเพจเฟสบุค “เพจปฎิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” ปฎิบัติการเชิงรุกที่จะดำเนินการตีแผ่ข้อมูล เบาะแสการทุจริตที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผ่านช่องทางต่างๆ โดยมีการเปิดเผยข้อมูลที่อาจมีความไม่โปร่งใส และเป็นประเด็นที่สนใจของประชาชน อาทิ โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่รัฐบาลมีการเปิดเผยข้อมูลผ่านเว็บไซต์ แต่บุคคลทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ การเปิดเผยข้อเท็จจริงผลกระทบ พ.ร.บ.ปรองดองฯ ต่อคดีคอร์รัปชั่น โดยได้รับการตอบรับจากผู้ใช้เฟสบุค เข้ามามากกว่า 2 ล้านคน และเป็นประเด็นสนทนา กว่า 1 แสนครั้ง (ข้อมูลสถิติ วันที่ 26 มิถุนายน 2555) โดยหากพบเห็นเบาะแสการทุจริตสามารถแจ้งได้ที่ ตู้ ปณ. 000 มหาดไทย กรุงเทพฯ 10206 อีเมล์ [email protected] หรือ โทรศัพท์ 02-622-1860 – 76 ต่อ 543-545 ภตค. มีการลงพื้นที่ดูงานโครงการป้องกันน้ำท่วม 2 จังหวัดคือ ที่อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นการทำแผนจากกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรฯ ที่เป็นหน่วยงานกลางโดยที่ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้มีส่วนร่วมและรับรู้ในการดำเนินการดังกล่าว พบว่าโครงการนี้ดำเนินการผิดวัตถุประสงค์ ไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แต่เป็นการสร้างคันถนน คูคลอง เพื่อให้ประชาชนสัญจรในช่วงประสบปัญหา น้ำท่วม ซึ่งไม่สอดคล้องและตรงตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เสี่ยง และในโครงการขุดลอกแม่น้ำปิง จากลำน้ำงาม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่ามีความไม่โปร่งใสในการประมูลงานและการจัดซื้อจัดจ้างในการดำเนินงานดังกล่าว และมีการรุกล้ำพื้นที่แม่น้ำลำคลองโดย ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นทำให้ขัดขวางการระบายของน้ำ และเป็นสาเหตุของปัญหาน้ำท่วม ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่สามารถร้องเรียนและแก้ไขได้ในระดับท้องถิ่นเพราะเกรงกลัวต่ออิทธิพลเบื้องหลัง ความคืบหน้าในการสร้างจิตสำนึกให้กับเยาวชน สำนักงานทูตความดีแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสมาชิก ภคต. ได้จัดกิจกรรมรวมพลคนต้านโกง ร่วมกับ กทม. และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดฉายภาพยนตร์สั้น ต่อต้านคอร์รัปชั่นเรื่อง Godstar ซึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในโรงเรียน ทั่วกทม. นอกจากนี้ยังจะเผยแพร่หนังสือทำดีที่พ่อทำ เพื่อใช้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาแก่นักศึกษาปี 1 ให้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยจะนำร่องที่มหาวิทยาลัยมหิดลแห่งแรก นอกจากนี้โครงการ D Passport หรือหนังสือเดินทางแห่งความดี ยังได้ถูกเริ่มใช้แล้วในองค์กรต่างๆ และนำร่องไปแล้วกว่า 20 มหาวิทยาลัย ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น (ภตค.) ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นในสังคมไทย โดยวางบทบาทในการป้องกัน ปลูกฝัง และร่วมมือกับภาครัฐในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 40 องค์กร เพื่อรวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น จุดเปลี่ยนประเทศไทย-กภ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าววันต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติ
• ข่าวนายประมนต์ สุธีวงศ์
• ข่าวประมนต์ สุธีวงศ์
• ข่าวโครงการนำร่อง
• ข่าวกรุงเทพมหานคร