ไนท์แฟรงค์เผยหัวหินยังคงเป็นแหล่งดึงดูดคนไทยที่อยากซื้อบ้านหลังที่สอง ในขณะที่ผู้ซื้อชาวต่างชาติที่เกษียณอายุแล้วและชาวต่างชาติที่ทำงานในไทยมีเพียง 25% ของยอดขายทั้งหมด

ตลาดคอนโดมิเนียมที่หัวหินยังคงเป็นที่น่าสนใจสำหรับชาวไทยที่อยากซื้อบ้านหลังที่สอง ในปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมที่เพิ่งเปิดใหม่หลายแห่งที่พัฒนาโดยบริษัทพัฒนาอสังหาริมทระพย์ชั้นนำของประเทศ ซึ่งผู้ซื้อ และผู้พักอาศัยส่วนใหญ่มักมาจากกรุงเทพฯ โดยมีแค่ 25% ที่เป็นชาวต่างชาติรวมถึงชาวต่างชาติที่มาทำงานในกรุงเทพมหานคร คุณสุรศักดิ์ ลิมปอารยะกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและประเมินมูลค่าทรัพย์สิน บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าอุปทานคอนโดมิเนียมในหัวหินทั้งหมดในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 เท่ากับ 17,349 ยูนิต โดยตัวเลขนี้แสดงถึงจำนวนยูนิตที่ได้สะสมเพิ่มมากขึ้นจากปี 2546 ถึงครึ่งแรกของปี 2555 โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 คอนโดฯ ที่หัวหิน และชะอำมียูนิตเพิ่มขึ้นมาใหม่ถึง 3,956 ยูนิต มากกว่า 75% ของผู้ซื้อคอนโดฯ ในหัวหินคือคนไทย โดยเฉพาะผู้ที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยในกรุงเทพฯ แต่นอกเหนือจากนี้ก็มีชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทย และชาวต่างชาติผู้เกษียณอายุเข้ามาซื้อคอนโดฯ ริมชายหาดอีกเช่นกัน ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อคอนโดฯ สำหรับชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทย คือความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงของผู้พัฒนาที่ดิน ในขณะที่คอนโดฯ ที่ราคาย่อมเยามักจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับชาวต่างชาติผู้เกษียณอายุ คุณสุรศักดิ์ อธิบายเพิ่มเติมว่าชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมในหัวหินแตกต่างจากชาวต่างชาติที่ภูเก็ตหรือสมุย เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้เกษียณอายุหรือผู้ที่มีคู่สมรสไทย ซึ่งคนเหล่านี้มีงบประมาณจำกัด และต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับการใช้งานส่วนตัวเป็นบ้านหลังที่สองในช่วงฤดูหนาวของประเทศตนเองมากกว่า และเนื่องจากกฏระเบียบในการเป็นผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติในประเทศไทยเข้มงวดมาก ชาวต่างชาติที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยจึงเพ่งเล็งความสนใจมาที่ยูนิตคอนโดฯ ที่สามารถซื้อได้ในรูปแบบการครอบครองกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมพทรัพย์อย่างสมบูรณ์ (Freehold Basis) ชาวต่างชาติเหล่านี้จึงมักจะหายูนิตคอนโดฯ ที่ห่างจากทะเล เพราะราคาจะถูกกว่ายูนิตที่อยู่ติดกับชายหาด ในช่วงพีคซีซั่นของหัวหินที่ผ่านมาในอดีต จำนวนยูนิตของคอนโดมิเนียมขายได้ประมาณ 1,000 ถึง 1,200 ยูนิตต่อปี แต่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีประมาณ 1,655 ยูนิตที่ได้ขายไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่ทวีคูณมากขึ้นก็ยังไม่เท่ากับอุปทานคอนโดมิเนียมที่มีอยู่ จึงทำให้อัตราการขายลดลงจาก 45% ในปี 2554 เหลือ 44% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมในหัวหินสามารถขายได้อย่างง่ายดายโดยเฉพาะยูนิตที่อยู่ในโครงการริมชายหาด และ/หรือโครงการที่สามารถเห็นวิวทะเลได้จากที่พัก แต่เมื่อไม่นานมานี้ คอนโดมิเนียมที่ห่างจากทะเลได้รับความสนใจมากกว่า ด้วยขนาดห้องที่กะทัดรัด และราคายูนิตที่ย่อมเยา อัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สำหรับยูนิตคอนโดมิเนียมริมชายหาดทางใต้ของหัวหินอยู่ที่ 4.2% ในระหว่างปี 2553 ถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2555 โดยราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 133,010 บาท ต่อตารางเมตร แต่คนที่มีงบประมาณจำกัดก็สามารถเลือกคอนโดฯ ในชะอำที่เห็นวิวทะเลได้เช่นกัน ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่ต่ำกว่า เพียงแค่ 92,404 บาท ต่อตารางเมตร แต่ราคานี้ก็จะยิ่งถูกมากขึ้นสำหรับยูนิตที่ยิ่งห่างออกไปจากทะเล คุณสุรศักดิ์ กล่าว -นท- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวสุรศักดิ์ ลิมปอารยะกุล
• ข่าวไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์
• ข่าวตลาดคอนโดมิเนียม
• ข่าวกรุงเทพมหานคร
• ข่าวคอนโดมิเนียม