ลอสแองเจลิส--12 มี.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
หลังจากที่ดร.หรงเซียง ซู (Dr. Rongxiang Xu) ยื่นฟ้องสมัชชาโนเบล ณ สถาบันแคโรลินสกา (The Nobel Assembly at Karolinska Institutet) ในข้อหาหมิ่นประมาทเมื่อเดือนธันวาคม ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 ทางสมัชชาโนเบลได้ตอบโต้ด้วยการยื่นคำร้องขอให้ถอนคดีความดังกล่าวออกจากศาลมลรัฐและย้ายไปยังศาลรัฐบาลกลางในลอสแองเจลิสแทน
(ภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20130305/LA71370 )
คณะทนายความของดร.ซู เปิดเผยว่า การย้ายคดีความไปยังศาลรัฐบาลกลางจะไม่ส่งผลต่อรูปคดี และเป็นเพียงกลยุทธ์หนึ่งของทางฝ่ายจำเลยเท่านั้น ทั้งนี้ ดร.ซู ยื่นฟ้องสมัชชาโนเบลเมื่อเดือนธันวาคม 2555 ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการมอบรางวัลโนเบลสาขาสรีรศาสตร์หรือการแพทย์ประจำปี 2555
ดร.ซู กล่าวว่า การฟ้องร้องดำเนินคดีมิได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายชื่อเสียงของสมัชชาโนเบล แต่ส่วนหนึ่งทำเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงเกี่ยวกับ “การเปลี่ยนเซลล์ร่างกาย (somatic cell) ของมนุษย์ให้กลับไปเป็นเซลล์ต้นกำเนิดและการฟื้นฟูเนื้อเยื่อของร่างกาย” ดร.ซู ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับศาสตร์การฟื้นฟูร่างกายมนุษย์ด้วยตัวเองมาตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เขายืนยันว่าเป็นผู้ค้นพบและพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงเซลล์เป็นความสามารถแต่กำเนิดที่พบในเซลล์ของเรา เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เขาพิสูจน์ให้เห็นผ่านการรักษาทางคลินิกที่ประสบความสำเร็จหลายครั้ง เขายืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงเซลล์ไม่จำเป็นต้องใช้เซลล์ที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งเป็นวิธีของผู้ได้รับรางวัลโนเบลปี 2555
ในคำร้องของดร.ซู ยังมีการยกตัวอย่างผลของการรักษาทางคลินิกบางส่วน ซึ่งรวมถึงสิทธิบัตรและสิ่งพิมพ์ต่างๆที่แสดงรายละเอียดและพิสูจน์ถึง “ความสามารถแต่กำเนิดในการเปลี่ยนเซลล์ร่างกายของมนุษย์ให้กลับไปเป็นเซลล์ต้นกำเนิดตามด้วยการฟื้นฟูเนื้อเยื่อของร่างกาย” ซึ่งการรักษาที่กล่าวถึงข้างต้นประกอบด้วย
- การฟื้นฟูผิวที่ถูกไหม้อย่างรุนแรง
- การฟื้นฟูนิ้วมือที่ถูกตัดขาด
- การขจัดรอยแผลเป็นที่ผิวหนัง
- การฟื้นฟูวิลไล (villi) ในกระเพาะอาหารและลำไส้ที่ฝ่อให้กลับมาแข็งแรงตามปกติ
จากผลการศึกษาต่างๆ ดร.ซู ยืนยันว่า “การเปลี่ยนเซลล์ร่างกายของมนุษย์ให้กลับไปเป็นเซลล์ต้นกำเนิดและการฟื้นฟูเนื้อเยื่อของร่างกาย” เป็นความสามารถแต่กำเนิดของมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดขึ้นเพราะเซลล์ที่มนุษย์สร้าง แต่สมัชชาโนเบลกลับมอบรางวัลให้นักวิทยาศาสตร์ 2 คนที่ใช้วิธีหลัง นั่นคือการเปลี่ยนเซลล์ร่างกายให้กลายเป็นเซลล์อื่นๆเกือบทุกชนิด (pluripotency) ด้วยการย้ายนิวเคลียร์และตั้งโปรแกรมเซลล์ใหม่แบบหลอกๆ ดร.ซู เชื่อว่าสมัชชาโนเบลมีหน้าที่อธิบายผลงานของผู้ได้รับรางวัลโนเบลให้ถูกต้อง และยอมรับผลงานการค้นพบของดร.ซู ที่มีการทดลองให้เห็นและพิสูจน์ไปตั้งหลายปีแล้ว ดร.ซู เชื่อว่าคำอธิบายผลงานของผู้ได้รับรางวัลโนเบลโดยสมัชชาโนเบลก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งถือเป็นการดูหมิ่นและบั่นทอนความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์และชื่อเสียงในฐานะผู้เชี่ยวชาญของเขา และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เขาต้องยื่นฟ้อง
ดร.ซู เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า สาธารณชนควรได้รับรู้ว่า “การเปลี่ยนเซลล์ร่างกายของมนุษย์ให้กลับไปเป็นเซลล์ต้นกำเนิดและการฟื้นฟูเนื้อเยื่อของร่างกาย” โดยความสามารถแต่กำเนิดของมนุษย์ มีความแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับโดยการใช้เซลล์ที่มนุษย์สร้างเลียนแบบ การฟ้องร้องครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การปกป้องผลงานทางวิทยาศาสตร์ของเขา แต่ยังเป็นการกระทำที่เขาหวังว่าจะช่วยสอนให้สาธารณชนตระหนักถึงความรับผิดชอบด้านการวิจัยเชิงชีววิทยาศาสตร์และความรู้ที่ไม่จริง เพราะรางวัลโนเบลสาขาสรีรศาสตร์หรือการแพทย์เป็นเครื่องรับรองการวิจัยทางชีววิทยาศาสตร์และมีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของชีวิตมนุษย์ ซึ่งมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
เกี่ยวกับดร.หรงเซียง ซู
ดร.หรงเซียง ซู คือผู้วางรากฐานศาสตร์การฟื้นฟูร่างกายมนุษย์ เมื่อเดือนธันวาคม 2555 เขาได้ยื่นฟ้องสมัชชาโนเบล ณ สถาบันแคโรลินสกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่มอบรางวัลโนเบลสาขาสรีรศาสตร์หรือการแพทย์ โดยดร.ซู ยื่นฟ้องต่อศาลสูงรัฐแคลิฟอร์เนีย สำนักงานยุติธรรมกลางออเรนจ์เคาน์ตี้ ในข้อหาหมิ่นประมาทและดำเนินการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2555 ได้มีการมอบรางวัลโนเบลสาขาสรีรศาสตร์หรือการแพทย์ประจำปี 2555 ให้แก่เซอร์ จอห์น บี เกอร์ดอน (Sir John B. Gurdon) และชินยะ ยามานากะ (Shinya Yamanaka) “จากการค้นพบว่าเซลล์ที่โตเต็มวัยแล้วสามารถตั้งโปรแกรมให้กลายเป็นเซลล์อื่นๆได้เกือบทุกชนิด (pluripotency)” ซึ่งดร.ซู กล่าวโทษว่าถ้อยแถลงบางส่วนของสมัชชาโนเบลไม่ถูกต้อง เพราะเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบเรื่องดังกล่าวมาก่อนนับ 10 ปี
กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.mebo-international.com/about-us/timeline
ดูตัวอย่างศาสตร์การฟื้นฟูร่างกายได้ด้านล่าง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เจน เวสต์เกต (Jane Westgate)
โทร: +1-336-209-9276
อีเมล: [email protected]
หรือ
เชอรีล ไรลีย์ (Cheryl Riley)
โทร: +1-703-683-1798
อีเมล: [email protected]