โรงเรียนจินดาพงศ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลจินดารัตน์ และโรงเรียนอนุบาลจินดาพร จัดโครงการติวเข้มครู โดยตั้งกองตรวจแผนการสอนของคุณครูว่าเป็นไปตามแผนการสอนหรือไม่ เพื่อประเมินพัฒนาคุณภาพเด็กนักเรียนตั้งแต่ระดับปฐมวัย ล่าสุดจัดซื้อเครื่องตรวจข้อสอบที่มาพร้อมซอฟต์แวร์ เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยในการวัดผลการสอนของครู และวัดผลความรู้ของนักเรียน
อาจารย์จินดา ตันตราจิณ ผู้รับใบอนุญาตและผู้อำนวยการโรงเรียนจินดาพงศ์ กล่าวว่า ทางโรงเรียนให้ความสำคัญกับคุณภาพของเด็กนักเรียนเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งทางโรงเรียนวัดผลจากการที่เด็กประสบความสำเร็จในการสอบเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ทั้งนี้จะเห็นได้จากนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 123 คน ของโรงเรียนจินดาพงศ์ สามารถสอบเข้าโรงเรียนดังที่มีชื่อเสียงได้ทุกคน อาทิ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สอบได้ถึง 34 คน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาสุวรรณภูมิสอบได้ 5 คน โรงเรียนวชิรธรรมสาธิตสอบได้ 17 คน โรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา สอบได้ 7 คน โรงเรียนสายน้ำผึ้งสอบได้ 7 คน โรงเรียนสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ สอบได้ 5 คน โรงเรียนสิริรัตนาธร สอบได้ 5 คน โรงเรียนสาธิต รามคำแหง สอบได้ 4 คน โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สอบได้ 2 คน โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า สอบได้ 2 คน โรงเรียนสาธิตประสานมิตร สอบได้ 2 คน โรงเรียนกรุงเทพ คริสเตียนสอบได้ 1 คน โรงเรียนราชดำริ สอบได้ 1 คน โรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงสอบได้ 15 คน และอื่นๆ 7 คน
ความสำเร็จของนักเรียน ส่วนหนึ่งมาจากความเข้มงวดทั้งเรื่องการเรียนการสอน โดยทางโรงเรียนมีการจัดโครงการติวเข้มครูผู้สอนเป็นระยะ มีการอบรมการสอน และมีการตั้งกองตรวจแผนการสอนขึ้นภายในโรงเรียนเพื่อประเมินผลการสอนของคุณครู ว่าเป็นไปตามแผนการสอนที่วางไว้หรือไม่ พร้อมๆ กับวัดผลการเรียนของนักเรียนด้วยว่า อ่อนวิชาไหน เพื่อประเมินการสอนของคุณครูด้วย ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงและแก้ไขระบบการสอนของครูให้เป็นไปตามแผนให้มากที่สุด นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้จัดซื้อเครื่องตรวจข้อสอบมูลค่ากว่า 5 แสนบาทพร้อมซอฟต์แวร์ เพื่อมาเป็นเครื่องมือวัดผลความรู้ของนักเรียน ในทุกระดับวิชาทั้งคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย เมื่อพบว่าเด็กอ่อนวิชาไหนจะส่งครูที่เก่งในวิชานั้นๆ ไปติวให้เด็กนักเรียน ซึ่งเป็นการพัฒนาทั้งระบบการสอน
อาจารย์จินดา กล่าวว่า ปัจจุบันโรงเรียนกำลังสร้างปรัชญาให้เป็นความจริง เนื่องจากโลกทุกวันนี้ระบบการติดต่อสื่อสารมีความรวดเร็วมาก เมื่อโลกภายนอกมีการเปลี่ยนแปลง เด็กต้องมีการเรียนรู้และต้องปรับตัว เพราะหากตามโลกไม่ทันเด็กเราจะไม่พัฒนาและไม่ทันนานาประเทศ ดังนั้นเรื่องประชาคมอาเซียนทางโรงเรียน คุณครูเองต้องปรับตัว เตรียมตัวให้พร้อม การนำร่องพัฒนาห้องเรียนอาเซียนจะช่วยให้เด็กนักเรียนทุกระดับชั้นได้มีความรู้เกี่ยวกับอาเซียนใน 10 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย พม่า กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และบรูไน โดยการศึกษาเนื้อหา สาระ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม ภาษาของแต่ละประเทศ อาทิ หนังสือ ชุดการแต่งกายของแต่ละประเทศ ตัวอย่างการสนทนาสั้นๆ ซึ่งวัสดุ อุปกรณ์ทางการศึกต่างๆ เหล่านี้จะนำใส่ไว้ในฐานทั้ง 10 ฐานในห้องเรียนอาเซียนโมเดล
-กภ-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net