กว่า 140 บริษัทชั้นนำ จาก 20 ประเทศ ผนึกกำลังนำเทคโนฯ-นวัตกรรมพืชสวนอัจฉริยะ จัดแสดงในงาน'ฮอร์ติเชีย 2013' ที่ไบเทค บางนา

กว่า 140 บริษัทชั้นนำ จาก 20 ประเทศ ผนึกกำลังนำเทคโนฯ-นวัตกรรมพืชสวนอัจฉริยะจัดแสดงในงาน'ฮอร์ติเชีย 2013' ที่ไบเทค บางนา มุ่งลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพผลผลิต พาเกษตรไทยสู่ ‘ฮับเกษตรอาเซียน’ งานแสดงเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านพืชพรรณ ผัก ผลไม้ ดอกไม้ และกล้วยไม้แห่งภูมิภาคเอเชีย หรืองานฮอร์ติ เอเชีย 2013 ดึงกว่า 140 บริษัทชั้นนำระดับสากล จาก 20 ประเทศทั่วโลก ร่วมโชว์เทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่สำหรับพืชสวนที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และคุณภาพของผลผลิต หวังเป็นส่วนช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันของเกษตรไทยและ อาเซียนในตลาดโลก พร้อมตั้งเป้าร่วมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการเกษตรของอาเซียน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2556 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด เปิดเผยว่า “เศรษฐกิจการเกษตรไทยจะเติบโตได้อย่างยั่งยืนนั้น เกษตรกรต้องมีส่วนร่วม มีความใส่ใจในการควบคุม และพัฒนาการผลิตอย่างสม่ำเสมอ มีการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะมาช่วยลดต้นทุน ลดความเสียหาย และเพิ่มคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตร จากความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ หรือพื้นที่เพาะปลูกที่ลดลง เรียกได้ว่า ต้องปลูกน้อย ให้ได้มาก ตามปรัชญาทฤษฎีเกษตรแนวใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในขณะที่จุดแข็งของไทยมีชัยภูมิที่เอื้อต่อการการผลิตอาหารและสินค้าการเกษตร แต่ภายใต้การแข่งขันที่ไม่มีกำแพงภาษีกีดกันการค้า เรื่องมาตรฐานความปลอดภัย และคุณค่าทางโภชนาการจะเป็นประเด็นที่ถูกนำมาเป็นเงื่อนไขในการต่อรองซื้อขายมากขึ้น” งานเดียวครบวงจรทั้งก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว ในปีนี้ได้รวบรวมบริษัทเอกชนชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจในภาคเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจรกว่า 140 บริษัท จาก 20 ประเทศทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่ตั้งแต่ก่อนทำการเพาะปลูก การเพาะปลูก และเก็บเกี่ยว และหลังการเก็บเกี่ยวที่อยู่ในความสนใจในตลาดพืชสวน ผัก ผลไม้ ไม้ตัดดอกและกล้วยไม้ นางลัดดา กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภายในงานนี้นอกจากจะเป็นเวทีเจรจาการค้าระดับภูมิภาคแล้ว หลายๆเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่แต่ละประเทศ แต่ละบริษัทนำมาจัดแสดง จะช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กับเกษตรกรไทย เพื่อนำไปสู่การยกระดับกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ระบบการให้น้ำแก่พืช ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากประเทศฝรั่งเศส เมื่อเกิดภัยแล้ง มักจะเกิดปัญหาความสูญเสีย ในความเป็นจริงพืชไม่ได้ต้องการน้ำมาก อย่างที่เกษตรกรทำกันอยู่ในปัจจุบัน การให้น้ำโดยตรงทางรากจะใช้น้ำน้อยกว่าและพืชสามารถดึงไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่า โดยสามารถให้ปุ๋ย ไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย และน้ำที่จะไหลออกจากโรงเรือนก็สามารถนำกลับมาใช้อีกครั้งได้ด้วยเช่นกัน” “ในขณะที่เทคโนโลยีกรีนเฮ้าส์ ที่คนมักจะเข้าใจว่าเหมาะสมกับเมืองหนาว แต่ความจริงแล้วเทคโนโลยีของกรีนเฮ้าส์ก้าวไกลไปมากกว่านั้น เราสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ทั้งร้อนและเย็น อย่างประเทศไทย อาจจะต้องการกรีนเฮ้าส์แบบเย็นมากกว่า และไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเรือนกระจกเท่านั้นวัสดุอื่น ๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แน่นอนว่าวันนี้สภาพภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นเราจึงต้องสร้างสภาพอากาศที่เหมาะสมให้กับพืชเพื่อการผลิตที่ได้ผลสม่ำเสมอและมีคุณภาพ” เทคโนโลยีหลากหลายที่นำมาจัดแสดง อาทิ ประเภทเทคโนโลยีเพื่อการขยายพันธุ์ ได้แก่ แอนเธอรา (Anthura) บริษัทชั้นนำอันดับหนึ่งของโลกที่เชี่ยวชาญด้านการผสมพันธุ์ และขยายพันธุ์ดอกหน้าวัว และมีชื่อเสียงด้านการผสมพันธุ์ และขยายพันธุ์ดอกกล้วยไม้สกุลฟาแลนอปซิส ประเภทเทคโนโลยีด้านการเก็บเกี่ยว ได้แก่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จากประเทศไทย ได้นำเสนอเทคโนโลยี CAT e-smart farm เทคโนโลยีการตรวจสอบย้อนกลับด้วยรหัสบาร์โค้ดสองมิติ (QR Code) ที่ช่วยตรวจสอบย้อนกลับถึงที่มาที่ไปของสินค้าเกษตร อันได้แก่ ผัก ผลไม้ และดอกไม้ ประเภทเทคโนโลยีเพื่อการจัดการทางการเกษตร ได้แก่ แอคสเปค ( Agspec) จากประเทศออสเตรเลีย ผู้เชี่ยวชาญด้าน ส่วนประกอบเสริมในการจัดการเพาะปลูก อาทิเช่น ปุ๋ย, ยากำจัดศัตรูพืช และการปรับปรุงดิน ประเภทเทคโนโลยีด้านการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ได้แก่ สมาคมพฤกษศาสตร์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ผู้ศึกษา ค้นคว้า วิจัยด้านการขยายพันธุ์พืช พัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์พืชหายากชนิดต่างๆ ประเภทเทคโนโลยีเพื่อการจัดการน้ำ ได้แก่ โดสทรอน อินเตอร์เนชั่นแนล เอส.เอ.เอส(Dosatron International S.A.S) ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจ่ายน้ำ หรือของเหลวอื่นๆ จากประเทศฝรั่งเศส ออกแบบมาให้มีความแม่นยำสูง ป้องกันการจ่ายน้ำที่มากเกินไป ประเภทเทคโนโลยีสำเร็จรูป ได้แก่ แอ แอนด์เอ็น ลูเธน เบ.เว (A&N Luiten B.V.) ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ตกแต่ง และก่อสร้าง โรงเรือนสำหรับปลูกพืช และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในโรงเรือน สำเร็จรูป อาทิเช่น เครื่องควบคุมอุณหภูมิ, หลังคาและผนัง,การจัดการด้านไฟฟ้าภายในโรงเรือน, ระบบน้ำ เป็นต้น ประเภทเทคโนโลยีเพื่อการจัดการหลังเก็บเกี่ยว ได้แก่ เกียร์ลอฟส์ (Geerlofs) ผู้ให้บริการด้าน ซอฟแวร์ และฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้องกับระบบอากาศ ระบบทำความเย็น หรือเครื่องควบคุมอุณหภูมิที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม โรงเรือน รถบรรทุกเพื่อการขนส่ง หรือเครื่องบิน เป็นต้น เพื่อเอื้อต่อการเก็บรักษาสินค้า หรือผลิตผลต่างๆ ของลูกค้า ประเภทเทคโนโลยีเพื่อการจัดการอย่างครบวงจรด้านบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ ไซคลอป อินเตอร์เนชั่นแนล (Cyklop International) ผู้ให้บริการอย่างครบวงจรในด้านการบรรจุภัณฑ์สินค้าและผลิตผลต่างๆ ตั้งแต่การศึกษา ค้นคว้าวิจัย ทดลองผลิตด้วยแลปของบริษัทฯ การผลิตเครื่องจักร และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการให้คำปรึกษา แนะนำ และอบรมเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องจักร อุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ ด้านการบรรจุภัณฑ์แก่ลูกค้า และบริษัทที่น่าสนใจอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสัมมนาที่น่าสนใจภายใต้แนวคิด “ความปลอดภัยอาหาร และการเปลี่ยนแปลง ของสภาวะอากาศ: อนาคตที่ท้าทายสำหรับพืชสวน” ที่จะเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างภาคผู้ผลิต นักวิชาการ ผู้ประกอบการค้าขายพืชสวน จากทั้งในและต่างประเทศมาร่วมสัมมนา โดยมุ่งไปที่ประเด็นจะผลิตและค้าขายอย่างไร จึงจะตรงใจผู้บริโภคมากที่สุดภายใต้ความท้าทายดังกล่าว ตลอดทั้งวันที่ 9 – 11 พฤษภาคม ในขณะเดียวกันทางสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ยังได้ใช้โอกาสอันดีนี้จัดการประชุมพืชสวนแห่งชาติ ครั้งที่ 12 ขึ้น ภายใต้หัวข้อ ‘AEC ภายใต้สภาวะโลกร้อน’ ทีเส็บให้การสนับสนุนการจัดงานอย่างต่อเนื่อง นายธงชัย สีดามา กรรมการปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) กล่าวว่า งาน Horti ASIA 2013 ถือว่าเป็นงานที่น่าจับตามองและสามารถตอบสนองความต้องการด้านเกษตรกรรมอย่างแท้จริง โดยสอดคล้องกับวาระแห่งชาติของประเทศในเรื่องการพัฒนาด้านเกษตรกรรม และเชื่อว่าจะเป็นเวทีการลงทุนและเจรจา ธุรกิจที่สำคัญของภูมิภาคที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ทั้งนี้ ทีเส็บได้สนับสนุนงาน Horti ASIA อย่างต่อเนื่องตั้งแต่การจัดงานครั้งแรกในปี 2012 ทั้งในด้านการกิจกรรมการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย การจับคู่ธุรกิจทางการค้า แคมเปญ 100 A Head และ Be my guest เพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้ซื้อ เป็นต้น สำหรับท่านที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน ฮอร์ติเอเชีย 2013 ได้ในระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2556 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา หรือสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.hortiasia.net หรือโทร 02 670 0900 -กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวนวัตกรรมพืช
• ข่าวเทคโนโลยี
• ข่าวเกษตรไทย
• ข่าวกล้วยไม้
• ข่าวนวัตกรรม