ว้าว! จริงๆ สำหรับโครงการซานโตรินี พาร์ค ชะอำ ที่เพิ่งซอฟท์ลอนช์ในส่วนของเฟส 2 นั่นคือ “ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” (Santorini Water Fantasy) ไปแล้วเมื่อ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยล่าสุด นัสวีร์ ตันติจิรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีม พลาซ่า ดีวีลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารโครงการฯ ได้จัดกิจกรรม Press Tour เพื่อเชิญชวนและเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมผัสความทันสมัยของระบบดิจิตอล “ซานโตรินี คอนเนคส์” (Santorini Connects) พร้อมชุดสไลเดอร์และสถาปัตยกรรมกลางแจ้งของ “ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” สวนน้ำระบบดิจิตอลแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียและทันสมัยที่สุดในประเทศ ที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องเล่นมาตรฐานโลกส่งตรงจากประเทศตุรกี ซึ่งมีทั้งหมด 12 attractions และอีก 1 extra ride เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว ตั้งแต่โซนเด็กเล็ก เด็กโตไปจนถึงเครื่องเล่นที่มีความตื่นเต้นดิ่งลงมาจากความสูง 19 เมตร โดยมีเครื่องเล่นที่ชื่อว่า Ares’s King Cobra มีลักษณะเป็นงูยักษ์แผ่แม่เบี้ยสีแดงเป็นซิกเนเจอร์ ที่พร้อมเติมเต็มความสนุกพร้อมกัน 4 คนบนห่วงยาง Double Tube อีกทั้งภายในยังทันสมัยด้วยสายรัดข้อมือดิจิตอลให้ผู้ที่มาใช้บริการสามารถสื่อสารกับโลกออนไลน์ และสามารถแชร์ภาพแห่งความสุขสนุกสุดมันส์ให้เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊คได้อิจฉากันได้ทันที ปิดท้ายกับกิจกรรม Press Tour ด้วยความเพลิดเพลินแบบจัดเต็มกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินสุดฮอต ป๊อด – โมเดิร์นด็อก และ jetset'er บนเวทีกลางน้ำ ณ ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี ถ.เพชรเกษม กิโลเมตรที่ 198 จ.เพชรบุรี
นัสวีร์ ตันติจิรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีม พลาซ่า ดีวีลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “จากความสำเร็จของซานโตรินี พาร์ค ชะอำ ในเฟสแรกที่เกินเป้าจากที่คาดหมายไว้ โดยมีผู้มาใช้บริการรวมกว่า 1.2 ล้านคน ทำให้เราคิดต่อ จิ๊กซอว์เพิ่ม โดยจากนี้ไปธีม พลาซ่าจะลงมาทำสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเต็มตัว เพราะมองเห็นโอกาสทางตลาดที่ยังสามารถเติบโตได้อีก ประกอบกับสภาพภูมิอากาศประเทศไทย ทำให้เราเกิดไอเดียริเริ่มสวนน้ำขึ้น โดยมีจุดเด่นคือเป็นเครื่องเล่นสไลด์ที่ได้มาตรฐานโลก มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งเด็กเล็ก วัยรุ่น ตลอดจนครอบครัว บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ หรือ 30,000 ตารางเมตร โดยใช้งบลงทุน 500 ล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนการลงทุนจาก BOI นอกจากนี้ ยังมีความน่าสนใจในเรื่องระบบดิจิตอลหรือมีเดียแชร์ริ่ง ที่เรียกว่า “ซานโตรินี คอนเนคส์” (Santorini Connects) ใช้คลื่นวิทยุ RFID ในการทำงาน ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสามารถล็อกอินและใช้ริสแบนด์เป็นสื่อในการอัพโซเชียลมีเดีย โดยขณะเล่นเครื่องเล่นกล้องบนตัวสไลด์จะจับภาพไว้ พอลงมาหลังจากเล่นเสร็จ ผู้เล่นสามารถสแกนริสแบนด์ตรงจุดเช็คพ้อยต์เพื่อเลือกภาพของตนเองและส่งแชร์ไปที่เฟซบุ๊คได้ทันที ทำให้เพื่อนๆ สามารถเห็นภาพความเคลื่อนไหวของเราได้ตลอดเวลา”
นอกจากนี้ “ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” ยังมีเครื่องเล่นที่เป็นซิกเนเจอร์แห่งเดียวในเอเชีย นั่นคือ Ares’s King Cobra “เราเลือกซัพพลายเออร์โดยพิจารณาจากมาตรฐานความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งเราได้บริษัท โพลิน ที่เป็นอันดับ 1 ของประเทศตุรกีและติดท็อป 3 ของโลกมาดูแลจัดการให้ทั้งหมด มีทั้งหมด 12 attractions และอีก 1 extra ride โดยตั้งชื่อตามเทพเจ้ากรีก อันได้แก่ Ares’s King Cobra, Apollo’s Drop Screamer, Bacchus’s Magic Hole, Hermes Falls, The Artemis’s Rapids, The Thunder of Zeus, Athena’s Space Shaker, Vulcan’s Kamikaze, Venus Free Fly, Kid’s Paradise of Demeter, The Lazy Hera, Poseidon’s Lagoon และ Ring of The Titan ขณะที่ด้านความปลอดภัย เราเองใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง โดยจัดให้มีการอบรมหลักสูตร Life Guard แก่เจ้าหน้าที่คุมเครื่องเล่น ซึ่งเราจะจัดส่งเจ้าหน้าที่คุมเครื่องเล่นไปฝึกอบรมกับสมาคมเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำที่ได้รับการยอมรับในประเทศไทย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยในการให้บริการ”
“ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” มีบริการให้เช่าคาบานาส่วนตัวสำหรับความเป็นส่วนตัวของกลุ่มเพื่อนและครอบครัว เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ระบบ Prepaid ริสแบนด์, ล็อคเกอร์เก็บของ, เสื้อชูชีพ และห่วงยางไว้บริการ เพื่อความปลอดภัยระหว่างการเล่น นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารหลากหลายประเภทไว้รอต้อนรับ อย่างเช่น ร้านเบอร์เกอร์ Maverricks Grill ร้านผลไม้ Fruit for Thought ร้านเครื่องดื่ม Crepe A Crepe ร้านอาหารและเครื่องดื่ม Tholos Restaurant และ Tholos Caf? เป็นต้น
สำหรับค่าบริการ มี 2 อัตรา ดังนี้ General Admission Rates ผู้ใหญ่ 900 บาท เด็ก (สูงเกิน 130 ซม.) ผู้พิการและผู้สูงอายุ 500 บาท และ Thai Residents Rates (คนไทยและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย) ผู้ใหญ่ 700 บาท เด็ก (สูงเกิน 130 ซม.) ผู้พิการและผู้สูงอายุ 400 บาท ส่วนเด็กความสูงไม่ถึง 90 ซม.เข้าฟรี อัตรานี้สามารถเล่นได้ทุกอย่างและอยู่ได้ทั้งวัน เวลาเปิดบริการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 เวลา 09.00 - 21.00 น. และตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 วันจันทร์-พฤหัสบดี 10.00 - 18.30 น. วันศุกร์ - อาทิตย์ 09.00 - 21.00 น....ติดตามความคืบหน้าของโครงการ “ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” ได้ที่ www.santoriniwaterfantasy.com, www.facebook.com/SantoriniPark
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท พริสไพออริตี้ จำกัด โทรศัพท์.0-2662-5477-8
-นท-
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net