Superstar College of Asia จับมือ Edexcel เปิดหลักสูตรนานาชาติรองรับ AEC

วิทยาลัย Superstar College of Asia จับมือสถาบันระดับโลกจากอังกฤษ เปิดหลักสูตรปริญญาตรี International ด้านดนตรีและการแสดงเพื่อสร้างศิลปินครั้งแรกใน AEC - แก้ปัญหาความขาดแคลนบุคคลากรในอุตสาหกรรมบันเทิงที่ต้นทาง - ครั้งแรกในประเทศไทยและใน AEC ที่มีทางเลือกใหม่ให้กับนักศึกษาที่ต้องการเรียนหลักสูตรดนตรีและศิลปะการแสดงภาคภาษาอังกฤษจากประเทศอังกฤษซึ่งได้รับการยอมรับในการศึกษาต่อได้มากกว่า 250 มหาวิทยาลัยทั่วโลก วิทยาลัย Superstar College of Asia เดินหน้าเปิดหลักสูตรปริญญาตรี International ด้านดนตรีและศิลปะการแสดง เพื่อสร้างศิลปินป้อนวงการบันเทิง ก่อนแผนเดิมที่จะเปิดในอีก 2 ปีเพื่อแก้ปัญหาความขาดแคลนบุคลากรในอุตสาหกรรมบันเทิงทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งปัจจุบันกำลังขาดแคลนบุคลากรอย่างรุนแรง โดยเฉพาะประเทศไทยที่ขนาดตลาด Content ของวงการโทรทัศน์กำลังจะพุ่งขึ้นอีกกว่า 40% ภายหลังการเปิด Digital TV นายพิสิษฏ์พงศ์ วรเศรษฐการกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ออเคสตร้า อินเวสเตอร์ กรุ๊ป และคณบดี วิทยาลัยศิลปินแห่งเอเชีย หรือ Superstar College of Asia มหาวิทยาลัยสยาม เปิดเผยว่าความร่วมมือกับสถาบัน Edexcel Approved Centre จากประเทศอังกฤษนี้ ถือเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญของวงการการศึกษาไทยและอุตสาหกรรมบันเทิงไทย รวมถึงอุตสาหกรรมบันเทิงในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้เพราะในปัจจุบันอุตสาหกรรมบันเทิงทั้งภูมิภาคกำลังขาดแคลนบุคลากรในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหน้า เบื้องหลัง หรือศิลปินนักร้อง นักดนตรี นักแสดง “ความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาเพื่อสร้างศิลปินไทยให้เทียบชั้นระดับโลก เพราะหลักสูตรที่เรานำเข้ามาสอนในประเทศไทยนั้น เป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะ Edexcel Approved Centre นี้ถือเป็นบอร์ดคณะกรรมการการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษและเป็นผู้ผลิตหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับจากทั่วทุกมุมโลก” นายพิสิษฎ์พงศ์ กล่าว ปัจจุบัน ในประเทศอังกฤษมีคณะกรรมการการศึกษาที่ควบคุมระบบการศึกษาทั้งสิ้น 5 สถาบัน และ Edexcel Approved Centre เป็นสถาบันที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา 5 สถาบันดังกล่าวและมีอายุมากกว่า 100 ปี โดยหลักสูตรที่โด่งดังของ Edexcel คือ Business and Technology Education Council หรือ BTEC ซึ่งได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยมากกว่า 250 แห่งทั่วโลก ภายใต้หลักสูตรที่ Superstar College of Asia จะนำเข้ามาใช้สำหรับการเรียนการสอนด้านดนตรีและศิลปะการแสดงในประเทศไทยนั้น จะเป็นหลักสูตร 2 + 1 ซึ่งจะเป็นโอกาสของนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย หรือนักเรียนที่ต้องการเรียนในหลักสูตรภาษาอังกฤษทางด้านสาขาดนตรีและศิลปะการแสดงในประเทศไทย โดยเรียนหลักสูตรเดียวกับในประเทศอังกฤษ ซึ่งใช้เวลาเรียนในประเทศไทย 2 ปีแรกที่วิทยาลัยศิลปินแห่งเอเชีย จะได้รับวุฒิ BTEC LEVEL 5 จากสถาบัน Edexcel ประเทศอังกฤษ และเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษอีกเพียง 1 ปี หรือมหาวิทยาลัยในประเทศอื่นอีก 2 ปี จะได้รับปริญญาตรีศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาดนตรี หรือสาขาศิลปะการแสดง ที่ตนเองเลือก นับเป็นการเรียนจบปริญญาตรีได้ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีโดยได้วุฒิเสมือนไปเรียนที่อังกฤษ 3 ปีเต็ม “การเรียนในลักษณะนี้ จะช่วยให้ผู้ปกครองลดค่าใช้จ่ายในการส่งบุตรหลานไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษได้เป็นอย่างมากเพราะค่าใช้จ่ายในการเรียนที่ประเทศอังกฤษสำหรับนักเรียนไทยนั้น ปีละหลายล้านบาท อีกทั้งผู้ปกครองที่ยังต้องการให้บุตรหลานได้รับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษแต่ยังต้องการให้นักเรียนเรียนในประเทศไทยหลังจากจบมัธยมปลายอีกสองปีเพื่อรอให้นักเรียนมีวุฒิภาวะที่พร้อมจะไปเรียนต่อปีที่สามในต่างประเทศก็จะได้ประโยชน์จากโครงการนี้เป็นอย่างมาก” นายพิสิษฏ์พงศ์ กล่าว นายพิสิษฏ์พงศ์ กล่าวว่าการเดินหน้าเปิดหลักสูตรนานาชาติครั้งนี้ ถือเป็นการก้าวเร็วกว่าแผนเดิมที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งทาง Superstar College of Asia ได้กำหนดจะเปิดหลักสูตรนานาชาติในปี 2558 แต่เนื่องจากสถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเปิดประเทศเข้าสู่ความร่วมมือประชาชาติเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปี 2558 อีกทั้งรัฐบาลเร่งให้มี Digital TV อีก 48 ช่องภายในปีหน้า จะทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงเติบโตแบบก้าวกระโดด “ผมอยากจะอธิบายให้เห็นภาพว่าเมื่อยี่สิบปีก่อน ขนาดตลาดเฉพาะการผลิต Content ของวงการโทรทัศน์ไทยมีเพียงวันละ 60 ชั่วโมงเพราะเรามีแค่ฟรีทีวีไม่กี่ช่อง ต่อมาเกิดทีวีดาวเทียมกว่า 200 ช่อง และเข้าสู่ยุคคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ สมาร์ทโฟน ทำให้คนไทยสามารถเข้าสู่ช่องแห่งความบันเทิงได้ตลอดเวลาจากยูทูบ จึงทำให้ขนาดตลาด Content พุ่งขึ้นเป็นกว่า 2,000 ชั่วโมง Content ต่อวัน และในอนาคตอันใกล้จะมี Digital TV อีก 48 ช่อง ขนาดตลาด Content จะพุ่งขึ้นอีก 50% เป็นกว่า 3,000 ชั่วโมง Content ต่อวัน” นายพิสิษฏ์พงศ์ กล่าวและให้ข้อมูลเสริมว่าในปี 2554 บริษัทบันเทิงที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีรายได้รวมกันสูงกว่า 50,000 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมบันเทิงของโลก ที่มีขนาดตลาดมากกว่า 6 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม จำนวนบุคลากรในอุตสาหกรรมบันเทิงไม่สามารถเติบโตได้รวดเร็วเท่ากับอุตสาหกรรมบันเทิง ทำให้ปัจจุบันซึ่งขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพอย่างหนัก จะยิ่งทวีปัญหาความขาดแคลนที่รุนแรงขึ้น ดังนั้นการเปิดหลักสูตรระดับอุดมศึกษาของ Superstar College of Asia ร่วมกับมหาวิทยาลัยสยาม และหลักสูตรนานาชาติร่วมกับสถาบันจากประเทศอังกฤษในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมมีช่องทางการผลิตบุคลากรได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลักสูตรนานาชาตินั้น ไม่ใช่เพียงแค่การผลิตบุคลากรป้อนให้กับประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการผลิตบุคลากรให้กับภูมิภาคอาเซียนด้วย เพราะนักศึกษาจากประเทศรอบๆ ประเทศไทย จะสามารถเข้ามาศึกษาในหลักสูตรนี้ได้เพราะเป็นการสอนด้วยภาษาอังกฤษโดยคณะครูศิลปินระดับนานาชาติ นายพิสิษฏ์พงศ์ กล่าวว่า Superstar College of Asia มีความพร้อมที่จะเปิดรับหลักสูตรนานาชาติ ซึ่งช่วงที่ผ่านมา ได้มีการลงทุนเพิ่มอีก 50 ล้านบาทในการขยายห้องฝึกซ้อมและห้องเรียนเพิ่มเป็น 50 ห้องพร้อมด้วยอุปกรณ์อันทันสมัย และขณะนี้อยู่ระหว่างการลงทุนเพิ่มอีก 20 ล้านบาทในการขยายพื้นที่การเรียนการสอนอีก 20% เพื่อรองรับจำนวนนักศึกษาที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยปัจจุบัน Superstar College of Asia เริ่มเปิดการสอนนักศึกษาระดับปริญญาตรีรุ่นแรก 70 คนจากจำนวนผู้เข้าสอบมากกว่า 500 คน “ในจำนวนมากกว่า 500 คนนี้ เราคัดเลือกให้ผ่านเข้ามาเรียนได้เพียง 70 คน แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังคงเข้าใจผิดว่าคนที่จะมาเรียนเพื่อเข้าสู่วงการบันเทิงนั้น จะต้องหล่อและสวย ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะพื้นที่ทุกตารางนิ้วในอุตสาหกรรมบันเทิงมีที่ยืนให้กับคนที่มีคุณภาพและผ่านการฝึกสอนอย่างเป็นระบบที่อุตสาหกรรมบันเทิงต้องการ” นายพิสิษฏ์พงศ์ กล่าว -กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวมหาวิทยาลัยทั่วโลก
• ข่าวมหาวิทยาลัย
• ข่าวภาษาอังกฤษ
• ข่าวอุตสาหกรรม
• ข่าวประเทศไทย