ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ US$1,320-1,325 ต่อออนซ์(Gold spot) หลังประธาน FED 2 ท่านคือนายเจมส์ บูลลาร์ดและนางเอสเธอร์ จอร์จ แสดงความเห็นในเชิงลบต่อมาตรการ QE ซึ่งเป็นปัจจัยลบสำคัญต่อราคาทองคำ ขณะที่ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามต่อจะอยู่ที่การพิจารณากฎหมายงบประมาณและเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งหากกฎหมายให้ทุนดำเนินงานแก่หน่วยงานรัฐบาลไม่สามารถผ่านได้จะส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลบางส่วนต้องปิดทำการลงในวันที่ 1 ต.ค. นี้ ทางด้านยุโรป นางแองเจลา เมอร์เคิลได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งในเยอรมนี และดัชนี PMI ของยุโรปและเยอรมนีเพิ่มขึ้นดีกว่าที่คาด ค่าเงินบาทเริ่มมีการอ่อนค่าลงมาอีกครั้ง ล่าสุดอยู่ที่ 31.25 บาทต่อดอลลาร์ SPDR รายงานการถือครองทองคำลดลง 1.81 ตันสู่ระดับ 910.19 ตัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม 2556 (GFV13) ปิดที่ระดับ 19,620 บาท ปริมาณการซื้อขาย 1,180 สัญญา
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม 2556 ขนาด 10 บาท (GF10V13) ปิดที่ระดับ 19,610 บาท ปริมาณการซื้อขาย 4,660 สัญญา
แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า แม้ทองคำจะได้รับแรงกดดันจากคำปราศรัยของคณะกรรมการ FOMC ทั้ง 2 ท่าน แต่เชื่อว่าประเด็นการเจรจารของสภาคองเกรสในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ซึ่งใกล้กำหนดเส้นตายในสิ้นเดือนนี้น่าจะเป็นแรงหนุนต่อราคาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำอีกครั้ง สัปดาห์นี้ติดตามการรายงาน GDP ไตรมาส 2 ครั้งสุดท้ายของสหรัฐฯ และตัวเลขตลาดบ้านซึ่งจะเป็นตัวสะท้อนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทางเทคนิค เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีแนวรับ US$1,305-1,297 แนวต้าน US$1,335-1,350
GT Wealth Management
www.gtwm.co.th
TEL : 02-673-9911-กภ-