สภาวะตลาดวันที่ 6 มกราคม 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,233.48-1,245.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG14 อยู่ที่ 19,630 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 160 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,470 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG14 อยู่ที่ 671 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 671 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.56 น.ของวันที่ 06/01/14)
แนวโน้มวันที่ 7 มกราคม 2557
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย "นายชาร์ลส์ พลอสเซอร์" กล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมประจำปีสมาคมเศรษฐกิจอเมริกัน โดยแสดงความกังวลที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะทำให้ตลาดหุ้น และ ตลาดการเงินพุ่งสูงขึ้นโดยขาดปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนอย่างแท้จริงร่วมถึงแนวโน้มการปรับตัวขึ้นอย่าง รวดเร็วของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่ง เฟดเผชิญกับความท้าทายอย่างมากจากการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง และจำเป็นต้องพิจารณาถึง ได้เป็นปัจจัยหนุนราคาทองสปอต ขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดยังคงยืนยันการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย แม้ประกาศว่าจะชะลอ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดย ระบุด้วยว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงไม่สมบูรณ์อย่างชัดเจน ทั้งนี้ ยังคงเห็นแรงขายเข้ามายังตลาดทองคำเมื่อราคาปรับขึ้นประกอบกับสภาแห่งรัฐของจีนที่จะปรับกฎระเบียบควบคุมการปล่อยสินเชื่อในระบบธนาคารเงา (Shadow Bank) ให้เข้มงวดขึ้น หลังจากที่ส่งผลให้มีการปล่อยสินเชื่อที่เกิดความเสี่ยงอย่างมากได้กดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ราคทองคำภายในประเทศได้รับปัจจัยบวกจากการที่สกุลเงินบาทต่อดอลลาร์ร่วงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 4 ปีท่ามกลาง สถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดมากขึ้น บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่ามาที่บริเวณ 33.13 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2010 เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,250-1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,226-1,218 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากแนวรับนี้ไม่สามารถรับได้ นักลงทุนต้องระมัดระวัง ซึ่งหากไม่สามารถยืนเหนือบริเวณนี้ได้มีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไรออกมา
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,226 หรือ 1,218 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,250-1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,226 (19,170บาท) 1,218 (19,050บาท) 1,210 (18,920บาท)
แนวต้าน 1,254 (19,610บาท) 1,263 (19,750บาท) 1,270 (19,860บาท)
GOLD FUTURES (GFG14)
แนวรับ 1,226 (19,430บาท) 1,218 (19,300บาท) 1,210 (19,180บาท)
แนวต้าน 1,254 (19,870บาท) 1,263 (20,010บาท) 1,270 (20,120บาท)
SILVER FUTURES (SVG14)
แนวรับ 19.65 (658 บาท) 19.40 (650 บาท) 19.15 (642 บาท)
แนวต้าน 20.30 (680 บาท) 20.50 (687 บาท) 20.75 (695 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.56 น.ของวันที่ 06/01/14)
แนวโน้มวันที่ 7 มกราคม 2557
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย "นายชาร์ลส์ พลอสเซอร์" กล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมประจำปีสมาคมเศรษฐกิจอเมริกัน โดยแสดงความกังวลที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะทำให้ตลาดหุ้น และ ตลาดการเงินพุ่งสูงขึ้นโดยขาดปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนอย่างแท้จริงร่วมถึงแนวโน้มการปรับตัวขึ้นอย่าง รวดเร็วของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่ง เฟดเผชิญกับความท้าทายอย่างมากจากการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง และจำเป็นต้องพิจารณาถึง ได้เป็นปัจจัยหนุนราคาทองสปอต ขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดยังคงยืนยันการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย แม้ประกาศว่าจะชะลอ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดย ระบุด้วยว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงไม่สมบูรณ์อย่างชัดเจน ทั้งนี้ ยังคงเห็นแรงขายเข้ามายังตลาดทองคำเมื่อราคาปรับขึ้นประกอบกับสภาแห่งรัฐของจีนที่จะปรับกฎระเบียบควบคุมการปล่อยสินเชื่อในระบบธนาคารเงา (Shadow Bank) ให้เข้มงวดขึ้น หลังจากที่ส่งผลให้มีการปล่อยสินเชื่อที่เกิดความเสี่ยงอย่างมากได้กดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ราคทองคำภายในประเทศได้รับปัจจัยบวกจากการที่สกุลเงินบาทต่อดอลลาร์ร่วงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 4 ปีท่ามกลาง สถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดมากขึ้น บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่ามาที่บริเวณ 33.13 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2010 เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,250-1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,226-1,218 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากแนวรับนี้ไม่สามารถรับได้ นักลงทุนต้องระมัดระวัง ซึ่งหากไม่สามารถยืนเหนือบริเวณนี้ได้มีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไรออกมา
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,226 หรือ 1,218 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,250-1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,226 (19,170บาท) 1,218 (19,050บาท) 1,210 (18,920บาท)
แนวต้าน 1,254 (19,610บาท) 1,263 (19,750บาท) 1,270 (19,860บาท)
GOLD FUTURES (GFG14)
แนวรับ 1,226 (19,430บาท) 1,218 (19,300บาท) 1,210 (19,180บาท)
แนวต้าน 1,254 (19,870บาท) 1,263 (20,010บาท) 1,270 (20,120บาท)
SILVER FUTURES (SVG14)
แนวรับ 19.65 (658 บาท) 19.40 (650 บาท) 19.15 (642 บาท)
แนวต้าน 20.30 (680 บาท) 20.50 (687 บาท) 20.75 (695 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148