ฟรอสต์ฯเผย ระบบซัพพลายเชน เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของโรงงานไทย

           ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือที่เราเรียกกันโดยย่อว่า AEC กำลังจะมาถึงในปี 2558 นี้ เป็นที่แน่นอนว่า ปัจจัยในเชิงธุรกิจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาทิ แรงงานที่มีฝีมือ วิธีการทำธุรกิจ การให้บริการ หรือแม้กระทั่งเงินทุน ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถโยกย้ายได้ได้อย่างเสรีโดยไม่จำกัดขอบเขตในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดี สำหรับบริษัทต่างๆ ในขณะเดียวกัน บริษัท ก็ต้องมีการปรับตัวเพื่อให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันในระดับภูมิภาคอาเซียน นอกเหนือไปจากการแข่งขันเฉพาะในประเทศเพียงอย่างเดียว ประเทศที่เป็นศูนย์กลางด้านการผลิตต่างๆ อาทิ ประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ต่างก็ต้องการที่จะรักษาความได้เปรียบทางการผลิต ในขณะที่ประเทศอื่นๆ อย่าง พม่า ฟิลิปปินส์ เวียดนาม หรือประเทศอื่นๆ ต่างก็พยายามเพิ่มศักยภาพของตนเองเพื่อผลักดันให้ตัวเองกลายเป็นศูนย์กลางด้านการจัดหาตลาดใหม่ๆ สำหรับภูมิภาคอาเซียนเช่นกัน 

          เป็นที่แน่นอนว่าAEC จะมาพร้อมกับโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ ดังนั้น บริษัทใดที่มีการเตรียมพร้อมในการบริหารจัดการด้านการผลิตและการบริหารซัพพลายเชนที่ดี ก็จะสามารถไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจในอนาคตได้อย่างง่ายดายขึ้น บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก ขอแนะนำ the International Supply Chain Excellence Programme (ISCEP), Thailand Edition 2014 โปรแกรมที่จะช่วยทำให้องค์กรในอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถก้าวเข้าสู่ความเป็นเลิศในด้านซัพพลายเชน ได้โดยผ่านกระบวนการการประเมิน การวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ พร้อมทั้งการให้คำปรึกษาที่สามารถนำไปปฎิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

          ทั้งนี้ บริษัทที่ผ่านการประเมินจะได้รับรางวัล และโล่ห์เกียรติยศ เพื่อเป็นการยกย่องและเชิดชูเกียติ ในงานประกาศรางวัลของบริษัทฯ นอกจากนี้ ทุกบริษัทที่เข้าร่วมโปรแกรมดังกล่าวจะได้รับผลการประเมินแบบสกอร์การ์ด รวมทั้ง ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และปฎิบัติได้จริงจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านซัพพลายเชนโดยเฉพาะ รวมถึงการเปรียบเทียบประสิทธิภาพด้านแผนการดำเนินงานกับบริษัทอื่นๆทั่วโลก ซึ่งเมื่อนำไปรวมกับแผนธุรกิจของบริษัทจะสามารถต่อยอดให้ธุรกิจของบริษัทสามารถดำเนินไปสู่เป้าหมายที่วางไว้และได้รับประโยชน์ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างชัดเจน

          นาย โกะ อิง ลอก ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนได้กล่าวถึงโปรแกรม the International Supply Chain Excellence Programme (ISCEP) ที่จัดให้มีขึ้นในประเทศไทย ปีนี้เป็นครั้งแรกว่า “ภาคการผลิตถือว่าเป็นภาคส่วนสำคัญที่สามารถสร้างโอกาสการจ้างงานจำนวนมากให้กับแรงงานในทุกๆประเทศ สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตให้กับบริษัทยักษ์ระดับโลกหลายบริษัท โดยเฉพาะอยางยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ 

          ด้วยความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์และการเชื่อมต่อของถนนและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการจัดหาของภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น ปัจจัยที่จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถรักษาความได้เปรียบนี้ไว้ได้คือการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การส่งเสริมความสามารถในการบริหารจัดการซัพพลายเชน และ การพัฒนาด้านแรงงานและนวัตกรรมของสินค้ารวมไปถึงกระบวนการผลิต 

          ซึ่งโปรแกรม ISCEP ของฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยบริษัทที่กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายดังกล่าวข้างต้น และเพื่อช่วยพัฒนากระบวนการซัพพลายเชนของบริษัทให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มมากขึ้น และสามารถเพิ่มผลกำไรให้กับการดำเนินงานของบริษัทได้ในที่สุด”

          นายอารูป ซูตซิ ประธานผู้บริหารและหุ้นส่วน บริษัทฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน กล่าวว่า โปรแกรม ISCEP เป็นโปรแกรมที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่ต้องการเสริมสร้างสมรรถนะใหกับองค์กรของตนให้เหนือกว่าคู่แข่ง และเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท ซึ่งโปรแกรมนี้เป็นวิธีที่นำแนวปฎิบัติที่มีความเป็นเลิศจากหลายอุตสาหกรรมในหลายประเทศ มาผสมผสานและประยุกต์ใช้ในการพัฒนาคุณภาพในระบบซัพพลายเชนให้แก่องค์กรต่างๆ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการระบบซัพพลายเชนได้อย่างมีคุณภาพในระดับนานาชาติ แต่ยังช่วยยกระดับให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย ดังนั้น ผมจึงขอเชิญบริษัทต่างๆ นำโปรแกรมนี้ไปช่วยพัฒนาศักยภาพการผลิตภายในองค์กรของตน”