ธนาคารกรุงไทยขอโทษลูกค้ากว่า 4 หมื่นราย ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้บริการผ่านเครื่องเอทีเอ็มเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้คืนเงินให้ลูกค้าแล้วกว่า 50% ส่วนลูกค้าที่เหลือมั่นใจจะได้รับเงินคืนครบทุกราย ภายใน 1-2 วัน เผยมีแผนรองรับจำนวนการทำรายการที่เพิ่มสูงขึ้น
จากกรณีที่ระบบเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยขัดข้องเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้าของธนาคารกรุงไทย และลูกค้าธนาคารอื่นที่ใช้บริการเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยถอนเงินแล้วไม่ได้เงินแต่ถูกตัดเงินในบัญชี นั้น นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากมีจำนวนการทำรายการมากถึงเกือบ 6 ล้านรายการในวันดังกล่าว ทำให้การเชื่อมต่อของธนาคารกับเอทีเอ็มพูลขัดข้อง ซึ่งธนาคารได้แก้ไขปัญหาทันที และเสร็จสมบูรณ์ภายใน 1 วัน รวมทั้งได้เร่งทยอยคืนเงินให้กับลูกค้า โดยขณะนี้ลูกค้ากว่า 50% ได้รับเงินคืนแล้ว ส่วนที่เหลือจะได้รับเงินคืนครบทุกราย ภายใน 1-2 วัน
“ธนาคารรู้สึกเสียใจกับเหตุการณที่เกิดขึ้น และต้องขอโทษลูกค้าทุกรายที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ธนาคารเข้าใจถึงความเดือดร้อนของลูกค้าที่มาใช้บริการ ซึ่งหลังจากที่ได้แก้ไขปัญหาเรื่องระบบแล้ว ธนาคารได้ประสานกับธนาคารเจ้าของบัตรและเจ้าของเครื่องเอทีเอ็มโดยทันที โดยขณะนี้ได้ส่งข้อมูลระหว่างธนาคารแล้ว ดังนั้นลูกค้าของธนาคารอื่นที่มาใช้เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย และลูกค้าของธนาคารกรุงไทยที่ใช้เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารอื่น เมื่อมีการยืนยันข้อมูลระหว่างกันแล้ว ธนาคารก็จะนำเงินเข้าบัญชีให้ลูกค้าโดยอัตโนมัติ ขออย่าได้กังวลใจ”
อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าที่พบปัญหาดังกล่าว สามารถติดต่อธนาคารผ่านช่องทาง Call Center 1551 หรือที่ Facebook KTB Care ซึ่งธนาคารจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารกรุงไทยมีฐานลูกค้าถึงกว่า 17 ล้านบัญชี และมีแผนเพิ่มลูกค้ารายย่อยอีกจำนวนมาก ธนาคารจึงมีแผนพัฒนาระบบการให้บริการเพื่อรองรับฐานลูกค้าและจำนวนรายการที่เพิ่มสูงขึ้น และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ธนาคารจะเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้นกว่าแผนที่วางไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาจากการมีรายการจำนวนมาก ในโอกาสพิเศษต่างๆ เพื่อไม่ได้ลูกค้าได้รับผลกระทบ นายเวทย์ นุชเจริญ กล่าวในตอนท้าย
จากกรณีที่ระบบเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยขัดข้องเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้าของธนาคารกรุงไทย และลูกค้าธนาคารอื่นที่ใช้บริการเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยถอนเงินแล้วไม่ได้เงินแต่ถูกตัดเงินในบัญชี นั้น นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากมีจำนวนการทำรายการมากถึงเกือบ 6 ล้านรายการในวันดังกล่าว ทำให้การเชื่อมต่อของธนาคารกับเอทีเอ็มพูลขัดข้อง ซึ่งธนาคารได้แก้ไขปัญหาทันที และเสร็จสมบูรณ์ภายใน 1 วัน รวมทั้งได้เร่งทยอยคืนเงินให้กับลูกค้า โดยขณะนี้ลูกค้ากว่า 50% ได้รับเงินคืนแล้ว ส่วนที่เหลือจะได้รับเงินคืนครบทุกราย ภายใน 1-2 วัน
“ธนาคารรู้สึกเสียใจกับเหตุการณที่เกิดขึ้น และต้องขอโทษลูกค้าทุกรายที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ธนาคารเข้าใจถึงความเดือดร้อนของลูกค้าที่มาใช้บริการ ซึ่งหลังจากที่ได้แก้ไขปัญหาเรื่องระบบแล้ว ธนาคารได้ประสานกับธนาคารเจ้าของบัตรและเจ้าของเครื่องเอทีเอ็มโดยทันที โดยขณะนี้ได้ส่งข้อมูลระหว่างธนาคารแล้ว ดังนั้นลูกค้าของธนาคารอื่นที่มาใช้เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย และลูกค้าของธนาคารกรุงไทยที่ใช้เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารอื่น เมื่อมีการยืนยันข้อมูลระหว่างกันแล้ว ธนาคารก็จะนำเงินเข้าบัญชีให้ลูกค้าโดยอัตโนมัติ ขออย่าได้กังวลใจ”
อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าที่พบปัญหาดังกล่าว สามารถติดต่อธนาคารผ่านช่องทาง Call Center 1551 หรือที่ Facebook KTB Care ซึ่งธนาคารจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารกรุงไทยมีฐานลูกค้าถึงกว่า 17 ล้านบัญชี และมีแผนเพิ่มลูกค้ารายย่อยอีกจำนวนมาก ธนาคารจึงมีแผนพัฒนาระบบการให้บริการเพื่อรองรับฐานลูกค้าและจำนวนรายการที่เพิ่มสูงขึ้น และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ธนาคารจะเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้นกว่าแผนที่วางไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาจากการมีรายการจำนวนมาก ในโอกาสพิเศษต่างๆ เพื่อไม่ได้ลูกค้าได้รับผลกระทบ นายเวทย์ นุชเจริญ กล่าวในตอนท้าย
ทีเอ็มบีธนชาต สำรองธนบัตร 13,000 ล้านบาท ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
กสิกรไทยสำรองเงินสด 35,900 ล้านบาท รับเทศกาลปีใหม่
กสิกรไทยสำรองเงินสด 34,300 ล้านบาท รับเทศกาลปีใหม่
ทีเอ็มบีธนชาต สำรองธนบัตร 15,000 ล้านบาท ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566
กสิกรไทยสำรองเงินสด 29,600 ล้านบาท รับเทศกาลสงกรานต์
ไทยพาณิชย์สำรองธนบัตรเทศกาลตรุษจีน ปี 2566
กสิกรไทยสำรองเงินสด 37,400 ล้านบาท รับเทศกาลตรุษจีน ปี 2566