ผู้ผลิตกล่องดิจิตอล และผู้บริโภค เสนอแนะแนวทางโครงการคูปอง กสทช.
ผู้บริโภค และชมรมผู้ผลิตและจำหน่ายกล่องดิจิตอลทีวี ยื่นข้อเสนอโครงการคูปอง รายละเอียด ดังนี้
คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน โดย นางสาวสารี อ๋องสมหวัง และ นางมณี จิรโชติมงคลกุล เข้ายื่นหนังสือกับ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ตัวแทนกรรมการการ กสทช. ถึงข้อเสนอมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคในการแจกคูปองและจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวี นางสาวสารี กล่าวว่า คณะกรรมการองค์การอิสระ ฯ ขอชื่นชม กสทช. ที่มีมติด้วยเสียงเอกฉันท์ 10:0 ให้คูปองมีมูลค่า 690 บาทใช้สำหรับแลกซื้อทีวีและกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิตอล ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณได้มากถึง 7,099 ล้านบาท พร้อมขอให้ กสทช. ประกาศรายชื่อบริษัทที่ผ่านมาตรฐานและได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องรับโทรทัศน์หรือเครื่องรับสัญญาณอย่างเปิดเผยที่ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งมีระบบติดตามหรือสนับสนุนให้มีการติดตามคุณภาพกล่องในท้องตลาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบคุณภาพกล่องที่มีการจำหน่ายในท้องตลาดว่าเป็นไปตามมาตรฐานของกสทช. พร้อมเสนอหักส่วนแบ่งมูลค่าคูปองไว้ร้อยละ 5 เพื่อสนับสนุนระบบรับผิดต่อสินค้ากับผู้บริโภคหากมีชำรุดหรือเสียหาย แทนที่จะต้องวางทุนประกันก่อนการจำหน่ายในมูลค่าสูงถึงร้อยละ 5 ของกล่องที่จำหน่าย ทำให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กและกลางที่ทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 1 ล้านบาท
สารี กล่าวว่า ขอให้มีการรับประกันกล่อง 3 ปี ตามที่ได้เคยประกาศไว้ และมีบริการโทรศัพท์สอบถามปัญหาการใช้งาน การติดตั้ง ที่สามารถเข้าถึงได้ รวมทั้งขอให้ผู้บริโภคสามารถคืนสินค้าหรือส่งสินค้าเพื่อการซ่อมแซมได้จากร้านค้าที่จัดให้มีการจำหน่าย ส่วนการขายตรงต่อผู้บริโภค ขอให้ตัวแทนที่ดำเนินการเป็นตัวแทนที่ถูกกฎหมาย ตามพรบ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 และมีกลไกรับผิดชอบในการคืนสินค้าและให้บริการหลังการขายเช่นเดียวกัน
ในขณะเดียวกัน ดร.เอกศักดิ์ แดงเดช ประธานชมรมผู้ผลิตและจําหน่าย Digital TV ได้ยื่นข้อเสนอต่อ กสทช. .ก่อนการประชุมว่า แม้กสทช.จะอนุมัติคูปองที่ราคา 690 บาท ก็สามารถผลิตและขายกล่องได้ แม้จะมีส่วนต่างกําไรน้อยมากและจะเหลือผู้เข้าร่วมน้อยลงเพราะขาดแรงจูงใจ จึงอยากให้ กสทช.ช่วยลดต้นทุน อาทิ ค่าแสตมป์ ค่ากระจายสินค้า เป็นต้น ส่วนเงื่อนไขคุณสมบัติ เห็นว่าควรอนุญาตให้ทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 1 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกขนาด เพราะทุนจดทะเบียนมากน้อยไม่ได้วัดคุณภาพของสินค้าแต่ควรตรวจกล่องอย่างเข้มงวด และตรวจโรงงานประกอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าของได้รับการผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพ เสนอให้กสทช.ควรออกตรวจโรงงานที่เป็นผู้ประกอบและผลิตภายในประเทศทั้ง CKD และ SKD เพื่อเป็นการประกันคุณภาพที่แท้จริงของกล่อง และควรมีประสบการณ์ในการทํา Box Built และเพื่อป้องกันการแอบนําเข้ามาโดยหลีกเลี่ยงภาษีและไม่ผ่านโรงงานมาตรฐาน ต้องระบุให้โรงงานเป็นผู้ซื้อ แสตมป์
ส่วนการรับประกันสินค้า ตัวแทนชมรมฯเสนอว่า ควรรับประกัน1- 2 ปี หากมีการรับประกันยาวขึ้นขอให้เป็นเรื่องการตลาดที่จะจูงใจผู้บริโภค หรือมีการชําระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม และควรระบุเงื่อนไขการรับประกันเพิ่มเติมหากทำชำรุดเองและสามารถคิดค่าซ่อมได้เเม้อยู่ในระยะประกันถ้าสินค้าเสียเนื่องจากมิใช่การเสื่อมคุณภาพของสินค้า รวมทั้งเมื่อนํามาส่งซ่อมต้องมีเครื่องยืมใช้ระหว่างการซ่อม ด้านเงินประกัน ขอให้หัก 1%(มาตราฐานสากลกรณี. อะไหล่สํารอง) จากเงินที่ กสทช.จ่ายให้เป็นค่าคูปองเมื่อนําคูปองมาขึ้นเงิน และสามารถนํา Bank Garantee มาเปลี่ยนเพื่อเป็นประกันแทนได้ในภายหลัง และต้องทยอยคืนตามเวลาที่ผ่านไปของการรับประกัน และ กสทช.สามารถหักไว้ตามความเป็นจริงของการชดเชยแก่ผู้บริโภคแต่ไม่เกินราคาคูปองของแต่ละราย รวมทั้งต้องมีจุดบริการหรือ ตัวแทนในการบริการหลังการขายอย่างน้อย 1จุดต่อจังหวัด ทั้งนี้ ต้องระบุเบอร์โทรศัพท์ หรือ ช่องทางการติดต่อเพิ่มเติมที่ข้างกล่อง แต่สําหรับ Call Center กลางที่จะให้ข้อมูลพื้นฐานให้ความรู้ความเข้าใจและติดต่อไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาให้ผู้บริโภค ต้องเป็นความรับผิดชอบของ กสทช.
ทั้งนี้ ชมรมฯ ได้เสนอให้ กสทช. ร่วมประสานงานกับ Modern Trade เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำกล่องเข้าไปขายหลายยี่ห้อ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคเข้ามาซื้อ รวมทั้งตั้งคณะทํางานจากผู้มีส่วนได้เสียเข้ามาร่วมกันเสนอความคิดเห็นเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค
ด้านนางสาวสุภิญญา หลังได้รับหนังสือแล้วจะนำข้อเสนอที่ได้เข้าที่ประชุมเสนอต่อ กสทช. เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค…
คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน โดย นางสาวสารี อ๋องสมหวัง และ นางมณี จิรโชติมงคลกุล เข้ายื่นหนังสือกับ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ตัวแทนกรรมการการ กสทช. ถึงข้อเสนอมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคในการแจกคูปองและจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวี นางสาวสารี กล่าวว่า คณะกรรมการองค์การอิสระ ฯ ขอชื่นชม กสทช. ที่มีมติด้วยเสียงเอกฉันท์ 10:0 ให้คูปองมีมูลค่า 690 บาทใช้สำหรับแลกซื้อทีวีและกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิตอล ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณได้มากถึง 7,099 ล้านบาท พร้อมขอให้ กสทช. ประกาศรายชื่อบริษัทที่ผ่านมาตรฐานและได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องรับโทรทัศน์หรือเครื่องรับสัญญาณอย่างเปิดเผยที่ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งมีระบบติดตามหรือสนับสนุนให้มีการติดตามคุณภาพกล่องในท้องตลาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบคุณภาพกล่องที่มีการจำหน่ายในท้องตลาดว่าเป็นไปตามมาตรฐานของกสทช. พร้อมเสนอหักส่วนแบ่งมูลค่าคูปองไว้ร้อยละ 5 เพื่อสนับสนุนระบบรับผิดต่อสินค้ากับผู้บริโภคหากมีชำรุดหรือเสียหาย แทนที่จะต้องวางทุนประกันก่อนการจำหน่ายในมูลค่าสูงถึงร้อยละ 5 ของกล่องที่จำหน่าย ทำให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กและกลางที่ทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 1 ล้านบาท
สารี กล่าวว่า ขอให้มีการรับประกันกล่อง 3 ปี ตามที่ได้เคยประกาศไว้ และมีบริการโทรศัพท์สอบถามปัญหาการใช้งาน การติดตั้ง ที่สามารถเข้าถึงได้ รวมทั้งขอให้ผู้บริโภคสามารถคืนสินค้าหรือส่งสินค้าเพื่อการซ่อมแซมได้จากร้านค้าที่จัดให้มีการจำหน่าย ส่วนการขายตรงต่อผู้บริโภค ขอให้ตัวแทนที่ดำเนินการเป็นตัวแทนที่ถูกกฎหมาย ตามพรบ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 และมีกลไกรับผิดชอบในการคืนสินค้าและให้บริการหลังการขายเช่นเดียวกัน
ในขณะเดียวกัน ดร.เอกศักดิ์ แดงเดช ประธานชมรมผู้ผลิตและจําหน่าย Digital TV ได้ยื่นข้อเสนอต่อ กสทช. .ก่อนการประชุมว่า แม้กสทช.จะอนุมัติคูปองที่ราคา 690 บาท ก็สามารถผลิตและขายกล่องได้ แม้จะมีส่วนต่างกําไรน้อยมากและจะเหลือผู้เข้าร่วมน้อยลงเพราะขาดแรงจูงใจ จึงอยากให้ กสทช.ช่วยลดต้นทุน อาทิ ค่าแสตมป์ ค่ากระจายสินค้า เป็นต้น ส่วนเงื่อนไขคุณสมบัติ เห็นว่าควรอนุญาตให้ทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 1 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกขนาด เพราะทุนจดทะเบียนมากน้อยไม่ได้วัดคุณภาพของสินค้าแต่ควรตรวจกล่องอย่างเข้มงวด และตรวจโรงงานประกอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าของได้รับการผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพ เสนอให้กสทช.ควรออกตรวจโรงงานที่เป็นผู้ประกอบและผลิตภายในประเทศทั้ง CKD และ SKD เพื่อเป็นการประกันคุณภาพที่แท้จริงของกล่อง และควรมีประสบการณ์ในการทํา Box Built และเพื่อป้องกันการแอบนําเข้ามาโดยหลีกเลี่ยงภาษีและไม่ผ่านโรงงานมาตรฐาน ต้องระบุให้โรงงานเป็นผู้ซื้อ แสตมป์
ส่วนการรับประกันสินค้า ตัวแทนชมรมฯเสนอว่า ควรรับประกัน1- 2 ปี หากมีการรับประกันยาวขึ้นขอให้เป็นเรื่องการตลาดที่จะจูงใจผู้บริโภค หรือมีการชําระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม และควรระบุเงื่อนไขการรับประกันเพิ่มเติมหากทำชำรุดเองและสามารถคิดค่าซ่อมได้เเม้อยู่ในระยะประกันถ้าสินค้าเสียเนื่องจากมิใช่การเสื่อมคุณภาพของสินค้า รวมทั้งเมื่อนํามาส่งซ่อมต้องมีเครื่องยืมใช้ระหว่างการซ่อม ด้านเงินประกัน ขอให้หัก 1%(มาตราฐานสากลกรณี. อะไหล่สํารอง) จากเงินที่ กสทช.จ่ายให้เป็นค่าคูปองเมื่อนําคูปองมาขึ้นเงิน และสามารถนํา Bank Garantee มาเปลี่ยนเพื่อเป็นประกันแทนได้ในภายหลัง และต้องทยอยคืนตามเวลาที่ผ่านไปของการรับประกัน และ กสทช.สามารถหักไว้ตามความเป็นจริงของการชดเชยแก่ผู้บริโภคแต่ไม่เกินราคาคูปองของแต่ละราย รวมทั้งต้องมีจุดบริการหรือ ตัวแทนในการบริการหลังการขายอย่างน้อย 1จุดต่อจังหวัด ทั้งนี้ ต้องระบุเบอร์โทรศัพท์ หรือ ช่องทางการติดต่อเพิ่มเติมที่ข้างกล่อง แต่สําหรับ Call Center กลางที่จะให้ข้อมูลพื้นฐานให้ความรู้ความเข้าใจและติดต่อไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาให้ผู้บริโภค ต้องเป็นความรับผิดชอบของ กสทช.
ทั้งนี้ ชมรมฯ ได้เสนอให้ กสทช. ร่วมประสานงานกับ Modern Trade เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำกล่องเข้าไปขายหลายยี่ห้อ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคเข้ามาซื้อ รวมทั้งตั้งคณะทํางานจากผู้มีส่วนได้เสียเข้ามาร่วมกันเสนอความคิดเห็นเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค
ด้านนางสาวสุภิญญา หลังได้รับหนังสือแล้วจะนำข้อเสนอที่ได้เข้าที่ประชุมเสนอต่อ กสทช. เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค…
ข่าวองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้+สาวสุภิญญา กลางณรงค์วันนี้
องค์กรผู้บริโภคขอให้ กสท. ตรวจสอบการถือหุ้น SLC หวั่น ประชาชนถูก ปิดกั้นการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร
คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน ได้แก่ นางสาวชลดา บุญเกษม นางมณี จิรโชติมงคลกุล พร้อมด้วยตัวแทนผู้บริโภค เข้ายื่นหนังสือต่อกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ 3 คน ได้แก่ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ เพื่อขอให้ตรวจสอบการเข้าถือหุ้นในกิจการสื่อของบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์(1988) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC นางสาวชลดา กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้มีการดำเนินการติดตามสถานการณ์ จากกรณีที่ บ. SLC ได้