“โสสุโก้” สร้างความประทับใจและมิตรภาพในสนามแข่ง “เวิลด์ โอเทลโล่ แชมเปียนชิป 2014”

          บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด ผู้ดำเนินการตลาดและการขายกระเบื้องเซรามิกปูพื้นและบุผนังตราโสสุโก้ รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “เวิลด์ โอเทลโล่ แชมเปียนชิป” ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 60 คนจาก 25 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งนี้ผลการแข่งขันปรากฏว่า แชมป์โลกประเภทชาย ได้แก่ มาโคโตะ สุเอคุนิ จากประเทศญี่ปุ่น แชมป์ประเภทหญิง ได้แก่ โจอันนา วิลเลียม จากประเทศออสเตรเลีย แชมป์โลกประเภททีมเป็นของประเทศญี่ปุ่น ส่วนตัวแทนทั้ง 4 คนจากประเทศไทย ได้แก่ ปิยะณัฐ อัญชุลี (นัท) วราวุฒิ อินทรนบ (เปา) วรเมธ เหมพิจิตร (ไอซ์) และนิดา พัฒรากุล (ปุ้ย) สามารถคว้าอันดับ 5 ในประเภททีมมาได้
          แม้จะเป็นการแข่งขันระดับโลกเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักเล่นโอเทลโล่ แต่สิ่งที่ผู้จัดงานในปีนี้ให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ การส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย การสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างนักกีฬาจากชาติต่างๆ และการสนับสนุนให้กีฬาโอเทลโล่เป็นกิจกรรมของครอบครัว โดยนายกิตติชัย ไกรก่อกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด กล่าวว่า “โสสุโก้ได้สนับสนุนให้ชมรมหมากกระดานโอเทลโล่ (ประเทศไทย) ส่งตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันเวิลด์ โอเทลโล่ แชมเปียนชิป ในประเทศต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2549 ดังนั้นเมื่อไทยได้รับการโหวตให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันในปีนี้ โสสุโก้จึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการกระชับความสัมพันธ์กับนานาประเทศโดยใช้โอเทลโล่เป็นตัวเชื่อม และทำให้ชาวโลกได้รู้จักประเทศไทยในแง่มุมที่สวยงาม ผ่านงานเลี้ยงต้อนรับและงานเลี้ยงส่งนักกีฬาที่อบอุ่นตามแบบไทยๆ เพื่อให้การเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งของทุกคน”
          ภายในงานเหล่านักกีฬาและคณะกรรมการจากนานาชาติได้รับการต้อนรับด้วยไมตรีจิตจากเหล่าหญิงสาวในชุดไทย พร้อมทั้งมีการแสดงวงดุริยางค์จากโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย ตามด้วยการแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย ได้แก่ การแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยประกอบจังหวะดนตรีไทยอันสนุกสนานเร้าใจ และการร่ายรำแบบไทยที่ผสมผสานกับลีลาการเต้นแบบตะวันตกได้อย่างลงตัว สร้างความประทับใจให้กับนักกีฬาและคณะกรรมการจากประเทศต่างๆ ได้เป็นอย่างมาก
          ในสนามแข่ง ผู้เล่นทุกคนต่างเป็นคู่แข่งขันที่ต้องประลองไหวพริบกันอย่างเต็มที่เพื่อชิงความเป็นหนึ่ง แต่นอกเหนือจากการแข่งขันแล้ว ทุกคนต่างเป็นเพื่อนกัน ที่ผ่านมาการเล่นโอเทลโล่เป็นสื่อกลางในการสร้างมิตรภาพระหว่างสมาชิกชมรมโอเทลโล่จากหลากหลายประเทศ โดยมีการติดต่อแลกเปลี่ยนข่าวสารกันผ่านอีเมล์และโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ค มาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการมาร่วมแข่งขันในเวทีระดับโลก รวมถึง “เวิลด์ โอเทลโล่ แชมเปียนชิป” ในครั้งนี้ ยังเป็นโอกาสของนักกีฬาในการทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่และพบปะกับเพื่อนนักกีฬาที่เคยเจอกันในการแข่งขันครั้งก่อนๆ อีกด้วย
          สำหรับหมากกระดานโอเทลโล่นั้นมีวิธีการเล่นคล้ายกับการเล่นหมากหนีบ โดยจะมีช่องให้วางหมาก 64 ช่อง ฝ่ายหนึ่งวางหมากสีขาว อีกฝ่ายวางหมากสีดำ เริ่มจากการวางหมากข้างละ 2 ตัวบนกระดาน แล้วสลับกันวางหมากเพิ่มฝ่ายละ 1 ตัว ถ้าหมากสีใดถูกหนีบจะต้องพลิกกลับเป็นสีของฝ่ายตรงข้าม การวางหมากแต่ละครั้งมีเวลาให้หยุดคิดเพียงเล็กน้อย โดยรวมทั้งเกมแล้วจะใช้เวลาหยุดคิดได้ไม่เกินคนละ 30.นาที เมื่อวางหมากครบทั้ง 64 ช่องแล้ว ฝ่ายที่มีหมากบนกระดานจำนวนมากกว่าจะเป็นผู้ชนะ
          “การเล่นโอเทลโล่นั้นไม่ยาก แต่จะเล่นให้ชนะนั้นยากมาก เพราะถ้าเดินหมากผิดช่องอาจทำให้หมากของเราโดนพลิกกลายเป็นหมากของคู่แข่งไปทั้งกระดานก็เป็นได้ จึงทำให้โอเทลโล่มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “หมากพลิกล็อค” การเล่นโอเทลโล่เป็นการฝึกใช้ความคิดและการวางแผนอย่างรอบคอบ ทั้งยังช่วยฝึกสติและสมาธิ จึงเหมาะกับนักธุรกิจ และคนทุกเพศทุกวัย หากลูกหลานชวนคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายที่บ้านมาเล่นด้วยกันแล้ว ก็จะเป็นกิจกรรมที่ให้ทั้งความสนุกสานและเสริมสร้างความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี” นายกิตติชัยกล่าวเสริม
ผู้สนใจกีฬาหมากพลิกล็อคหรือโอเทลโล่ สามารถเข้ามาศึกษาหรือร่วมแข่งขันเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยในปีหน้าได้ ที่เว็บไซต์ของชมรมหมากกระดานโอเทลโล่ประเทศไทย www.thaiothello.com โอกาสในการคว้าแชมป์โอเทลโล่ระดับโลกครั้งต่อไปอาจเป็นของคุณ