นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จีนและฮ่องกง แจ้งว่าโครงการเชื่อมโยงตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นฮ่องกง (Shanghai – Hong Kong Stock Connect) จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนจากทั่วโลกซื้อขายหุ้นจีนจากตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้โดยตรง
ที่ผ่านมาการลงทุนในหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (A-Share) จะทำได้อย่างจำกัด นักลงทุนต่างชาติทั่วไปไม่สามารถเข้าไปลงทุนได้อย่างเสรี ซึ่งการเปิดให้บริการ Shanghai – Hong Kong Stock Connect ถือเป็นโอกาสอันดีให้ซื้อขายหุ้นประเภท A-Share ได้โดยผ่านตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงรวมทั้งสิ้น 568 หลักทรัพย์ (จากทั้งหมด 950 หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเซื่ยงไฮ้)
โดยทางเมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มีบริการ Offshore trading ที่ให้ลูกค้าซื้อขายหุ้นต่างประเทศทั่วโลกได้ง่าย รวดเร็ว แบบ Realtime และบริษัทฯ ยังส่งบุคลากรคนไทยไปประจำอยู่ที่ฮ่องกง เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดในทุกๆด้าน ทั้งด้านบทวิเคราะห์ที่ครอบคลุมหุ้นทั้ง A-Share และ H-Share ในทุกๆวัน ซึ่งหากลูกค้ามีความสนใจหุ้นตัวไหนเป็นพิเศษสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทีมงานเมย์แบงก์ กิมเอ็ง ที่ฮ่องกง ได้ทันที รวมถึงมีการส่งตรงข้อมูลข่าวสารจาก Shanghai-Hong Kong Connect เพื่อให้ลูกค้าไม่พลาดโอกาสในการลงทุน
“ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันได้ปรับตัวสูงขึ้นมากและราคาหุ้นส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างแพง PE บางตัวก็สูงมากเกินกว่าจะลงทุนได้ นักลงทุนจึงควรมีแหล่งลงทุนเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสและศักยภาพของการลงทุนให้หลากหลาย เพิ่มโอกาสการทำกำไรให้สูงยิ่งขึ้น การเข้าไปลงทุนตลาด Shanghai – Hong Kong connect ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ” หากนักลงทุนท่านใดสนใจสอบถามเพิ่มเติมติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 0-2658-5050 หรือ http://www.maybank-ke.co.th“ นางบุญพร กล่าวทิ้งท้าย
ที่ผ่านมาการลงทุนในหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (A-Share) จะทำได้อย่างจำกัด นักลงทุนต่างชาติทั่วไปไม่สามารถเข้าไปลงทุนได้อย่างเสรี ซึ่งการเปิดให้บริการ Shanghai – Hong Kong Stock Connect ถือเป็นโอกาสอันดีให้ซื้อขายหุ้นประเภท A-Share ได้โดยผ่านตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงรวมทั้งสิ้น 568 หลักทรัพย์ (จากทั้งหมด 950 หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเซื่ยงไฮ้)
โดยทางเมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มีบริการ Offshore trading ที่ให้ลูกค้าซื้อขายหุ้นต่างประเทศทั่วโลกได้ง่าย รวดเร็ว แบบ Realtime และบริษัทฯ ยังส่งบุคลากรคนไทยไปประจำอยู่ที่ฮ่องกง เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดในทุกๆด้าน ทั้งด้านบทวิเคราะห์ที่ครอบคลุมหุ้นทั้ง A-Share และ H-Share ในทุกๆวัน ซึ่งหากลูกค้ามีความสนใจหุ้นตัวไหนเป็นพิเศษสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทีมงานเมย์แบงก์ กิมเอ็ง ที่ฮ่องกง ได้ทันที รวมถึงมีการส่งตรงข้อมูลข่าวสารจาก Shanghai-Hong Kong Connect เพื่อให้ลูกค้าไม่พลาดโอกาสในการลงทุน
“ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันได้ปรับตัวสูงขึ้นมากและราคาหุ้นส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างแพง PE บางตัวก็สูงมากเกินกว่าจะลงทุนได้ นักลงทุนจึงควรมีแหล่งลงทุนเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสและศักยภาพของการลงทุนให้หลากหลาย เพิ่มโอกาสการทำกำไรให้สูงยิ่งขึ้น การเข้าไปลงทุนตลาด Shanghai – Hong Kong connect ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ” หากนักลงทุนท่านใดสนใจสอบถามเพิ่มเติมติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 0-2658-5050 หรือ http://www.maybank-ke.co.th“ นางบุญพร กล่าวทิ้งท้าย
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย เมื่อ ECB มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จัดสัมมนา WORLD WIDE WEALTH ให้แก่ลูกค้า Investment Management
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง รับรางวัล Best Capital Markets Brokerage South East Asia 2021
กลุ่ม Maybank Kim Eng จัดสัมมนา Invest ASEAN 2021 ในหัวข้อ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จัดงาน Happy Retirement แด่ คุณมนตรี ศรไพศาล
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เปิดตัวบริการใหม่ Investment Management บริการวางแผนการลงทุนและจัดพอร์ตให้แก่ลูกค้า
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมิน FOMC ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น และอานิสงค์ของแถลงการเปิดประเทศใน 120 วัน
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินงบประมาณของสหรัฐฯปี 2022 ส่งหุ้นกลุ่มวัฎจักรเศรษฐกิจยังดูโดดเด่นในระยะยาว
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คัดสรรหุ้นที่คาดแนวโน้มทำกำไรขยายตัวได้โดดเด่นในช่วง 2Q64