กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “JCI Standards for Hospitals,
5th edition” พร้อมยกระดับคุณภาพบริการสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยว ให้เกิดความครอบคลุม ทุกมิติของการบริการด้านสุขภาพให้มีมาตรฐานระดับสากล เกิดเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพและเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมก้าวเป็นผู้นำด้านบริการสุขภาพในเวทีโลกได้
นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้ช่วยอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เป็นหน่วยงานหลักในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านระบบบริการสุขภาพให้ประชาชนทุกคนในเขตเครือข่ายได้รับบริการสุขภาพที่มีมาตรฐาน ทุกระดับ และพัฒนาขีดความสามารถเพื่อยกระดับคุณภาพมาตรฐานของการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข จึงกำหนดจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “JCI Standards for Hospitals, 5th edition” เพื่อยกระดับคุณภาพบริการของสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะในกลุ่มสถานพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยว ให้มีขีดความสามารถให้บริการตามมาตรฐานสากลได้ เพื่อให้ผู้รับบริการเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเป็นธรรม โดยใช้มาตรฐาน JCI (Joint Commission International on Accreditation; JCI) เป็นมาตรฐานในระดับสากลที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งให้ความสำคัญในการดูแลและรักษาสุขภาพคำนึง ถึงความสำคัญของสิทธิผู้ป่วยครอบคลุมในทุกด้านของการบริหารด้านสุขภาพ มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ สิทธิของผู้ป่วย การรักษาผู้ป่วย การควบคุมการติดเชื้อ เป็นต้น มีการตรวจประเมิน ตลอดจนให้การรับรองมาตรฐานคุณภาพแก่สถานพยาบาลที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนด มุ่งเน้นการปฏิบัติขององค์กรที่มีผลกระทบต่อคุณภาพและความปลอดภัยของการดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง เช่น เป้าหมายความปลอดภัยผู้ป่วยสากล (International Patient Safety Goals; IPSG) ที่เป็นการรวบรวมอุบัติการณ์หรือเหตุการณ์ในด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นทั้งหมด มาจัดระดับความเสี่ยง, ความรุนแรง และโอกาสที่จะเกิด นำมาวิเคราะห์หาสาเหตุ กำหนดเป็นมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยอย่างปลอดภัยในระดับสากล โดย IPSG มีทั้งหมด 6 ข้อ ได้แก่ การระบุตัวผู้ป่วยถูกต้อง, การพัฒนาประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างทีมผู้ให้การดูแลผู้ป่วย, การเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ยาที่ต้องระมัดระวังสูง, การสร้างระบบเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการผ่าตัดผู้ป่วยให้ถูกคน ถูกตำแหน่ง ถูกหัตถการ, การลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพ, และการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายของผู้ป่วยจากภาวะพลัดตกหกล้มในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ในโรงพยาบาลทุกแห่ง และเมื่อเกิดขึ้นแล้วผู้ป่วยอาจจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงได้ เป็นต้น และการประชุมครั้งนี้เป็นมาตรฐาน JCI ฉบับล่าสุด คือฉบับที่ 5 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 และประเทศไทยมีสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน JCI รวม 42 แห่ง ทำให้ประเทศก้าวสู่อันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสามารถแข่งขันในเวทีระดับโลกได้
เภสัชกรหญิงชยาวี กาญวัฒนะกิจ รักษาการผู้อำนวยการกองสุขภาพระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้เน้นการฝึกอบรม ถ่ายทอดความรู้ให้แก่บุคลากรในสถานพยาบาล จำนวน 250 คน จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานคุณภาพสถานพยาบาล ให้บุคลากรเกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำประยุกต์ในการพัฒนาองค์กรและระบบบริการ รวมถึงการควบคุมกำกับมาตรฐานของหน่วยงาน ติดตามประเมินผลความสำเร็จ และสามารถนำไปขยายผลการพัฒนาต่อไปได้ ให้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในเวทีโลก
5th edition” พร้อมยกระดับคุณภาพบริการสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยว ให้เกิดความครอบคลุม ทุกมิติของการบริการด้านสุขภาพให้มีมาตรฐานระดับสากล เกิดเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพและเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมก้าวเป็นผู้นำด้านบริการสุขภาพในเวทีโลกได้
นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้ช่วยอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เป็นหน่วยงานหลักในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านระบบบริการสุขภาพให้ประชาชนทุกคนในเขตเครือข่ายได้รับบริการสุขภาพที่มีมาตรฐาน ทุกระดับ และพัฒนาขีดความสามารถเพื่อยกระดับคุณภาพมาตรฐานของการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข จึงกำหนดจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “JCI Standards for Hospitals, 5th edition” เพื่อยกระดับคุณภาพบริการของสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะในกลุ่มสถานพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยว ให้มีขีดความสามารถให้บริการตามมาตรฐานสากลได้ เพื่อให้ผู้รับบริการเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเป็นธรรม โดยใช้มาตรฐาน JCI (Joint Commission International on Accreditation; JCI) เป็นมาตรฐานในระดับสากลที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งให้ความสำคัญในการดูแลและรักษาสุขภาพคำนึง ถึงความสำคัญของสิทธิผู้ป่วยครอบคลุมในทุกด้านของการบริหารด้านสุขภาพ มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ สิทธิของผู้ป่วย การรักษาผู้ป่วย การควบคุมการติดเชื้อ เป็นต้น มีการตรวจประเมิน ตลอดจนให้การรับรองมาตรฐานคุณภาพแก่สถานพยาบาลที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนด มุ่งเน้นการปฏิบัติขององค์กรที่มีผลกระทบต่อคุณภาพและความปลอดภัยของการดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง เช่น เป้าหมายความปลอดภัยผู้ป่วยสากล (International Patient Safety Goals; IPSG) ที่เป็นการรวบรวมอุบัติการณ์หรือเหตุการณ์ในด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นทั้งหมด มาจัดระดับความเสี่ยง, ความรุนแรง และโอกาสที่จะเกิด นำมาวิเคราะห์หาสาเหตุ กำหนดเป็นมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยอย่างปลอดภัยในระดับสากล โดย IPSG มีทั้งหมด 6 ข้อ ได้แก่ การระบุตัวผู้ป่วยถูกต้อง, การพัฒนาประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างทีมผู้ให้การดูแลผู้ป่วย, การเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ยาที่ต้องระมัดระวังสูง, การสร้างระบบเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการผ่าตัดผู้ป่วยให้ถูกคน ถูกตำแหน่ง ถูกหัตถการ, การลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพ, และการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายของผู้ป่วยจากภาวะพลัดตกหกล้มในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ในโรงพยาบาลทุกแห่ง และเมื่อเกิดขึ้นแล้วผู้ป่วยอาจจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงได้ เป็นต้น และการประชุมครั้งนี้เป็นมาตรฐาน JCI ฉบับล่าสุด คือฉบับที่ 5 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 และประเทศไทยมีสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน JCI รวม 42 แห่ง ทำให้ประเทศก้าวสู่อันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสามารถแข่งขันในเวทีระดับโลกได้
เภสัชกรหญิงชยาวี กาญวัฒนะกิจ รักษาการผู้อำนวยการกองสุขภาพระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้เน้นการฝึกอบรม ถ่ายทอดความรู้ให้แก่บุคลากรในสถานพยาบาล จำนวน 250 คน จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานคุณภาพสถานพยาบาล ให้บุคลากรเกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำประยุกต์ในการพัฒนาองค์กรและระบบบริการ รวมถึงการควบคุมกำกับมาตรฐานของหน่วยงาน ติดตามประเมินผลความสำเร็จ และสามารถนำไปขยายผลการพัฒนาต่อไปได้ ให้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในเวทีโลก
สบส. จัดกิจกรรม CSR ส่งเสริมสุขภาพเชิงรุก สร้างสังคมแห่งสุขภาวะ
สบส. ส่ง ทีมเอ็มเสิร์ท ลงพื้นที่ด่วน! ฟื้นฟู รพ.สต.พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ หลังน้ำท่วมถล่ม
สบส. เผยผลสำรวจพฤติกรรมการถูกกลั่นแกล้ง พบเด็กไทยเสี่ยงทำร้ายตัวเองมากกว่า 1 ใน 4
สบส. เผยผลสำรวจพฤติกรรมสูบบุหรี่ไฟฟ้า พบนักสูบรายใหม่อายุต่ำสุดเพียง 6 ปี - สาเหตุหลักเพื่อนชวน
สบส. เปิดเวทีวิชาการประจำปี 2568 ชู "ระบบสุขภาพกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ"
สบส.จับมือภาคเอกชน พัฒนา Web Application ยกระดับระบบสื่อสารสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ทั่วประเทศ
กรมอนามัย ปรับมาตรฐานการเพิ่มน้ำหนักขณะตั้งครรภ์ของประเทศไทย ลดเสี่ยงโรค-ภาวะแทรกซ้อน
สบส. ย้ำ! เปิดสอนนวดต้องผ่านการรับรองหลักสูตรจากกรมก่อน - ผู้เรียนยื่นขึ้นทะเบียนเป็น ผู้ให้บริการได้ฟรี
สบส. ยกระดับกิจการ "นวด-สปา-กิจการการดูแลผู้สูงอายุ" เป็นแหล่งฝึกงานคุณภาพ