จากภาพ: บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) นำโดย ฟรังซัวส์ หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายซัพพลายเชน บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) (คนกลาง) เป็นประธานในพิธีเปิดโกดังสินค้าแห่งใหม่ในจังหวัดนนทบุรี เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ โกศล กลิ่นทอง ผู้จัดการส่วนกระจายสินค้า (ที่ 1 จากซ้าย) อัจฉรา ลีนะวัตร ผู้จัดการฝ่ายซัพพลายเชน โรงงานแหลมฉบัง (ที่ 2 จากซ้าย) เบญจพร นําศิริ ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าและกระจายสินค้า (ที่ 3 จากซ้าย) สุรชาย สุวรรณผา ผู้จัดการฝ่ายซัพพลายเชน โรงงานบางปะอิน (ที่ 1 จากขวา) พินน์นรา ณ ระนอง ผู้จัดการธุรกิจปูน (ที่2 จากขวา) และ วีระสิทธิ์ ประเทืองสุขพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน (ที่ 3 จากขวา) ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โกดังสินค้ายิปรอค สาขาถนนชัยพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรีเมื่อเร็วๆนี้
ผู้ผลิตนวัตกรรมยิปซัมคุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ “ยิปรอค” และผู้ให้บริการโซลูชั่นส์ระบบผนังและฝ้าครบวงจรมากว่า 45 ปี ทุ่มทุนสร้างโกดังสินค้าแห่งใหม่ ขยายพื้นที่ให้ใหญ่กว่าเดิม จากที่ตั้งย่านปากเกร็ดมายังถนนชัยพฤกษ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสนับสนุนการเจริญเติบโตของภาคธุรกิจ พร้อมทั้งรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 สานต่อนโยบายการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากการที่ยิปรอคได้เปิดโกดังสินค้าแห่งที่ 6 ในจังหวัดสมุทรปราการเมื่อไม่นานนี้ ซึ่้งถนนชัยพฤกษ์ถือเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมที่สามารถนำเข้า-ส่งออกสินค้าไปยังผู้บริโภคและดีลเลอร์ทั่วประเทศไทยได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เป็นถนนที่ทอดยาวจากปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ไปถึงถนนราชพฤกษ์ ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังเขตสาธร กรุงเทพมหานครหรือภูมิภาคต่างๆได้โดยสะดวก
ธงชัย กมลพัฒนะ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาพรวมตลาดยิปซัมช่วงครึ่งปีหลัง 2557 เริ่มขยายตัว และทางยิปรอคเองก็มีแผนที่จะรุกตลาดบ้านสร้างใหม่ในต่างจังหวัดมากขึ้น ปัจจุบันเรามีโกดังสินค้าทั้งหมด 6 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ นนทบุรี ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา สุราษฎร์ธานี และแห่งใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดคือ สมุทรปราการ การย้ายโกดังสินค้าแห่งใหม่ในจังหวัดนนทบุรีครั้งนี้ เนื่องจากว่าโกดังสินค้าบนถนนชัยพฤกษ์นั้นมีพื้นที่กว้างขวางมากขึ้นจากเดิม และตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ถือเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อเข้ามาในกรุงเทพฯได้อย่างสะดวก และถนนขนาด 6 ช่องทางจราจรจะช่วยให้การขนส่งสินค้าไปยังภูมิภาคต่างๆเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญเราเชื่อมั่นว่าการย้ายโกดังสินค้าแห่งใหม่มาที่ถนนชัยพฤกษ์จะช่วยให้ระบบการผลิตสินค้าส่งผลดีต่อการให้บริการลูกค้าต่อไป อีกทั้งยังหมายถึงการใช้ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด”
ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่มมีโรงงานการผลิตที่มีศักยภาพและความก้าวล้ำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค จำนวน 2 แห่ง คือที่อำเภอแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีกำลังการผลิตแผ่นยิปซัมรวมกว่า 70 ล้านตารางเมตรต่อปี การเพิ่มโกดังสินค้าของยิปรอคจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสินค้าไปสู่ยิปรอคเซ็นเตอร์ทั้ง 5 แห่ง และเครือข่ายร้านค้ากว่า 400 แห่งทั่วประเทศตามเป้าหมายการเติบโต 5% ของบริษัทภายในสิ้นปี 2557
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาโทร 02-640-8600หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์http://www.gyproc.co.th/,https://www.facebook.com/GyprocClubหรือhttp://www.saint-gobain-gyproc.com
ผู้ผลิตนวัตกรรมยิปซัมคุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ “ยิปรอค” และผู้ให้บริการโซลูชั่นส์ระบบผนังและฝ้าครบวงจรมากว่า 45 ปี ทุ่มทุนสร้างโกดังสินค้าแห่งใหม่ ขยายพื้นที่ให้ใหญ่กว่าเดิม จากที่ตั้งย่านปากเกร็ดมายังถนนชัยพฤกษ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสนับสนุนการเจริญเติบโตของภาคธุรกิจ พร้อมทั้งรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 สานต่อนโยบายการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากการที่ยิปรอคได้เปิดโกดังสินค้าแห่งที่ 6 ในจังหวัดสมุทรปราการเมื่อไม่นานนี้ ซึ่้งถนนชัยพฤกษ์ถือเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมที่สามารถนำเข้า-ส่งออกสินค้าไปยังผู้บริโภคและดีลเลอร์ทั่วประเทศไทยได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เป็นถนนที่ทอดยาวจากปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ไปถึงถนนราชพฤกษ์ ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังเขตสาธร กรุงเทพมหานครหรือภูมิภาคต่างๆได้โดยสะดวก
ธงชัย กมลพัฒนะ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาพรวมตลาดยิปซัมช่วงครึ่งปีหลัง 2557 เริ่มขยายตัว และทางยิปรอคเองก็มีแผนที่จะรุกตลาดบ้านสร้างใหม่ในต่างจังหวัดมากขึ้น ปัจจุบันเรามีโกดังสินค้าทั้งหมด 6 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ นนทบุรี ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา สุราษฎร์ธานี และแห่งใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดคือ สมุทรปราการ การย้ายโกดังสินค้าแห่งใหม่ในจังหวัดนนทบุรีครั้งนี้ เนื่องจากว่าโกดังสินค้าบนถนนชัยพฤกษ์นั้นมีพื้นที่กว้างขวางมากขึ้นจากเดิม และตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ถือเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อเข้ามาในกรุงเทพฯได้อย่างสะดวก และถนนขนาด 6 ช่องทางจราจรจะช่วยให้การขนส่งสินค้าไปยังภูมิภาคต่างๆเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญเราเชื่อมั่นว่าการย้ายโกดังสินค้าแห่งใหม่มาที่ถนนชัยพฤกษ์จะช่วยให้ระบบการผลิตสินค้าส่งผลดีต่อการให้บริการลูกค้าต่อไป อีกทั้งยังหมายถึงการใช้ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด”
ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่มมีโรงงานการผลิตที่มีศักยภาพและความก้าวล้ำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค จำนวน 2 แห่ง คือที่อำเภอแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีกำลังการผลิตแผ่นยิปซัมรวมกว่า 70 ล้านตารางเมตรต่อปี การเพิ่มโกดังสินค้าของยิปรอคจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสินค้าไปสู่ยิปรอคเซ็นเตอร์ทั้ง 5 แห่ง และเครือข่ายร้านค้ากว่า 400 แห่งทั่วประเทศตามเป้าหมายการเติบโต 5% ของบริษัทภายในสิ้นปี 2557
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาโทร 02-640-8600หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์http://www.gyproc.co.th/,https://www.facebook.com/GyprocClubหรือhttp://www.saint-gobain-gyproc.com
เปิดรับสมัครแล้ว!!! หลักสูตร การบริหารทรัพยากรมนุษย์ขั้นสูง (Advance HR : Survival Beyond Tomorrow)
40 ปี สวนสยาม เปิดตัวสยามอะเมซิ่งพาร์ค เชิญสักการะพระบรมสารีริกธาตุจากศรีลังกา ขยายเวลาเปิดบริการสวนสนุกถึง 4 ทุ่ม
ไทยพาณิชย์ จัดงานจับคู่ธุรกิจ Myanmar-Thai Business Matching Day เปิดโอกาสธุรกิจระหว่างเครือข่ายเอสเอ็มอีเมียนมา-ไทย
อพวช.ร่วมสมาคมวิทย์ฯ เปิดค่ายประกวดโครงงานวิทย์ ASPC 2019
“คุณวุฒิวิชาชีพ โอกาสในการทำงานในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน”
มข. จับมือ สสว. จัดสัมมนาฟรี ! “รุกตลาดใกล้ บุกตลาดใหญ่” เชิญผู้เชี่ยวชาญตลาดต่างประเทศ ร่วมให้ความรู้พร้อมคำแนะนำการลงทุน ใน 4 ประเทศ จีน อินเดีย พม่า กัมพูชา สนใจสมัครด่วน! รับจำนวนจำกัด
ECBER มข ร่วม กับ สสว. เชิญชวนผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมเครือข่าย SMEs เชื่อมสู่ตลาดอาเซียน +8 พร้อมเป็นพี่เลี้ยงนำบุกตลาด จีน อินเดีย พม่า และกัมพูชา
ภาพข่าว: คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คว้ารางวัลผลงานวิจัยระดับดี งานวันนักประดิษฐ์ ปี 2562
ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ สสว. เชิญชวนผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมเครือข่าย SMEs เชื่อมสู่ตลาดอาเซียน +8 พร้อมเป็นพี่เลี้ยงนำบุกตลาดขนาดใหญ่ที่น่าจับตาถึง 4 ประเทศ ทั้ง จีน อินเดีย พม่า และกัมพูชา