เปิดฉากโครงการ “การศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียน” พัฒนานักเรียน-ครู พร้อมสู่การเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของอาเซียน
หลังจากแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “การศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียน” ที่มีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมนักเรียน นักศึกษา และครูผู้สอน ให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของอาเซียน กระทรวงศึกษาธิการก็ไม่รอช้า เดินหน้าจัดโครงการทันที โดยประเดิมจัดการแข่งขันทักษะและการประกวดครั้งแรกที่ภาคกลางที่กรุงเทพมหานครเมื่อเร็วๆ นี้ โดยได้รับเกียรติจาก พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาเป็นประธานในพิธี ณ โรงแรมมณเทียร ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ
พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงที่มาของโครงการการศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียน ว่า รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยใช้การศึกษาเป็นกลไกในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของคนไทยในทุกระดับ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนไทยให้สามารถเรียนรู้ตลอดเวลา เรียนรู้ตลอดชีวิต และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ สำหรับในมิติของอาเซียน ได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมคนไทยในการเป็นพลเมืองของอาเซียนที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการปลูกฝังความรักชาติ การมีจิตสำนึกค่านิยม คุณธรรม จริยธรรมที่ดี และการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมแห่งพหุวัฒนธรรมและความหลากหลาย โดยส่งเสริมการปฏิบัติตนตามค่านิยมหลัก ๑๒ ประการ ที่ ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศให้คนไทยได้ยึดถือร่วมกัน
ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เพื่อให้นโยบายที่มุ่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ กระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทหลักในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จึงได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน พัฒนาสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเป้าหมายในทุกระดับ รวมไปถึงพัฒนาคนไทยให้รอบรู้ ทันเหตุการณ์และสถานการณ์ของโลก และพร้อมเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เดินหน้าสู่อนาคตอย่างมั่นคง ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การเสวนาทางวิชาการ การจัดนิทรรศการ/ฐานกิจกรรมให้ความรู้ และการประกวด/แข่งขันต่างๆ และในปี ๒๕๕๘ นี้ได้ริเริ่มจัดโครงการการศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียนขึ้น โดยได้ดำเนินการในรูปแบบอาเซียนสัญจร ๔ ภูมิภาคและกรุงเทพมหานคร จำนวน ๕ ครั้ง ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้และมีความเข้าใจเกี่ยวกับค่านิยมหลัก ๑๒ ประการและสามารถบูรณาการเข้ากับการอยู่ร่วมกันในสังคมแห่งประชาคมอาเซียน ตลอดจนใช้ประโยชน์จากการรวมตัวกันของประชาคมอาเซียนในการสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศไทย ซึ่งการดำเนินโครงการนี้มีกิจกรรมประกอบด้วย ๑) การเสวนาทางวิชาการ ในหัวข้อ “พลเมืองอาเซียน พลเมืองโลก เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ๒) การจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ให้ความรู้ในเชิงลึก ๓) การแข่งขัน/ประกวดทักษะทางวิชาการและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ และ ๔) การจัดนิทรรศการ/สถานีกิจกรรมฐานความรู้ประชาคมอาเซียน ซึ่งในวันนี้ได้มีการจัดกิจกรรมการประกวดทักษะและการแข่งขันเป็นภายใต้โครงการการศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียนเป็นครั้งแรกที่ภาคกลางที่กรุงเทพมหานคร
เด็กหญิงณิชกมล ขันเชื้อ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒ ผู้เข้าประกวดการกล่าวสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ หัวข้อใน Reaching ASEAN Citizenship through National Core Values เล่าถึงประสบการณ์ในการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ว่า “หนูเคยประกวดกล่าวสุนทรพจน์มาหลายครั้ง แต่สำหรับโครงการนี้มีความพิเศษคือมีการจัดเวิร์คช็อปก่อนประกวด ทำให้หนูได้ความรู้ใหม่ๆ ที่ไม่เคยทราบมาก่อน เช่น ได้ทราบทักษะในการพูด พูดอย่างไรถึงจะดึงดูดใจคนฟัง เนื้อหาแบบไหนที่น่าสนใจ ซึ่งทำให้หนูมีพื้นฐานในการพูดและมีความพร้อมที่จะประกวดมากขึ้น สำหรับเนื้อหาของสุนทรพจน์ที่หนูได้กล่าวในการประกวดครั้งนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับค่านิยม ๑๒ ประการซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเป็นพลเมืองที่ดี โดยพูดเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งในความคิดเห็นของหนูมองว่าภาษาอังกฤษจะมีความสำคัญมากเมื่อมีการเปิดประชาคมอาเซียน เพราะจะเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับคนชาติอื่น จึงอยากชวนเพื่อนๆ มาพัฒนาภาษาอังกฤษ สำหรับเทคนิคการฝึกของหนูคือ กล้าพูดและมีความมั่นใจ การดูหนังฟังเพลงโดยไม่อ่านบรรยายภาษาไทยก็ช่วยทำให้เราเก่งขึ้น อยากชวนเพื่อนๆ ในภาคอื่นๆ ให้มาสมัครประกวดกับโครงการนี้ะ นอกจากจะได้ความรู้ และเปิดโลกทัศน์ให้กับเราแล้ว ยังได้เพื่อนใหม่ด้วย”
เด็กหญิงรุ่งไพลิน รันระนา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนทุ่งมหาเมฆ เล่าถึงที่มาของการมาประกวดเล่าเรื่องในหัวข้อการเสริมสร้างค่านิยมหลัก ๑๒ “คุณครูคัดเลือกให้หนูมาประกวดเล่าเรื่องพร้อมกับเพื่อนอีก ๒ คน โดยพวกหนูได้นำเสนอเรื่องราวผ่านบทสนทนา การแสดง และบทเพลง ซึ่งพวกหนูได้แต่งเรื่องราวขึ้นโดยนำเรื่องความกตัญญูมาผูกเรื่อง และมีคุณครูคอยเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำ การมาร่วมโครงการในวันนี้ทำให้หนูได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ที่สนุกมาก พี่ๆ มาสอนเทคนิคให้กล้าแสดงออก มีทั้งสอนเต้น สอนแอคติ้ง ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับการเล่าเรื่องที่จะปะกวดในวันถัดไป”
นางจุฬาลักษณ์ จันจรัสศรี ครูวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒ แสดงความคิดเห็นต่อการจัดโครงการการศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียน ว่า “สิ้นปีนี้ ประเทศในอาเซียนจะมี One Vision, One Identity, One Community ซึ่งคนไทยก็จะกลายเป็นพลเมืองอาเซียน แต่หลายคนยังไม่ทราบว่าเราควรจะต้องปรับตัวอย่างไร การจัดโครงการนี้จึงตอบโจทย์ และเป็นโครงการที่ดีมาก ทำให้เรารู้ว่าเราจะต้องฝึกและปฏิบัติตัวไปในทางใดถึงจะเป็นพลเมืองอาเซียนที่ดี โดยเราสามารถยึดค่านิยมหลัก ๑๒ ประการเป็นพื้นฐานในการปฏิบัติตน ซึ่งนอกจากจะทำให้เราเป็นคนดีแล้ว ยังเป็นพลเมืองอาเซียนที่ดี และเป็นพลเมืองโลกที่ดีด้วย”
สำหรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นอีก ๓ ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะจัดภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะทำการคัดเลือกหาผู้ชนะของแต่ละภาคเป็นตัวแทนไปประกวดระดับประเทศที่กรุงเทพมหานครในวันที่ ๒๓ มีนาคม โดยมีรางวัลเป็นการศึกษาดูงานในต่างประเทศและทุนการศึกษารวมมูลค่ากว่า ๗๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งผู้สนใจสมัครเข้าร่วมแข่งขันทักษะและประกวด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่โทร. ๐๖๑-๖๓๑-๖๔๙๐, ๐๖๑-๖๓๑-๖๔๐๙ หรือ www.moe.go.th, www.bic.moe.go.th, www.247friend.net โดย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ปิดรับสมัครวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์นี้
พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงที่มาของโครงการการศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียน ว่า รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยใช้การศึกษาเป็นกลไกในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของคนไทยในทุกระดับ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนไทยให้สามารถเรียนรู้ตลอดเวลา เรียนรู้ตลอดชีวิต และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ สำหรับในมิติของอาเซียน ได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมคนไทยในการเป็นพลเมืองของอาเซียนที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการปลูกฝังความรักชาติ การมีจิตสำนึกค่านิยม คุณธรรม จริยธรรมที่ดี และการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมแห่งพหุวัฒนธรรมและความหลากหลาย โดยส่งเสริมการปฏิบัติตนตามค่านิยมหลัก ๑๒ ประการ ที่ ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศให้คนไทยได้ยึดถือร่วมกัน
ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เพื่อให้นโยบายที่มุ่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ กระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทหลักในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จึงได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน พัฒนาสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเป้าหมายในทุกระดับ รวมไปถึงพัฒนาคนไทยให้รอบรู้ ทันเหตุการณ์และสถานการณ์ของโลก และพร้อมเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เดินหน้าสู่อนาคตอย่างมั่นคง ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การเสวนาทางวิชาการ การจัดนิทรรศการ/ฐานกิจกรรมให้ความรู้ และการประกวด/แข่งขันต่างๆ และในปี ๒๕๕๘ นี้ได้ริเริ่มจัดโครงการการศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียนขึ้น โดยได้ดำเนินการในรูปแบบอาเซียนสัญจร ๔ ภูมิภาคและกรุงเทพมหานคร จำนวน ๕ ครั้ง ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้และมีความเข้าใจเกี่ยวกับค่านิยมหลัก ๑๒ ประการและสามารถบูรณาการเข้ากับการอยู่ร่วมกันในสังคมแห่งประชาคมอาเซียน ตลอดจนใช้ประโยชน์จากการรวมตัวกันของประชาคมอาเซียนในการสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศไทย ซึ่งการดำเนินโครงการนี้มีกิจกรรมประกอบด้วย ๑) การเสวนาทางวิชาการ ในหัวข้อ “พลเมืองอาเซียน พลเมืองโลก เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ๒) การจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ให้ความรู้ในเชิงลึก ๓) การแข่งขัน/ประกวดทักษะทางวิชาการและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ และ ๔) การจัดนิทรรศการ/สถานีกิจกรรมฐานความรู้ประชาคมอาเซียน ซึ่งในวันนี้ได้มีการจัดกิจกรรมการประกวดทักษะและการแข่งขันเป็นภายใต้โครงการการศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียนเป็นครั้งแรกที่ภาคกลางที่กรุงเทพมหานคร
เด็กหญิงณิชกมล ขันเชื้อ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒ ผู้เข้าประกวดการกล่าวสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ หัวข้อใน Reaching ASEAN Citizenship through National Core Values เล่าถึงประสบการณ์ในการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ว่า “หนูเคยประกวดกล่าวสุนทรพจน์มาหลายครั้ง แต่สำหรับโครงการนี้มีความพิเศษคือมีการจัดเวิร์คช็อปก่อนประกวด ทำให้หนูได้ความรู้ใหม่ๆ ที่ไม่เคยทราบมาก่อน เช่น ได้ทราบทักษะในการพูด พูดอย่างไรถึงจะดึงดูดใจคนฟัง เนื้อหาแบบไหนที่น่าสนใจ ซึ่งทำให้หนูมีพื้นฐานในการพูดและมีความพร้อมที่จะประกวดมากขึ้น สำหรับเนื้อหาของสุนทรพจน์ที่หนูได้กล่าวในการประกวดครั้งนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับค่านิยม ๑๒ ประการซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเป็นพลเมืองที่ดี โดยพูดเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งในความคิดเห็นของหนูมองว่าภาษาอังกฤษจะมีความสำคัญมากเมื่อมีการเปิดประชาคมอาเซียน เพราะจะเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับคนชาติอื่น จึงอยากชวนเพื่อนๆ มาพัฒนาภาษาอังกฤษ สำหรับเทคนิคการฝึกของหนูคือ กล้าพูดและมีความมั่นใจ การดูหนังฟังเพลงโดยไม่อ่านบรรยายภาษาไทยก็ช่วยทำให้เราเก่งขึ้น อยากชวนเพื่อนๆ ในภาคอื่นๆ ให้มาสมัครประกวดกับโครงการนี้ะ นอกจากจะได้ความรู้ และเปิดโลกทัศน์ให้กับเราแล้ว ยังได้เพื่อนใหม่ด้วย”
เด็กหญิงรุ่งไพลิน รันระนา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนทุ่งมหาเมฆ เล่าถึงที่มาของการมาประกวดเล่าเรื่องในหัวข้อการเสริมสร้างค่านิยมหลัก ๑๒ “คุณครูคัดเลือกให้หนูมาประกวดเล่าเรื่องพร้อมกับเพื่อนอีก ๒ คน โดยพวกหนูได้นำเสนอเรื่องราวผ่านบทสนทนา การแสดง และบทเพลง ซึ่งพวกหนูได้แต่งเรื่องราวขึ้นโดยนำเรื่องความกตัญญูมาผูกเรื่อง และมีคุณครูคอยเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำ การมาร่วมโครงการในวันนี้ทำให้หนูได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ที่สนุกมาก พี่ๆ มาสอนเทคนิคให้กล้าแสดงออก มีทั้งสอนเต้น สอนแอคติ้ง ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับการเล่าเรื่องที่จะปะกวดในวันถัดไป”
นางจุฬาลักษณ์ จันจรัสศรี ครูวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒ แสดงความคิดเห็นต่อการจัดโครงการการศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียน ว่า “สิ้นปีนี้ ประเทศในอาเซียนจะมี One Vision, One Identity, One Community ซึ่งคนไทยก็จะกลายเป็นพลเมืองอาเซียน แต่หลายคนยังไม่ทราบว่าเราควรจะต้องปรับตัวอย่างไร การจัดโครงการนี้จึงตอบโจทย์ และเป็นโครงการที่ดีมาก ทำให้เรารู้ว่าเราจะต้องฝึกและปฏิบัติตัวไปในทางใดถึงจะเป็นพลเมืองอาเซียนที่ดี โดยเราสามารถยึดค่านิยมหลัก ๑๒ ประการเป็นพื้นฐานในการปฏิบัติตน ซึ่งนอกจากจะทำให้เราเป็นคนดีแล้ว ยังเป็นพลเมืองอาเซียนที่ดี และเป็นพลเมืองโลกที่ดีด้วย”
สำหรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นอีก ๓ ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะจัดภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะทำการคัดเลือกหาผู้ชนะของแต่ละภาคเป็นตัวแทนไปประกวดระดับประเทศที่กรุงเทพมหานครในวันที่ ๒๓ มีนาคม โดยมีรางวัลเป็นการศึกษาดูงานในต่างประเทศและทุนการศึกษารวมมูลค่ากว่า ๗๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งผู้สนใจสมัครเข้าร่วมแข่งขันทักษะและประกวด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่โทร. ๐๖๑-๖๓๑-๖๔๙๐, ๐๖๑-๖๓๑-๖๔๐๙ หรือ www.moe.go.th, www.bic.moe.go.th, www.247friend.net โดย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ปิดรับสมัครวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์นี้
ข่าวการศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียน+กระทรวงศึกษาธิการวันนี้
ภาพข่าว: รองนายกฯ ยงยุทธ มอบรางวัลผู้ชนะโครงการ “การศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียน”
โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น – ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ (แถวหลังที่ ๕ จากขวา) รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีปิดโครงการ การศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียน และมอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศระดับประเทศจากการแข่งขันและประกวดทักษะทางวิชาการและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ ในโครงการการศึกษาไทยก้าวไกลสู่อาเซียน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจัดขึ้นเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถของนักเรียน นักศึกษา และครูผู้สอน ให้มีทักษะในด้านต่างๆ บนพื้นฐานของค่านิยมหลัก ๑๒ ประการ เพื่อเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของอาเซียน โดยมี พลเอกสุทัศน์