‘เพลย์บอยไทยแลนด์’ ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้าน Social Media เดินหน้าชิงเม็ดเงินโฆษณาสื่อออนไลน์รับแนวโน้มใช้จ่ายเม็ดเงินผ่านสื่อเพิ่ม
กลุ่มนิตยสาร Playboy Thailand ตอกย้ำความแข็งแกร่งของประเทศไทยด้านเครือข่าย Social Media โชว์ตัวเลขแฟนเพจและผู้ติดตามในเฟสบุ๊คพุ่ง 3.2 ล้านราย ขึ้นแท่นอันดับ 2 ที่มียอดผู้ติดตามเฟสบุ๊คแฟนเพจ ประเภทมีเดีย จากการจัดอันดับของ Socialbakers หนุนศักยภาพชิงเม็ดเงินโฆษณาทำรายได้เพิ่ม รับแนวโน้มเจ้าของสินค้าและนักการตลาดซื้อสื่อโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์เพิ่ม เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชายที่มีการศึกษา รสนิยมดีมีระดับ ดันรายได้เติบโตต่อเนื่อง
นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ ประธานกรรมการบริษัท บันนี่เวนเจอร์ จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์นิตยสารเพลย์บอยในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้รุกทำตลาดผ่านเครือข่าย Social Media อย่างหนักในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายเครือข่ายแฟนเพจและผู้ติดตามผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของ Playboy Thailand
ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญที่ทำให้บริษัทฯ สามารถใช้ช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อเข้าไปตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและสามารถชิงเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากสถิติตัวเลขแฟนเพจเฟสบุ๊ค Playboy Thailand พบว่ามีอัตราการขยายตัวสูงมาก โดยในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคมปีนี้ มียอดผู้ติดตามแฟนเพจสูงถึง 3.2 ล้านราย เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงกลางปีที่ผ่านมา ขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 2 ของยอดติดตามสูงสุดในกลุ่มเฟสบุ๊คแฟนเพจ ประเภทมีเดียของไทย จากการจัดอันดับของ Socialbakers ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี ส่วนการจัดอันดับรวมทุกประเภทนั้น Playboy Thailand มีผู้ติดตามผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจมากที่สุดเป็นอันดับที่ 16 ของประเทศไทย
นอกจากนี้กลุ่ม Playboy Thailand ยังมีแบรนด์แอมบาสเดอร์ Playboy Bunny อยู่ 15 คน ซึ่งแต่ละรายก็มียอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก โดย Playboy Bunny ที่มียอดผู้ติดตามสูงสุดถึง 1.2 ล้านราย และหากรวมแฟนเพจหรือผู้ติดตาม Playboy Thailand และ Playboy Bunnies ทั้งเฟสบุ๊คและไอจี จะมีผู้ติดตามสูงถึง 9 ล้านราย สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่ม Playboy Thailand ในช่องทาง Social Media ที่มีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพสูงในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายหลัก คือกลุ่มผู้ชายซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 80% “การขยายตัวด้านเครือข่าย Social Media ของเพลย์บอย ทำให้สื่อออนไลน์ของเพลย์บอยเป็นช่องทางการสื่อสารที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพการสร้างรายได้จากเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ที่ขยายตัวดี เนื่องจากแฟนเพจเฟสบุ๊คของเพลย์บอย มีผู้ติดตามถึง 3.2 ล้านราย สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มนิตยสารสำหรับผู้ชาย เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง FHM และ MAXIM ที่มียอดผู้ติดตาม 7.3 แสนรายและ 5.8 แสนรายตามลำดับ ส่งผลให้ Social Media ของเพลย์บอยเป็นช่องทางสื่อสารที่มีศักยภาพที่ดี สำหรับเจ้าของสินค้าหรือนักการตลาดที่จะวางแผนการใช้เงินซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชายที่มีการศึกษา รสนิยมดีมีระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายฉัตรมงคล กล่าว
นายวาเลนท์ สร้อยสุวรรณ บรรณาธิการใหญ่ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณานิตยสารเพลย์บอย ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จในด้านการขยายเครือข่ายผู้ติดตามในสื่อ Social Media ของเพลย์บอยสะท้อนถึงความสำเร็จที่มีความคล้ายคลึงกับนิตยสารเพลย์บอย ประเทศสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ Playboy ที่ประสบความสำเร็จในด้านมีผู้ติดตามเครือข่าย Social Media เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปีที่ผ่านมา นิตยสาร ADweek ซึ่งเป็นนิตยสารของอุตสาหกรรมโฆษณาได้โหวตให้นิตยสาร Playboy เป็นนิตยสารสำหรับผู้ชายที่ดีที่สุดประจำปี 2014
“ความสำเร็จจากนิตยสารเพลย์บอย ของสหรัฐฯ เป็นเครื่องชี้วัดได้เป็นอย่างดีว่า การวางตำแหน่ง Playboy ให้เป็นนิตยสารที่มุ่งเน้นความบันเทิงและการใช้ชีวิตในทุกมิติ ที่สะท้อนถึง ‘ที่สุดของชีวิตเหนือระดับ’ ด้วยเนื้อหาคอนเท้นท์เพื่อสะท้อนการใช้ชีวิตที่หรูหราในมิติต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้อ่านและยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของเพลย์บอยให้ก้าวเหนือคู่แข่งในนิตยสารสำหรับผู้ชาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้บ่งบอกให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์เพลย์บอย ที่กลุ่มผู้อ่านทั่วโลกให้การยอมรับอีกด้วย” นายวาเลนท์ กล่าว
ผู้บริหารนิตยสารเพลย์บอย ไทยแลนด์ กล่าวย้ำอีกว่า การเติบโตแบบก้าวกระโดดของสื่อออนไลน์ Playboy จะช่วยเสริมศักยภาพเครือข่ายสื่อ Playboy โดยรวม เช่น สื่อนิตยสารและโทรทัศน์ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ด้านการสื่อสารการตลาดสินค้าและบริการที่หลากหลาย โดยเฉพาะสินค้าที่เน้นความหรูหรา เพื่อเจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ชาย ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 80% ของผู้ติดตามเครือข่ายของ Playboy ทั้งหมด
นอกจากนี้ การรุกสื่อออนไลน์ของ Playboy Thailand ยังสอดคล้องกับการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาออนไลน์ซึ่งมีอัตราการเติบโตในเกณฑ์สูงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยจะชะลอตัว โดยเม็ดเงินโฆษณาที่ใช้จ่ายผ่านสื่อออนไลน์ในรอบปี 2014 ขยายตัว 8.32% มาอยู่ที่ 950 ล้านบาท ในขณะที่อุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวมหดตัวถึงเกือบ 10%
ดังนั้น จึงสะท้อนให้เห็นว่า แนวทางการรุกสื่อออนไลน์บนเครือข่าย Social Media จะทำให้ Playboy สร้างโอกาสรองรับเม็ดเงินสื่อโฆษณาออนไลน์ที่มีแนวโน้มใช้จ่ายเงินสูงขึ้น โดย Playboy จะยังคงตอกย้ำภาพลักษณ์ ‘ที่สุดของชีวิตเหนือระดับ’ เป็นแกนสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าพร้อมจัดกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งล่าสุด บริษัทฯ ได้เตรียมจัดงานระดับไฮโซ “Playboy Symphony Evening” ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยวงบางกอกซิมโฟนี่ ออร์เคสตรา นำเสนอบทเพลงสุดคลาสสิคสำหรับแขกระดับ VIP ณ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ซึ่งจะนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งไปบริจาคให้แก่องค์กรการกุศลต่อไป
“การจัดงาน Playboy Symphony Evening ในครั้งนี้ ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่แท้จริงและความตั้งใจของ Playboy ตลอดจนตัวตนของกลุ่มผู้อ่านนิตยสารว่า ไม่ได้เป็นเพียงผู้ชื่นชอบปาร์ตี้สนุกสนานเท่านั้น แต่เราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ต้องการจะช่วยเหลือสังคมไทยให้ดีขึ้นผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เราสร้างสรรค์ขึ้นตามไลฟ์สไตล์ของหนุ่ม Playboy” นายฉัตรมงคล กล่าว
นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ ประธานกรรมการบริษัท บันนี่เวนเจอร์ จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์นิตยสารเพลย์บอยในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้รุกทำตลาดผ่านเครือข่าย Social Media อย่างหนักในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายเครือข่ายแฟนเพจและผู้ติดตามผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของ Playboy Thailand
ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญที่ทำให้บริษัทฯ สามารถใช้ช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อเข้าไปตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและสามารถชิงเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากสถิติตัวเลขแฟนเพจเฟสบุ๊ค Playboy Thailand พบว่ามีอัตราการขยายตัวสูงมาก โดยในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคมปีนี้ มียอดผู้ติดตามแฟนเพจสูงถึง 3.2 ล้านราย เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงกลางปีที่ผ่านมา ขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 2 ของยอดติดตามสูงสุดในกลุ่มเฟสบุ๊คแฟนเพจ ประเภทมีเดียของไทย จากการจัดอันดับของ Socialbakers ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี ส่วนการจัดอันดับรวมทุกประเภทนั้น Playboy Thailand มีผู้ติดตามผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจมากที่สุดเป็นอันดับที่ 16 ของประเทศไทย
นอกจากนี้กลุ่ม Playboy Thailand ยังมีแบรนด์แอมบาสเดอร์ Playboy Bunny อยู่ 15 คน ซึ่งแต่ละรายก็มียอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก โดย Playboy Bunny ที่มียอดผู้ติดตามสูงสุดถึง 1.2 ล้านราย และหากรวมแฟนเพจหรือผู้ติดตาม Playboy Thailand และ Playboy Bunnies ทั้งเฟสบุ๊คและไอจี จะมีผู้ติดตามสูงถึง 9 ล้านราย สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่ม Playboy Thailand ในช่องทาง Social Media ที่มีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพสูงในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายหลัก คือกลุ่มผู้ชายซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 80% “การขยายตัวด้านเครือข่าย Social Media ของเพลย์บอย ทำให้สื่อออนไลน์ของเพลย์บอยเป็นช่องทางการสื่อสารที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพการสร้างรายได้จากเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ที่ขยายตัวดี เนื่องจากแฟนเพจเฟสบุ๊คของเพลย์บอย มีผู้ติดตามถึง 3.2 ล้านราย สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มนิตยสารสำหรับผู้ชาย เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง FHM และ MAXIM ที่มียอดผู้ติดตาม 7.3 แสนรายและ 5.8 แสนรายตามลำดับ ส่งผลให้ Social Media ของเพลย์บอยเป็นช่องทางสื่อสารที่มีศักยภาพที่ดี สำหรับเจ้าของสินค้าหรือนักการตลาดที่จะวางแผนการใช้เงินซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชายที่มีการศึกษา รสนิยมดีมีระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายฉัตรมงคล กล่าว
นายวาเลนท์ สร้อยสุวรรณ บรรณาธิการใหญ่ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณานิตยสารเพลย์บอย ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จในด้านการขยายเครือข่ายผู้ติดตามในสื่อ Social Media ของเพลย์บอยสะท้อนถึงความสำเร็จที่มีความคล้ายคลึงกับนิตยสารเพลย์บอย ประเทศสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ Playboy ที่ประสบความสำเร็จในด้านมีผู้ติดตามเครือข่าย Social Media เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปีที่ผ่านมา นิตยสาร ADweek ซึ่งเป็นนิตยสารของอุตสาหกรรมโฆษณาได้โหวตให้นิตยสาร Playboy เป็นนิตยสารสำหรับผู้ชายที่ดีที่สุดประจำปี 2014
“ความสำเร็จจากนิตยสารเพลย์บอย ของสหรัฐฯ เป็นเครื่องชี้วัดได้เป็นอย่างดีว่า การวางตำแหน่ง Playboy ให้เป็นนิตยสารที่มุ่งเน้นความบันเทิงและการใช้ชีวิตในทุกมิติ ที่สะท้อนถึง ‘ที่สุดของชีวิตเหนือระดับ’ ด้วยเนื้อหาคอนเท้นท์เพื่อสะท้อนการใช้ชีวิตที่หรูหราในมิติต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้อ่านและยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของเพลย์บอยให้ก้าวเหนือคู่แข่งในนิตยสารสำหรับผู้ชาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้บ่งบอกให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์เพลย์บอย ที่กลุ่มผู้อ่านทั่วโลกให้การยอมรับอีกด้วย” นายวาเลนท์ กล่าว
ผู้บริหารนิตยสารเพลย์บอย ไทยแลนด์ กล่าวย้ำอีกว่า การเติบโตแบบก้าวกระโดดของสื่อออนไลน์ Playboy จะช่วยเสริมศักยภาพเครือข่ายสื่อ Playboy โดยรวม เช่น สื่อนิตยสารและโทรทัศน์ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ด้านการสื่อสารการตลาดสินค้าและบริการที่หลากหลาย โดยเฉพาะสินค้าที่เน้นความหรูหรา เพื่อเจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ชาย ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 80% ของผู้ติดตามเครือข่ายของ Playboy ทั้งหมด
นอกจากนี้ การรุกสื่อออนไลน์ของ Playboy Thailand ยังสอดคล้องกับการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาออนไลน์ซึ่งมีอัตราการเติบโตในเกณฑ์สูงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยจะชะลอตัว โดยเม็ดเงินโฆษณาที่ใช้จ่ายผ่านสื่อออนไลน์ในรอบปี 2014 ขยายตัว 8.32% มาอยู่ที่ 950 ล้านบาท ในขณะที่อุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวมหดตัวถึงเกือบ 10%
ดังนั้น จึงสะท้อนให้เห็นว่า แนวทางการรุกสื่อออนไลน์บนเครือข่าย Social Media จะทำให้ Playboy สร้างโอกาสรองรับเม็ดเงินสื่อโฆษณาออนไลน์ที่มีแนวโน้มใช้จ่ายเงินสูงขึ้น โดย Playboy จะยังคงตอกย้ำภาพลักษณ์ ‘ที่สุดของชีวิตเหนือระดับ’ เป็นแกนสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าพร้อมจัดกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งล่าสุด บริษัทฯ ได้เตรียมจัดงานระดับไฮโซ “Playboy Symphony Evening” ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยวงบางกอกซิมโฟนี่ ออร์เคสตรา นำเสนอบทเพลงสุดคลาสสิคสำหรับแขกระดับ VIP ณ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ซึ่งจะนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งไปบริจาคให้แก่องค์กรการกุศลต่อไป
“การจัดงาน Playboy Symphony Evening ในครั้งนี้ ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่แท้จริงและความตั้งใจของ Playboy ตลอดจนตัวตนของกลุ่มผู้อ่านนิตยสารว่า ไม่ได้เป็นเพียงผู้ชื่นชอบปาร์ตี้สนุกสนานเท่านั้น แต่เราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ต้องการจะช่วยเหลือสังคมไทยให้ดีขึ้นผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เราสร้างสรรค์ขึ้นตามไลฟ์สไตล์ของหนุ่ม Playboy” นายฉัตรมงคล กล่าว
ข่าวฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์+เพลย์บอยไทยแลนด์วันนี้
SRICHA เตรียมโตแรง คว้างานใหญ่ โครงการไทยออยล์ CFP มูลค่าประมาณ 7,800 ล้านบาท รับรู้รายได้ทันที มั่นใจเติบโตสูง
SRICHA พร้อมกลับสู่ยุคทอง หลังคว้างานขนาดใหญ่ โครงการไทยออยล์ CFP มูลค่าประมาณ 7,800 ล้านบาท โดยจะเริ่มงานทันทีและจะเสร็จสิ้นภายในปี 2569 นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น หรือ SRICHA บริษัทฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านงานรับเหมาก่อสร้างโลหะในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เปิดเผยว่าได้เซ็นสัญญารับเหมา ก่อสร้างโครงการ Clean Fuel Project (CFP) กับบมจ.ไทยออยล์ ซึ่งบริษัทฯ สามารถเริ่มงานในเดือนมิถุนายน 2568 โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการประมาณ 19 เดือน ในครั้งนี้ ทางบริษัท SRICHA
ครั้งแรกกับงานมอบรางวัลยิ่งใหญ่แห่งปี "FOXY AWARDS TOP 300" ปรากฎการณ์รวมตัวสุดยอดนางแบบเซ็กซี่ที่สุด ของเมืองไทยกว่า 300 ชีวิต
—
"FOXY AWARDS TOP 300" คร...