บางกอกแร้นช์ เจ้าตลาดเป็ดครบวงจร เตรียมเข้าตลาดหุ้น รุกตลาดต่างประเทศ

           บางกอกแร้นช์ เจ้าตลาดเป็ดครบวงจร เตรียมเข้าตลาดหุ้น รุกตลาดต่างประเทศ
          · 1 ในผู้ผลิตเนื้อเป็ดรายใหญ่ของประเทศไทย ทำธุรกิจเป็ดครบวงจรในไทย-ยุโรป
          · ปี 57 โชว์รายได้ 8,484 ล้านบาท พร้อมกำไรโตแรง 661 ล้านบาท

          บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ หรือ BR) หนึ่งในผู้ผลิตเนื้อเป็ดรายใหญ่ของไทย และได้ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำในการผลิตเนื้อเป็ดรายสำคัญของโลก เตรียมพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) โชว์ผลประกอบการหรู รายได้ 8,484 ล้านบาท อัตรากำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอาหาร โดยจำหน่ายในประเทศ และส่งออกในตลาดเอเชีย ยุโรป และพร้อมขยายตลาดส่งออก ในเอเชียและอาเซียน เพิ่มขึ้น
          นายโจเซฟ สุเชาว์วณิช ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR Group ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเนื้อเป็ดครบวงจรรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า บมจ. บางกอกแร้นช์ เป็น 1 ในผู้ผลิตเนื้อเป็ดรายใหญ่ของประเทศมากว่า 30 ปี และมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจ เนื้อเป็ดแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ และปลายน้ำ คือ ฟาร์มพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์เป็ด โรงฟักไข่เป็ด ฟาร์มเป็ดเนื้อ โรงงานชำแหละและแปรรูปอาหารจากเนื้อเป็ด และธุรกิจอาหารสัตว์ ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ มีจุดเด่นในการผลิต เนื้อเป็ดคุณภาพสูง และ อาหารแปรรูปจากเป็ดพร้อมรับประทาน ระดับพรีเมียม ด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ในขณะที่บริษัทฯ มีการควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเป็ด เนื้อรวมกันกว่า 25 ล้านตัวต่อปี โดยมีฐานการผลิตใหญ่ใน 2 ประเทศคือ ประเทศไทย และประเทศ เนเธอร์แลนด์ (ผ่านบริษัทย่อยชื่อ บจ. ดั๊ค โท โฮลดิง ซึ่งเป็นบริษัท ผู้ผลิตเป็ดครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกเนื้อเป็ดมากที่สุด เป็นอันดับ 3 ในกลุ่ม EU)
          “บมจ. บางกอกแร้นช์ ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในผู้ผลิตเนื้อเป็ดรายสำคัญของตลาดโลก ที่มีผลิตภัณฑ์ อาหารจากเป็ดหลายประเภท อาทิ เป็ดสด เนื้อเป็ดแปรรูปปรุงสุกพร้อมรับประทาน ภายใต้แบรนด์ “บางกอกแร้นช์” “Dalee”, “Duck To” และ “CANATURE” รวมถึงมีการผลิตภายใต้แบรนด์ของลูกค้าแต่ละราย โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆจากบริษัทในประเทศไทยคิดเป็นประมาณ 71% ของรายได้รวมทั้งหมดและมีสัดส่วนรายได้ 21% จากบริษัทย่อยในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งบริษัทฯ มีส่วนแบ่ง ตลาดในไทยถึงประมาณ 50% โดยกลุ่มลูกค้าหลักมีหลายประเภท อาทิ กลุ่มลูกค้าขายส่งซึ่งสร้าง รายได้ 75%
          กลุ่มลูกค้าร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำ (Horeca) เช่น ภัตตาคาร MK Suki, S&P, สีฟ้า ChefMan โคคา ภัตตาคารโฟร์ซีซัน โรงแรมดุสิตธานี การบินไทย เป็นต้น สร้างรายได้ 15% นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าโมเดิร์นเทรด ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ อาทิ Makro, BigC, Tops Super market, Foodland, Villa Market สร้างรายได้ 10% ของรายได้ในประเทศไทย
          ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ส่งออกผลิตภัณฑ์เป็ดไปมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก มีประเทศขนาดใหญ่ ในกลุ่มยุโรป (EU) อาทิ เยอรมัน สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ และ ประเทศญี่ปุ่น เป็นตลาดหลัก โดยภาพ รวมปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้รวม 8,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากรายได้รวม 7,573 ล้านบาทในปี 2556 โดยบริษัทฯ มี กำไรขั้นต้น 1,705 ล้านบาทในปี 2557 เพิ่มขึ้น 40% จากกำไรขั้นต้น 1,218 ล้านบาทในปี 2556 และบริษัทฯ มี EBITDA ในปี 2557 เพิ่มขึ้น 55 % เป็น 1,384 ล้านบาท จาก EBITDA จำนวน 891 ล้านบาท ในปี 2556 และมีกำไรสุทธิ 661 ล้านบาทในปี 2557 เพิ่มขึ้น 416 % จากกำไรสุทธิ 128 ล้านบาทในปี 2556 ซึ่งบริษัทฯ มีความสามารถในการทำกำไร ในปี 2557 สูงกว่าอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ย ของกลุ่มผู้ผลิตอาหาร ในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจาก บริษัทฯ มีจุดเด่นในการควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีและมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง บริษัทฯ ยังสามารถขยายตลาดส่งออกได้เพิ่มมากขึ้น”
          ด้านนายชยุตม์ หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินกลุ่ม บมจ. บางกอก แร้นช์ กล่าวว่า “บริษัทฯ วางแผนที่จะขยายธุรกิจทั้งในประเทศ และ ตลาดส่งออกสำคัญๆ อย่างมีนัย โดยตลาด ในประเทศ บริษัทฯ มุ่งเน้นการเจาะตลาด Horeca หรือ ผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรมต่างๆ ซึ่งมีมูลค่า ตลาดใหญ่ และมีการเติบโตสูง ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนมาก [ที่หลากหลายและตรงตาม ความต้องการของลูกค้า] นอกจากนี้ยังมีแผนขยายตลาดส่งออก โดยเพิ่มยอดขายในตลาดเดิมที่สำคัญ และ เจาะสู่ตลาดใหม่ที่สำคัญ อาทิ จีน ญี่ปุ่นและภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนามและอินโดนีเซีย ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะระดมทุน ผ่านตลาดหลักทรัพย์ ด้วยการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 4,569.6 ล้านบาท และมีแผนที่เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 228,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 25.0% ของทุนจด ทะเบียน โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและมี บล.ไทยพาณิชย์ และ บล.บัวหลวง เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีความประสงค์จะนำเงินที่ได้ จากการระดมทุนไปขยายธุรกิจโรงงานชำแหละและแปรรูปอาหารจากเนื้อเป็ด และธุรกิจฟาร์มเลี้ยงเป็ดเนื้อ ของบริษัทฯ ตลอดจนเป็นเงินทุนหมุนเวียนและชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน
ด้านนางสุนิต วิสุทธิโกศล Senior Vice President สายวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า “บมจ. บางกอกแร้นช์ เป็นหนึ่งในบริษัท ผู้ผลิตอาหาร ระดับโลกของไทย ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั่วโลกมากว่า 30 ปี ที่มีการดำเนินธุรกิจผลิตเนื้อเป็ดแบบครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง บริหารงานโดยผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ทำให้บริษัทฯ มีจุดแข็งหลาย ประการ อาทิ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ดคุณภาพสูง ระดับพรีเมียม ด้วยกระบวนการ ผลิตระดับสากล และมีประสิทธิภาพ มีการพัฒนาอาหารแปรรูป อาหารปรุงสุก ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง มีเครือข่ายการกระจายสินค้าในกว่า 20 ประเทศทั่วโลกที่เป็นผู้บริโภค เนื้อเป็ด มีโครงสร้างรายได้ที่มีเสถียรภาพ จากทั้งธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ มีโรงงานผลิตที่ทันสมัย ทั้งในไทย และ เนเธอร์แลนด์ ทำให้สามารถส่งออกไปยังตลาดยุโรป หรือ EU อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีความเชื่อมั่น ว่าแผนการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตต่อไปและประสบความสำเร็จอย่าง ต่อเนื่อง”
          ณ สิ้นปี 2557 บมจ. บางกอกแร้นช์ มีทุนจดทะเบียน 4,596.6 ล้านบาท โดยมีกลุ่มผู้บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทฯ (นายโจเซฟ สุเชาว์วณิช) ถือหุ้นอยู่ 36 % และ กลุ่มกองทุนเอกชนถือหุ้นอยู่ 48% โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุญาตการเข้าจดทะเบียนต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และดูแลตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

บางกอกแร้นช์ เจ้าตลาดเป็ดครบวงจร เตรียมเข้าตลาดหุ้น รุกตลาดต่างประเทศ

ข่าวตลาดหลักทรัพย์ฯ+ตลาดหลักทรัพย์วันนี้

การเงินธนาคารร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดเสวนา "โหนเกษียณ" Special EP ทางออก LTF-RMF-SSF ติดดอย สู่พอร์ต "เกษียณสุข"