วันนี้ (23 มิ.ย.2558) เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เป็นประธานการแถลงข่าวการส่งมอบสำนวนการสอบสวนคดีค้ามนุษย์ให้แก่สำนักงานอัยการสูงสุด โดยมี พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร., พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง., และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมชี้แจงข้อมูลและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ณ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา กรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า “จากกรณีการสืบสวนขยายผลที่นำไปสู่การจับกุมกลุ่มเครือข่ายค้ามนุษย์ ซึ่งเกี่ยวพันกับการลักลอบนำผู้อพยพชาวโรฮีนจาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้น คณะพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปสำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว และวันนี้ได้นำสำนวนการสอบสวนมาส่งมอบต่อสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ทางพนักงานอัยการพิจารณา มีความเห็นตามกฎหมายต่อไป” จากนั้นได้กล่าวในรายละเอียดคดีว่า “สำหรับคดีนี้ ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหารวม 89 คน ควบคุมตัวและสอบปากคำไว้แล้ว 56 คน ซึ่งสำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการยึดทรัพย์ผู้ต้องหาแล้วทั้งสิ้นประมาณ 118 ล้านบาท ในส่วนผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอยู่อีก 33 คนนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป”
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. รับผิดชอบกำกับดูแลการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “คดีอาญาดังกล่าว แม้มีความสลับซับซ้อน และเหตุเกิดในหลายพื้นที่เกี่ยวพันกัน ตลอดจนพบการกระทำความผิดในลักษณะเป็นเครือข่ายขบวนการ มีผู้ต้องหาจำนวนถึง 89 คน ผู้ตกเป็นเหยื่อ 80 คน พยานอีกกว่า 300 ปาก แต่ทางคณะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ รอบคอบเป็นขั้นตอน และมีการบูรณาการ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งทั้งจากทางสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงาน ปปง. จนสามารถทำการสรุปสำนวนการสอบสวนได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว จึงทำให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมั่นใจในรูปคดี ว่าจะสามารถนำไปสู่การลงโทษผู้กระทำความผิดได้ตามกฎหมาย”
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า “จากกรณีการสืบสวนขยายผลที่นำไปสู่การจับกุมกลุ่มเครือข่ายค้ามนุษย์ ซึ่งเกี่ยวพันกับการลักลอบนำผู้อพยพชาวโรฮีนจาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้น คณะพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปสำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว และวันนี้ได้นำสำนวนการสอบสวนมาส่งมอบต่อสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ทางพนักงานอัยการพิจารณา มีความเห็นตามกฎหมายต่อไป” จากนั้นได้กล่าวในรายละเอียดคดีว่า “สำหรับคดีนี้ ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหารวม 89 คน ควบคุมตัวและสอบปากคำไว้แล้ว 56 คน ซึ่งสำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการยึดทรัพย์ผู้ต้องหาแล้วทั้งสิ้นประมาณ 118 ล้านบาท ในส่วนผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอยู่อีก 33 คนนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป”
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. รับผิดชอบกำกับดูแลการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “คดีอาญาดังกล่าว แม้มีความสลับซับซ้อน และเหตุเกิดในหลายพื้นที่เกี่ยวพันกัน ตลอดจนพบการกระทำความผิดในลักษณะเป็นเครือข่ายขบวนการ มีผู้ต้องหาจำนวนถึง 89 คน ผู้ตกเป็นเหยื่อ 80 คน พยานอีกกว่า 300 ปาก แต่ทางคณะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ รอบคอบเป็นขั้นตอน และมีการบูรณาการ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งทั้งจากทางสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงาน ปปง. จนสามารถทำการสรุปสำนวนการสอบสวนได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว จึงทำให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมั่นใจในรูปคดี ว่าจะสามารถนำไปสู่การลงโทษผู้กระทำความผิดได้ตามกฎหมาย”
ทรูมันนี่ ผนึก ทรู ตอบรับนโยบายภาครัฐ เดินหน้าเปิดยุทธการ "TrueMoney CyberForce" กำจัดม้า ปราบภัยไซเบอร์
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ผนึกกำลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เสริมความเชื่อมั่นการค้าและการลงทุนของประเทศ
กทม. เดินหน้าขยายจุดกล้อง CCTV-AI เพิ่มประสิทธิภาพตรวจจับผู้ขับขี่บนทางเท้า
ธอส. รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2568
เคทีซีสนธิกำลังกองบังคับการปราบปรามฯ เปิดวงเสวนา "รู้ทันภัยไซเบอร์" รับมือความท้าทายยุค AI
LINE MAN สานพลัง ฮอนด้า และภาคีฯ จัดอบรมขับขี่ปลอดภัยแก่ไรเดอร์ลุยภารกิจสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนถนน
12 จุดบริการทั่วไทย! สอศ.ร่วมกองทัพจัดกิจกรรม จิตอาสาพระราชทาน ซ่อมฟรี-ตัดผม-ฝึกอาชีพ เฉลิมพระชนมพรรษา ร.10
ตร.ไซเบอร์ จับมือ มจธ. พัฒนากำลังคนสร้างเครือข่าย Cyber Security พร้อมประกาศผลการแข่งขันปั้นนักรบไซเบอร์รุ่นใหม่ Cyber Warrior Hackathon 2025
ทีทีบี ฟินทิป แนะ 5 วิธีรู้ทันภัยไซเบอร์ ใช้แอปยังไงให้เงินปลอดภัย พร้อมทิปเด็ดจาก ttb touch ที่ป้องกันได้ไว ทำได้ทันที