แพทย์แผนไทยขยายคลินิกพิเศษบำบัดโรคข้อเข่าเสื่อมหลังพบการรักษาด้วยการแพทย์ผสมผสานได้ผลดี

          กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯเตรียมขยายคลินิกพิเศษรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมเพิ่มเพื่อการเข้าถึงบริการของประชาชนระบุ!การรักษาที่ผ่านมาได้ผลดีชู!!หลักการแพทย์ผสมผสานเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมทั้งการนวดการพอกเข่า การออกกำลังกายด้วยท่าฤาษีดัดตนและการฝังเข็มตามหลักการแพทย์แผนจีน ควบคู่กับการใช้ยาแผนไทย "สหัสธารา"
          นายแพทย์สุริยะ วงศ์คงคาเทพ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกพร้อมคณะ ร่วมแถลงข่าวการเปิดคลินิกพิเศษให้บริการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ณ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรีว่าปัจจุบันโรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่พบมากในผู้สูงวัย และเป็นอาการเจ็บป่วยเรื้อรังที่ใช้ระยะเวลานานในการรักษา จากรายงานการวิจัยพบผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมในสหรัฐอเมริกาต้องเสียค่ารักษาพยาบาลประมาณ 5,000 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี คิดเป็นเงินไทยประมาณ150,000 บาท ส่วนประเทศไทยพบว่าสถิติมูลค่าการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยยาที่ใช้ในสถานบริการสาธารณสุขในแต่ละปีมีแนวโน้มสูงขึ้น ตัวเลขดังกล่าวนอกจากจะสะท้อนถึงการสูญเสียเงินตราต่างประเทศในการนำเข้ายาแผนปัจจุบันเป็นจำนวนมากซึ่งมีมูลค่าถึง 98,221.202 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัวในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาแล้ว ผลจากการใช้ยาในจำนวนที่มากเป็นระยะเวลานานอาจทำให้มีปัญหาต่อการทำงานของระบบไต
          ส่วนสาเหตุของการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมนั้นปัจจัยหลักๆเกิดจากการมีค่าดัชนีมวลกายที่เกินค่ามาตรฐานและการมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น การมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือจากการใช้ข้อไม่เหมาะสม และสาเหตุอื่น ๆ เช่น อุบัติเหตุ การติดเชื้อในข้อ เป็นต้นมักพบในผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไปมีน้ำหนักตัวมาก พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่มีการเกิดพยาธิสภาพแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเป็นความผิดปกติที่เกิดกับกระดูกอ่อน เมื่อผิวกระดูกถูกทำลายมากขึ้น ก็จะมีการอักเสบของเยื่อบุข้อ ถ้าเป็นมากจะปวดเวลากลางคืน บางรายเวลาอากาศชื้นและเย็นจะปวดมากขึ้น รวมทั้งมีอาการข้อแข็งเคลื่อนไหวลำบาก มีข้อจำกัดในการงอและเหยียดของข้อเข่า มีอาการบวมที่ข้อ โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคเรื้อรังต้องอาศัยระยะเวลาในการรักษาและขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ อายุ และกิจวัตรประจำวัน เป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิต
          ทั้งนี้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกโดยโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสานได้นำกระบวนการบำบัดโรคแบบการแพทย์ผสมผสานมาใช้เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีทางเลือกในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการใช้ยาแผนไทยคือ "สหัสธารา"เป็นยากลุ่มคลายกล้ามเนื้อ ลดการอักเสบ ลดอาการปวด ที่ผลวิจัยเทียบเคียง Diclofenac แต่ไม่ก่อผลข้างเคียงยาเถาวัลย์เปรียง ครีมไพลและตำรับยาพอกเข่า โดยสามารถใช้ยานี้ควบคู่ไปกับการรักษาด้วย การนวดไทย การพอกเข่า การฝังเข็มตามหลักการแพทย์แผนจีน รวมถึงออกกำลังกายด้วยท่าฤาษีดัดตนและการบริโภคอาหารการใช้ยาแผนไทย "สหัสธารา"จะเหมาะกับกรณีที่เริ่มเป็นไม่มาก ส่วนยาเถาวัลย์เปรียงมีสรรพคุณช่วยลดอาการปวดบวม ครีมไพลและตำรับยาพอกเข่ามีสรรพคุณลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ สำหรับการฝังเข็มจะเป็นกลไกกระตุ้นการหลั่งเคมีในร่างกายที่ช่วยระงับการเจ็บปวดจากอาการข้อเข่าเสื่อมปัจจุบันทั่วประเทศมีแพทย์แผนจีนกว่า1,600 คนให้บริการฝังเข็มกระจายไปในแต่ละจังหวัดที่มีโรงพยาบาลประชาชนสามารถใช้สิทธิในการเบิกค่าใช้จ่ายบริการฝังเข็มได้ 150 บาท ต่อครั้งตามสิทธิการรักษาที่มี ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าการบำบัดโรคที่ทางโรงพยาบาลดำเนินการได้ผลดี จึงได้ขยายบริการมาที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแผนไทย อาคาร 2 ชั้น 7 กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรีทุกวันพฤหัสบดี ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์เวลา 8.30 – 16.30 น. เพื่อการเข้าถึงบริการของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ
          "สำหรับข้อแนะนำในการป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมนั้น สามารถทำได้โดยควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการงอเข่ามากเกินไปกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อด้วยท่าฤาษีดัดตน , ท่านั่ง ควรนั่งบนเก้าอี้สูงระดับเข่า ซึ่งเมื่อนั่งห้อยขาแล้วฝ่าเท้าจะวางราบกับพื้นพอดีไม่ควรนั่งพับเพียบนั่งขัดสมาธิ นั่งคุกเข่า นั่งยอง ๆ หรือ นั่งราบบนพื้น เพราะจะทำให้ผิวข้อเข่าเสื่อมเร็วมากขึ้น นอกจากนี้เวลาเข้าห้องน้ำ สำหรับผู้สูงอายุควรนั่งถ่ายบนโถนั่งชักโครก หรือ นั่งบนเก้าอี้สามขาที่ใช้สำหรับผู้ป่วย และควรทำที่จับยึดบริเวณด้านข้างโถนั่ง เพื่อใช้จับพยุงตัวเวลาจะลงนั่งหรือจะลุกขึ้นยืนเป็นต้น"นพ.สุริยะกล่าวในตอนท้าย