DCORP ตั้งเป้าเป็นผู้นำคอนเทนต์กีฬา ฮุบลิขสิทธิ์ ยิงสดแข่งขันกีฬาระดับโลก บุ๊ครายได้กว่า 120 ลบ.ต่อปี

          'ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น' ตั้งเป้าเป็นผู้นำคอนเทนต์กีฬา เตรียมยิงสดการแข่งขันฟุตบอล และกอล์ฟระดับโลกรวม 2 รายการ บุ๊ครายได้เข้ากระเป๋าปีละกว่า 120 ล้านบาท เผยมีคอนเทนต์จ่อออกอากาศอีกเพียบ
          นายอนิศ โอสถานุเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่ธุรกิจมีเดีย บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DCORP เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้าเป็นผู้นำคอนเทนต์กีฬาระดับโลกชั้นนำของเมืองไทย เพื่อตอบสนองความต้องการคอนเทนต์เพื่อออกอากาศทางโทรทัศน์ที่มากขึ้น ตามการเติบโตของทีวีดิจิตอลที่ในปัจจุบันมีความต้องการคอนเทนต์เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3,000 รายการ จากเดิมมีความต้องการคอนเทนต์อยู่ที่ประมาณ 800 รายการเท่านั้น เนื่องจากจำนวนช่องรายการในระบบทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้นเป็น 24 ช่อง จากช่องรายการในระบบอนาล็อกเดิมที่มีอยู่เพียง 6 ช่องเท่านั้น
          โดยในช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายนของปีนี้ บริษัทฯจะเริ่มดำเนินการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลีกฮอลแลนด์ หรือ 'Eredevisie League' ประจำฤดูกาล 2015-2016 ออกอากาศทางช่อง 9 และ MCOT HD จำนวน 80 แมตช์ต่อฤดูกาล เป็นระยะเวลา 3 ปี ทั้งนี้ความร่วมมือกับ MCOT ในการออกอากาศในครั้งนี้จะเป็นในลักษณะแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างสถานี กับผู้ผลิตรายการ หรือ Time Sharing ที่แบ่งสัดส่วนการโฆษณากัน โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ปีละ 20 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวเป็นรายได้จากการขายโฆษณาพียงอย่างเดียว ไม่รวมรายได้จากการจัดกิจกรรมทางการตลาด การขายลิขสิทธิ์ หรืออีเวนท์ต่าง ๆ ของบริษัทฯ
          ในขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้รับสิทธิ์ในการบริหารโฆษณา การแข่งขันกอล์ฟระดับโลกรายการ PGA European Tour เป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มออกอากาศตั้งแต่เดือนมกราคมปี 59 เป็นต้นไป โดยจะออกอากาศสดทางสถานี Golf Channel วันละ 4 ชั่วโมง 4 วัน ในแต่ละสนาม รวมถึงออกอากาศบันทึกเทปการแข่งขันทางช่องทีวีดิจิตอลสัปดาห์ละ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งจะใช้ความร่วมมือในการออกอากาศในลักษณะ Time Sharing เช่นเดียวกัน คาดว่าจะสามารถทำรายได้ปีละกว่า 80 ล้านบาท
          นอกเหนือจากนี้บริษัทฯอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อออกอากาศรายการกีฬาเอ็กซ์ตรีม ภายใต้ลิขสิทธิ์ Edge Sport ทางช่องทีวีดิจิตอล เพื่อดำเนินการออกอากาศได้ภายในไตรมาสแรกของปี 59 โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ปีละประมาณ 20 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯยังคงเดินหน้าซื้อลิขสิทธิ์ และคอนเทนต์ ในการถ่ายทอดสด หรือรายการกีฬาระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์รายการกีฬาชั้นนำของเมืองไทย รวมถึงการเปิดโอกาสในความร่วมมือทางธุรกิจกับเจ้าของคอนเทนต์ หรือลิขสิทธิ์รายการระดับโลกอีกด้วย
          'เราเดินหน้าในการเป็นเจ้าของคอนเทนต์กีฬาระดับโลก หรือการถ่ายทอดสดกีฬาอย่างต่อเนื่องเพื่อความเป็นผู้นำ ซึ่งเราต้องการร่วมมือออกอากาศกับช่องรายการทีวีเรทติ้งระดับท็อปเท็นเป็นหลัก ซึ่งตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะเริ่มเห็นการออกอากาศคอนเทนต์ของเราอย่างต่อเนื่อง โดยเราจะดำเนินกิจกรรมการตลาดของคอนเทนต์ที่มีอยู่ และหาคอนเทนต์คุณภาพออกอากาศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับเจ้าของคอนเทนต์ระดับโลกในอนาคตอีกด้วย' นายอนิศกล่าว