'ไทย โคโคนัท'ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต เพื่อเสนอขายไอพีโอ 300 ล้านหุ้น คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในไตรมาส 1 ปี 2559 พร้อมทั้งเชื่อมั่นธุรกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากกระแสการรักษ์สุขภาพในต่างประเทศกระตุ้นความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวเป็นจำนวนมาก
นางสาวชัญญา ธนศักดิภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยโคโคนัท จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่แปรรูปจากมะพร้าวและผลไม้ต่างๆ ภายใต้ตราสินค้าชั้นนำระดับโลกของลูกค้าในต่างประเทศ (OEM) ได้เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และยื่นแบบคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แล้ว และคาดว่าจะสามารถเข้าระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในไตรมาส 1 ปี 2559 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ "TCOCO"
บริษัทมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของธุรกิจ และรองรับการขยายตัวของธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยวางเป้าหมายในการระดมทุน เพื่อนำไปใช้ชำระหนี้เงินกู้ระยะยาว และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
"บริษัทเชื่อมั่นว่าธุรกิจมะพร้าวแปรรูป โดยเฉพาะน้ำมะพร้าวน้ำหอมที่มีรสชาติหอมหวาน และสามารถปลูกได้เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ยังมีทิศทางการเติบโตได้อีกมาก และจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ ตามกระแสความนิยมการบริโภคเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์มะพร้าวของไทยการรับรู้ที่ดี อย่างกว้างขวางต่อแบรนด์ "Thai Coco" ที่มีแนวโน้มเป็นที่ยอมรับด้านมาตรฐานคุณภาพและมีรสชาติที่ไม่เหมือนประเทศใดในโลกรู้จักและได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริษัทการมีพันธมิตรทางการค้าที่แข็งแกร่งในต่างประเทศทั่วโลก จะทำให้ธุรกิจมีการขยายตัวอย่างยั่งยืนในระยะยาว " นางสาวชัญญากล่าว
ด้านนางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริ้ปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าประเทศไทยได้ส่งออกน้ำกะทิสำเร็จรูปเป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 80โดยมีสาเหตุหลักมาจากประเทศไทยมีการพัฒนาและวิจัยในอุตสาหกรรมอาหารมายาวนาน มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และมีระบบควบคุมคุณภาพได้ตามมาตรฐานสากล จึงเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลกสำหรับตลาดในระดับสูง ซึ่ง ไทย โคโคนัท เป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำกะทิและน้ำมะพร้าวสำเร็จรูปรายใหญ่ของประเทศไทย และมีฐานลูกค้าในต่างประเทศจำนวน 62 ประเทศทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก อีกทั้ง ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผลประกอบการของบริษัททั้งด้านรายได้และกำไรสุทธิมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 550 ล้านบาท โดยเรียกชำระแล้ว 400 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และภายหลังเสนอขายหุ้น 300 ล้านหุ้นในครั้งนี้แล้ว บริษัทจะมีทุนชำระเพิ่มเป็น 550 ล้านบาท และหุ้นสามัญ 1,100 ล้านหุ้น โดยการระดมทุนของ บมจ.ไทยโคโคนัท เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขณะที่เงินที่ระดมทุนได้ดังกล่าวหลังจากใช้ชำระหนี้เงินกู้บางส่วน จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานและรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต อีกทั้งจะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2557 มีรายได้จากการขายจำนวน 2,113 ล้านบาท และกำไรสุทธิจำนวน 265 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงครึ่งแรกของปี 2558 บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,172 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2557 และมีกำไรสุทธิ169 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2558
นางสาวชัญญา ธนศักดิภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยโคโคนัท จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่แปรรูปจากมะพร้าวและผลไม้ต่างๆ ภายใต้ตราสินค้าชั้นนำระดับโลกของลูกค้าในต่างประเทศ (OEM) ได้เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และยื่นแบบคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แล้ว และคาดว่าจะสามารถเข้าระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในไตรมาส 1 ปี 2559 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ "TCOCO"
บริษัทมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของธุรกิจ และรองรับการขยายตัวของธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยวางเป้าหมายในการระดมทุน เพื่อนำไปใช้ชำระหนี้เงินกู้ระยะยาว และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
"บริษัทเชื่อมั่นว่าธุรกิจมะพร้าวแปรรูป โดยเฉพาะน้ำมะพร้าวน้ำหอมที่มีรสชาติหอมหวาน และสามารถปลูกได้เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ยังมีทิศทางการเติบโตได้อีกมาก และจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ ตามกระแสความนิยมการบริโภคเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์มะพร้าวของไทยการรับรู้ที่ดี อย่างกว้างขวางต่อแบรนด์ "Thai Coco" ที่มีแนวโน้มเป็นที่ยอมรับด้านมาตรฐานคุณภาพและมีรสชาติที่ไม่เหมือนประเทศใดในโลกรู้จักและได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริษัทการมีพันธมิตรทางการค้าที่แข็งแกร่งในต่างประเทศทั่วโลก จะทำให้ธุรกิจมีการขยายตัวอย่างยั่งยืนในระยะยาว " นางสาวชัญญากล่าว
ด้านนางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริ้ปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าประเทศไทยได้ส่งออกน้ำกะทิสำเร็จรูปเป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 80โดยมีสาเหตุหลักมาจากประเทศไทยมีการพัฒนาและวิจัยในอุตสาหกรรมอาหารมายาวนาน มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และมีระบบควบคุมคุณภาพได้ตามมาตรฐานสากล จึงเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลกสำหรับตลาดในระดับสูง ซึ่ง ไทย โคโคนัท เป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำกะทิและน้ำมะพร้าวสำเร็จรูปรายใหญ่ของประเทศไทย และมีฐานลูกค้าในต่างประเทศจำนวน 62 ประเทศทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก อีกทั้ง ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผลประกอบการของบริษัททั้งด้านรายได้และกำไรสุทธิมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 550 ล้านบาท โดยเรียกชำระแล้ว 400 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และภายหลังเสนอขายหุ้น 300 ล้านหุ้นในครั้งนี้แล้ว บริษัทจะมีทุนชำระเพิ่มเป็น 550 ล้านบาท และหุ้นสามัญ 1,100 ล้านหุ้น โดยการระดมทุนของ บมจ.ไทยโคโคนัท เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขณะที่เงินที่ระดมทุนได้ดังกล่าวหลังจากใช้ชำระหนี้เงินกู้บางส่วน จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานและรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต อีกทั้งจะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2557 มีรายได้จากการขายจำนวน 2,113 ล้านบาท และกำไรสุทธิจำนวน 265 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงครึ่งแรกของปี 2558 บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,172 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2557 และมีกำไรสุทธิ169 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2558
KJL สุดยอด! คว้า CGR 5 ดาว 'ดีเลิศ' ยืนหนึ่งองค์กรโปร่งใส มาตรฐานธรรมาภิบาลรอบด้าน
BRR ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการระดับ 5 ดาว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 สะท้อนการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลและความยั่งยืน
ดิ เอราวัณ กรุ๊ป คว้าคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการ "ดีเลิศ" ระดับ 5 ดาว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (พ.ศ. 2566-2568)
PRTR คว้า CGR ระดับ "ดีเลิศ" 5 ดาว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนธรรมาภิบาลองค์กรและความยั่งยืนทางธุรกิจ
ซีเอ็ด จัดกิจกรรม "Maruey Book Talk" เปิดตัวหนังสือ "คัมภีร์ชีวิต ชาร์ลี มังเกอร์" ถ่ายทอดแนวคิดการลงทุนและชีวิตอย่างชาญฉลาด
CH คว้าคะแนน CGR 4 ดาว ระดับ "ดีมาก" ต่อเนื่องปีที่ 2
"MGC-ASIA" คว้ารางวัล "ดีเลิศ" ระดับ 5 ดาว จาก CGR ติดกลุ่ม Top Quartile ตอกย้ำธรรมาภิบาลแกร่ง สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ITEL ตอกย้ำผู้นำธรรมาภิบาล คว้า 5 ดาว "ดีเลิศ" 5 ปีต่อเนื่อง
SGP คว้า CGR ระดับ 5 ดาว `ดีเลิศ` ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล