นายชาติ หงส์เทียมจันทร์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐหลายภาคส่วนตรวจสอบพบว่า บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) มีการทำเหมืองออกนอกเขตพื้นที่ประทานบัตร เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2557 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับกองกำกับการ 2
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมดำเนินคดีทางแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายกับบริษัทฯ ตามคดีแพ่งที่ 776/2558 ของศาลจังหวัดสระบุรี กรณีลักลอบทำเหมืองในพื้นที่คำขอประทานบัตรของบริษัทฯ คิดเป็นค่าเสียหาย จำนวน 4,338,558,231.45 บาท
นายชาติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบ ในปี 2558 ยังพบว่า บริษัทฯ ยังคงมีการกระทำความผิดซ้ำในพื้นที่คำขอประทานบัตรเดิม และทำเหมืองในเขตพื้นที่ห้ามทำเหมือง (Buffer Zone) ในเขตประทานบัตรของบริษัทฯ จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอาญาเพิ่มอีก 1 คดี และดำเนินคดีทางแพ่งเพิ่ม 2 คดี คือ คดีแพ่งที่ 287/2559 กรณีบริษัทฯ ทำเหมืองซ้ำในพื้นที่คำขอประทานบัตรเดิมอีก คิดเป็นค่าเสียหาย จำนวน 327,680,219 บาท และคดีแพ่งที่ 288/2559 กรณีทำเหมืองในเขตพื้นที่ห้ามทำเหมือง (Buffer Zone) ในเขตประทานบัตรของบริษัทฯ คิดเป็นค่าเสียหาย จำนวน 1,671,128,829 บาท
โดยล่าสุด กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) มีการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับบริษัทฯ รวม 5 คดี โดยคดีอาญา จำนวน 2 คดี อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน
เพื่อเสนอความเห็นต่อพนักงานอัยการ ส่วนคดีแพ่ง จำนวน 3 คดี ได้มีการฟ้องคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายกับ บริษัทฯ คิดเป็นค่าเสียหายรวม 6,337,367,279.45 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการในชั้นศาล โดยถ้ามีความคืบหน้าจะแจ้งให้สาธารณะชนทราบต่อไป นายชาติ กล่าวทิ้งท้าย
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมดำเนินคดีทางแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายกับบริษัทฯ ตามคดีแพ่งที่ 776/2558 ของศาลจังหวัดสระบุรี กรณีลักลอบทำเหมืองในพื้นที่คำขอประทานบัตรของบริษัทฯ คิดเป็นค่าเสียหาย จำนวน 4,338,558,231.45 บาท
นายชาติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบ ในปี 2558 ยังพบว่า บริษัทฯ ยังคงมีการกระทำความผิดซ้ำในพื้นที่คำขอประทานบัตรเดิม และทำเหมืองในเขตพื้นที่ห้ามทำเหมือง (Buffer Zone) ในเขตประทานบัตรของบริษัทฯ จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอาญาเพิ่มอีก 1 คดี และดำเนินคดีทางแพ่งเพิ่ม 2 คดี คือ คดีแพ่งที่ 287/2559 กรณีบริษัทฯ ทำเหมืองซ้ำในพื้นที่คำขอประทานบัตรเดิมอีก คิดเป็นค่าเสียหาย จำนวน 327,680,219 บาท และคดีแพ่งที่ 288/2559 กรณีทำเหมืองในเขตพื้นที่ห้ามทำเหมือง (Buffer Zone) ในเขตประทานบัตรของบริษัทฯ คิดเป็นค่าเสียหาย จำนวน 1,671,128,829 บาท
โดยล่าสุด กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) มีการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับบริษัทฯ รวม 5 คดี โดยคดีอาญา จำนวน 2 คดี อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน
เพื่อเสนอความเห็นต่อพนักงานอัยการ ส่วนคดีแพ่ง จำนวน 3 คดี ได้มีการฟ้องคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายกับ บริษัทฯ คิดเป็นค่าเสียหายรวม 6,337,367,279.45 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการในชั้นศาล โดยถ้ามีความคืบหน้าจะแจ้งให้สาธารณะชนทราบต่อไป นายชาติ กล่าวทิ้งท้าย
กพร. จับมือ เอ็มเทค สวทช. จัดสัมมนาใหญ่ โชว์ความสำเร็จดันผู้ประกอบการ ยกระดับธุรกิจด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดก๊าซเรือนกระจก 5,815 ตัน เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ 145 ล้านบาท
วว.หารืออธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ พัฒนางานวิจัยด้าน Low Carbon Society และ Circular Economy
กพร. จับมือ เอ็มเทค สวทช. จัดสัมมนาสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการออกแบบสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบการไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
สภาการเหมืองแร่
สวทช. ผนึกกำลัง กพร. ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0
สวทช. ผนึกกำลัง กพร. ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0
TCMA และ กพร. ร่วมยินดีข้าราชการรับทุน สำเร็จการศึกษา เสริมทัพยกระดับเหมืองแร่สีเขียวอย่างยั่งยืน พร้อมตอบโจทย์ลดโลกร้อน
TPBI ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานการรับรองแห่งชาติ (มตช.9-2565)
CHOW มุ่งยกระดับธุรกิจสู่องค์กร"คาร์บอนต่ำ"เปิดทางสู่ตลาดโลก