สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 เตรียมฝึกอบรม จัดถ่ายทอดองค์ความรู้เข้มข้น สู่ ศกอ. ในพื้นที่ 196 คน ก่อนร่วมประจำศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ทั่วประเทศ 882 ศูนย์ ย้ำ คัดเลือกตัวแทน ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนด คือ มีภูมิลำเนาใกล้ที่ตั้ง ศพก. มีจิตอาสาและมีเวลาให้ ใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสื่อสารได้ และต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร
นายอนุสรณ์ พรชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ (สศท.1) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการบูรณาการร่วมเพื่อขับเคลื่อนศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ทั่วทั้งประเทศ 882 ศูนย์ ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เกษตรกรได้ฝึกอบรมเรียนรู้ ฝึกวิธีคิดการพัฒนาตนเอง สร้างความรู้ความเข้าใจและร่วมการขับเคลื่อนประเทศตามแนวทางประชารัฐ ให้เกษตรกรสามารถดำรงชีพได้ในช่วงวิกฤตภัยแล้ง สร้างโอกาสการปรับโครงสร้างการผลิตให้เหมาะสมกับภูมิสังคมและตลาดสินค้า และสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายเกษตรกรที่รับการฝึกอบรม ซึ่งการดำเนินงานของศูนย์ฯ จะเป็นการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
ในการนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมถ่ายทอดความรู้ภายใต้หัวข้อ "สารสนเทศเพื่อการเกษตร" โดยคัดเลือกจากเศรษฐกิจการเกษตรอาสา (ศกอ.) มาเป็นตัวแทนประจำทั้ง 882 ศูนย์ (ศกอ. 1 คนต่อ 1 ศูนย์) ในการถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรเครือข่าย ซึ่งในส่วนของ สศท.1 ได้เตรียมกำหนดการจัดฝึกอบรมให้แก่ ศกอ. ในพื้นที่รับผิดชอบ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 16 – 18 กุมภาพันธ์ 2559 โดยเนื้อหาวิชาความรู้ที่จะจัดฝึกอบรมนั้น จะใช้ความรู้จากหน่วยงานหลักของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรประกอบด้วย ด้านสารสนเทศการเกษตร ด้านสถานการณ์สินค้าเกษตรและการตลาด และด้านองค์ความรู้จากประสบการณ์จริงของ ศกอ.
สำหรับ ศกอ. ที่จะเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ เป็นบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกมาแล้วจาก สศท. 1, 2, และ 12 จำนวน 196 คน มีคุณสมบัติตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรกำหนด คือ ต้องเป็นบุคลที่มีภูมิลำเนาใกล้ที่ตั้ง ศพก. มีจิตอาสาและมีเวลาให้อย่างสม่ำเสมอ สามารถใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสื่อสารได้ และ ศกอ. หรือสมาชิกในครัวเรือนต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยมีหน้าที่รับผิดชอบหลัก 3 ประการคือ
1) สนับสนุนงานตามภารกิจของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
2) ถ่ายทอดความรู้ด้านเศรษฐกิจ และประชาสัมพันธ์สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
และ 3) สนับสนุนการดำเนินงานของ ศพก.
ทั้งนี้ ศกอ.ที่ผ่านการฝึกอบรมแล้วจะไปปฏิบัติงานประจำยัง ศพก. ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาสู่เกษตรกรเครือข่าย โดยจะต้องทำการอบรมเกษตรกรในพื้นที่จำนวน 5 รุ่น ๆ ละ 50 ราย/ศูนย์ ในแต่ละรุ่นจะแบ่งการอบรมออกเป็น 3 ครั้ง ๆ ละ 5 วันทำการ กำหนดระยะเวลาการอบรมตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ถึง 31 พฤษภาคม 2559
นายอนุสรณ์ พรชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ (สศท.1) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการบูรณาการร่วมเพื่อขับเคลื่อนศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ทั่วทั้งประเทศ 882 ศูนย์ ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เกษตรกรได้ฝึกอบรมเรียนรู้ ฝึกวิธีคิดการพัฒนาตนเอง สร้างความรู้ความเข้าใจและร่วมการขับเคลื่อนประเทศตามแนวทางประชารัฐ ให้เกษตรกรสามารถดำรงชีพได้ในช่วงวิกฤตภัยแล้ง สร้างโอกาสการปรับโครงสร้างการผลิตให้เหมาะสมกับภูมิสังคมและตลาดสินค้า และสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายเกษตรกรที่รับการฝึกอบรม ซึ่งการดำเนินงานของศูนย์ฯ จะเป็นการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
ในการนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมถ่ายทอดความรู้ภายใต้หัวข้อ "สารสนเทศเพื่อการเกษตร" โดยคัดเลือกจากเศรษฐกิจการเกษตรอาสา (ศกอ.) มาเป็นตัวแทนประจำทั้ง 882 ศูนย์ (ศกอ. 1 คนต่อ 1 ศูนย์) ในการถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรเครือข่าย ซึ่งในส่วนของ สศท.1 ได้เตรียมกำหนดการจัดฝึกอบรมให้แก่ ศกอ. ในพื้นที่รับผิดชอบ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 16 – 18 กุมภาพันธ์ 2559 โดยเนื้อหาวิชาความรู้ที่จะจัดฝึกอบรมนั้น จะใช้ความรู้จากหน่วยงานหลักของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรประกอบด้วย ด้านสารสนเทศการเกษตร ด้านสถานการณ์สินค้าเกษตรและการตลาด และด้านองค์ความรู้จากประสบการณ์จริงของ ศกอ.
สำหรับ ศกอ. ที่จะเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ เป็นบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกมาแล้วจาก สศท. 1, 2, และ 12 จำนวน 196 คน มีคุณสมบัติตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรกำหนด คือ ต้องเป็นบุคลที่มีภูมิลำเนาใกล้ที่ตั้ง ศพก. มีจิตอาสาและมีเวลาให้อย่างสม่ำเสมอ สามารถใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสื่อสารได้ และ ศกอ. หรือสมาชิกในครัวเรือนต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยมีหน้าที่รับผิดชอบหลัก 3 ประการคือ
1) สนับสนุนงานตามภารกิจของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
2) ถ่ายทอดความรู้ด้านเศรษฐกิจ และประชาสัมพันธ์สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
และ 3) สนับสนุนการดำเนินงานของ ศพก.
ทั้งนี้ ศกอ.ที่ผ่านการฝึกอบรมแล้วจะไปปฏิบัติงานประจำยัง ศพก. ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาสู่เกษตรกรเครือข่าย โดยจะต้องทำการอบรมเกษตรกรในพื้นที่จำนวน 5 รุ่น ๆ ละ 50 ราย/ศูนย์ ในแต่ละรุ่นจะแบ่งการอบรมออกเป็น 3 ครั้ง ๆ ละ 5 วันทำการ กำหนดระยะเวลาการอบรมตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ถึง 31 พฤษภาคม 2559
สศท.6 ชี้ผลสำเร็จโครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาลดผลกระทบจากช้างป่า พื้นที่บ้านหนองกระทิง จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ลดรายจ่ายครัวเรือน
สศท.8 เผยผลศึกษาการเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้จากมังคุด ตามแนวทาง BCG Model เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
กองทุน FTA อนุมัติงบ 24.98 ล้านบาท หนุนโครงการนำร่องถั่วเหลืองอินทรีย์-แฟร์เทรด ยกระดับต้นแบบการผลิต เพิ่มขีดแข่งขันภาคเกษตรไทย
สศท.3 หนุนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น 'สับปะรดท่าอุเทน' GI ขึ้นแท่นผลไม้เศรษฐกิจเด่น จ.นครพนม
'กระท้อนนาปริก' จ.สตูล สินค้า GI มุ่งยกระดับคุณภาพ พัฒนาตลาด สร้างรายได้อย่างยั่งยืน
สศท.10 เกาะติดสถานการณ์มะพร้าวผลแก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปีนี้ ผลผลิตรวม 252 ล้านผล
'แปลงใหญ่มะม่วงส่งออกหนองแซง' จ.กาฬสินธุ์ ส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองคุณภาพสร้างรายได้กลุ่มปีละ 4 ล้านบาท
กล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง จ.พิษณุโลก สินค้าเกษตรที่มีศักยภาพ ทดแทนการผลิตข้าวนาปีในพื้นที่ไม่เหมาะสม สร้างรายได้เกษตรกร
สศท. 7 เผยผลศึกษาการบริหารจัดการ "ฟางข้าว" ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคกลาง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม