Fund Flow ลุยหุ้นไทย – น้ำมันโลกฟื้น ดัน SET ช่วง มี.ค.- เม.ย. แตะเฉียด 1,400 จุด บล.เออีซี ชี้ ได้เวลาเพิ่มน้ำหนักลงทุน ในกลุ่มสื่อสาร-ธนาคาร-พลังงาน-ค้าปลีก-และปิโตรฯ ชู ADVANC- PTT- PTTEP- KBANK- SCB- IRPC นำตลาดฯ ส่วนกลุ่มรับเหมาฯ แนะเลี่ยงลงทุน
นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) (AECS) เปิดเผยว่า ประเมินตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นในช่วง 2 เดือนข้างหน้า (มี.ค.- เม.ย.) โดยมีเป้าหมายการปรับขึ้นที่ 1,350-1,390 จุด เนื่องจากการปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นจีน,ยุโรปและสหรัฐอเมริกา จะส่งผลให้เม็ดเงินมีโอกาสไหลเข้าประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market)ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มสื่อสาร ธนาคาร พลังงานและสาธารณูปโภค ค้าปลีก และปิโตรเคมี โดยมองว่าทั้งหมดจะเป็นกลุ่มที่นำการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย ประกอบด้วย ADVANC- PTT- PTTEP- KBANK- SCB- IRPC ส่วนกลุ่มที่ควรลดน้ำหนักการลงทุน ได้แก่กลุ่มรับเหมาฯ เนื่องจากความเสี่ยงของการประมูลและการเบิกจ่าย (Fast track turns to furious) และความเสี่ยงการประมูลจะมีผลต่อเป้าหมาย GDP
" มีโอกาสสูงที่ตลาดหุ้นในกลุ่ม Emerging Market จะกลับมา Outperform และได้เวลาที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดไทย โดยความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ Valuation ที่ต่ำและอัตราปันผลจ่ายที่สูง ซึ่งหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม Big Cap มีการซื้อขายด้วยระดับ PE Ratio ที่ต่ำกว่า 10 เท่า ในขณะที่อัตราปันผลจ่าย 3.5% เมื่อเทียบกับระยะเวลาการถือครอง 3 เดือนข้างหน้า คิดเป็น Annualized Returnsที่สูงถึง 15% นี่คือสาเหตุที่เรามองว่าตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนมี.ค.- เดือนเม.ย. ยังมีความน่าสนใจ ส่วนปัจจัยเสี่ยงของตลาดหุ้นจะมาจาก การชะลอตัวของศก. โลกในช่วงประกาศ GDP งวด 1Q59 รวมถึงผลกระทบจากภัยแล้งที่มีโอกาสสูงเกิน 60,000 ล้านบาท และ ความผันผวนของสภาพคล่องโลก " นายเกรียงไกรกล่าว
นอกจากนี้ ยังประเมินว่าตลาดน้ำมันกำลังจะเข้าสู่ช่วง Swing Recovery คาดระดับการฟื้นตัวที่ 45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลใน 3 เดือน แม้การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างจะทำให้การฟื้นตัวของราคาน้ำมันไม่สามารถขึ้นไปในระดับที่สูงเช่นเดียวกับในอดีต แต่เราประเมินว่า การคาดการณ์เรื่องปรับลดกำลังการผลิต และการเก็งกำไรส่วนต่างสัญญาน้ำมัน จะเป็นปัจจัยผลักดันให้ราคาน้ำมันมีโอกาสฟื้นตัวที่ระดับ 45-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วง 2Q59 ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่จ่ายปันผลได้จะเริ่มแข็งแกร่งกว่าราคาน้ำมัน โดยประเมินว่า PTT, PTTEP, TOP, IRPC, SPRC จะมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วในช่วงที่ราคาน้ำมันฟื้น
นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) (AECS) เปิดเผยว่า ประเมินตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นในช่วง 2 เดือนข้างหน้า (มี.ค.- เม.ย.) โดยมีเป้าหมายการปรับขึ้นที่ 1,350-1,390 จุด เนื่องจากการปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นจีน,ยุโรปและสหรัฐอเมริกา จะส่งผลให้เม็ดเงินมีโอกาสไหลเข้าประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market)ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มสื่อสาร ธนาคาร พลังงานและสาธารณูปโภค ค้าปลีก และปิโตรเคมี โดยมองว่าทั้งหมดจะเป็นกลุ่มที่นำการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย ประกอบด้วย ADVANC- PTT- PTTEP- KBANK- SCB- IRPC ส่วนกลุ่มที่ควรลดน้ำหนักการลงทุน ได้แก่กลุ่มรับเหมาฯ เนื่องจากความเสี่ยงของการประมูลและการเบิกจ่าย (Fast track turns to furious) และความเสี่ยงการประมูลจะมีผลต่อเป้าหมาย GDP
" มีโอกาสสูงที่ตลาดหุ้นในกลุ่ม Emerging Market จะกลับมา Outperform และได้เวลาที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดไทย โดยความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ Valuation ที่ต่ำและอัตราปันผลจ่ายที่สูง ซึ่งหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม Big Cap มีการซื้อขายด้วยระดับ PE Ratio ที่ต่ำกว่า 10 เท่า ในขณะที่อัตราปันผลจ่าย 3.5% เมื่อเทียบกับระยะเวลาการถือครอง 3 เดือนข้างหน้า คิดเป็น Annualized Returnsที่สูงถึง 15% นี่คือสาเหตุที่เรามองว่าตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนมี.ค.- เดือนเม.ย. ยังมีความน่าสนใจ ส่วนปัจจัยเสี่ยงของตลาดหุ้นจะมาจาก การชะลอตัวของศก. โลกในช่วงประกาศ GDP งวด 1Q59 รวมถึงผลกระทบจากภัยแล้งที่มีโอกาสสูงเกิน 60,000 ล้านบาท และ ความผันผวนของสภาพคล่องโลก " นายเกรียงไกรกล่าว
นอกจากนี้ ยังประเมินว่าตลาดน้ำมันกำลังจะเข้าสู่ช่วง Swing Recovery คาดระดับการฟื้นตัวที่ 45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลใน 3 เดือน แม้การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างจะทำให้การฟื้นตัวของราคาน้ำมันไม่สามารถขึ้นไปในระดับที่สูงเช่นเดียวกับในอดีต แต่เราประเมินว่า การคาดการณ์เรื่องปรับลดกำลังการผลิต และการเก็งกำไรส่วนต่างสัญญาน้ำมัน จะเป็นปัจจัยผลักดันให้ราคาน้ำมันมีโอกาสฟื้นตัวที่ระดับ 45-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วง 2Q59 ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่จ่ายปันผลได้จะเริ่มแข็งแกร่งกว่าราคาน้ำมัน โดยประเมินว่า PTT, PTTEP, TOP, IRPC, SPRC จะมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วในช่วงที่ราคาน้ำมันฟื้น
“AECS” กังวลราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วง-NPLพุ่งกดดันดัชนี แนะลงทุนหุ้นขนาดเล็ก ชู EA - CBG-LPH-BR-BA-TWPC- ARROW- EPG
“AECS” มองดัชนีเดือนก.ย.แกว่งตัวในกรอบ 1,500 – 1,590 จุด. แนะลงทุนกลุ่มรับเหมา ชูCK-UNIQ-SYNTEC-STEC-PYLON
“AECS” มองดัชนี SET ปรับขึ้นไปทดสอบที่ 1,590 จุด. แนะลงทุน CK-UNIQ-SYNTEC
“AECS” ลุ้นหุ้นไทยทดสอบ 1,590 จุด แนะลงทุน EA-IRPC-BCP
“AECS” มองหุ้นไทยเด้งรับผลโหวตประชามติ ให้กรอบดัชนี 1,470 - 1,550 จุด - แนะลงทุน EA-IRPC-BCP
“AECS” จับตาลงประชามติร่างธรรมนูญ แนะลงทุนหุ้น Big cap กลุ่มสายการบิน–พลังงานทดแทน-สินเชื่อเช่าซื้อ-อสังหาฯ-เครื่องดื่ม
“AECS” มองตลาดจับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ คาดกรอบดัชนี SET 1,530 จุด – คัดหุ้นเด่นราคาต่ำเป้า EA- BA
“AECS” มองหุ้นไทยผันผวนให้กรอบดัชนี 1,435-1,460 จุด แนะลงทุนหุ้นซื้อขาย PBV ต่ำกว่า 2 เท่า-ลุ้นผลงานเทิร์นอะราวด์