ไทยประกันชีวิตความมั่นคงปึ้ก ฟิทช์ เรทติ้งส์ จัดอันดับความแข็งแกร่งที่ระดับ AAA(tha) ถือเป็นอันดับเครดิตสูงสุดของไทย เผยจากผลการดำเนินงานที่ดี นโยบายการลงทุนรอบคอบและมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีพันธมิตรและเครือข่ายธุรกิจที่มีคุณภาพ
นางวรางค์ ไชยวรรณ (Varang Chaiyawan) กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส(Director & First Senior Executive Vice President) บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (Thai Life Insurance PCL.) เปิดเผยว่า ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) สถาบันจัดอันดับเครดิตทางการเงินระดับโลก ได้ประเมินและจัดอันดับเครดิตทางการเงินของบริษัทฯ ให้มีระดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (International Insurer Financial Strength (IFS)) ที่ระดับ A- และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National Insurer Financial Strength) ที่ระดับ AAA(tha) โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพซึ่งถือเป็นอันดับเครดิตทางการเงินสูงที่สุดในไทย
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า ไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีเงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่งอย่างมาก ตามแบบประมาณการของ Prism Factor Based Capital Model (Prism FBM) ซึ่งเป็นแบบจำลองที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ใช้ประเมินระดับความแข็งแกร่งด้านเงินกองทุน โดยพิจารณาจากข้อมูลการดำเนินงานของบริษัทฯ ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2558 ซึ่งมีส่วนแบ่งเบี้ยประกันผ่านช่องทางตัวแทนสูงถึง 21% และในช่วง 11 เดือนของปี 2558 (มกราคม-พฤศจิกายน) บริษัทฯ มีส่วนแบ่งเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 12.5% ขณะเดียวกันยังพิจารณาจากสัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Risk-Based Capital - RBC) อยู่ที่ 374% ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้ที่ 140%
"สำหรับปัจจัยสนับสนุนความแข็งแกร่งทางการเงินสากล และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศนั้น มาจากผลการดำเนินงานที่ดี อันเป็นผลจากการวางตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจน โดยมุ่งเน้นการขยายตลาดผ่านตัวแทนเป็นช่องทางหลัก และเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมด้านสินค้า และบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เอาประกันได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง ถูกใจ และต่อเนื่อง" นางวรางค์กล่าวและว่า
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการบริหารทรัพย์สินอย่างรอบคอบ โดยเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งพอร์ตการลงทุน ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ประกอบด้วย ตราสารหนี้ เงินสด และเงินฝาก ในสัดส่วนประมาณ 85% ของพอร์ตเงินลงทุนรวม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงรักษาสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนในระดับต่ำกว่า 10% ของเงินลงทุนรวม และมีผลการดำเนินงานที่ดี อันเป็นปัจจัยสะท้อนถึงความมั่นคงและความมีเสถียรภาพที่สร้างความมั่นคง เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้เอาประกันมากยิ่งขึ้น
ประกอบกับ การร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ คือ บริษัท เมจิ ยาซึดะ ไลฟ์ อินชัวรันส์ จำกัด (Meiji Yasuda Life Insurance Company) บริษัทประกันชีวิตยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ หรือ Strategic Partners ทั้งด้านการบริหารความเสี่ยง การพัฒนาความสามารถในการแข่งขันด้านการขายและผลิตภัณฑ์ รวมถึงการขยายตัวในภูมิภาคอาเซียน เพื่อการก้าวสู่การแข่งขันในระดับสากลได้อย่างแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพอีกด้วย
"ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประเมินว่า ไทยประกันชีวิตมีความแข็งแกร่งอย่างมาก จากนโยบายการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนจากสินทรัพย์ลงทุนในรูปของตราสารหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ส่งผลให้ระดับเงินกองทุนเมื่อเทียบกับความเสี่ยง อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่าการแข่งขันของตลาดประกันชีวิตในประเทศจะรุนแรง อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งในและต่างประเทศมีความผันผวน แต่บริษัทฯ มีความพร้อมในการขยายธุรกิจและรองรับการเติบโตสู่ระดับอาเซียนได้" นางวรางค์กล่าว
นางวรางค์ ไชยวรรณ (Varang Chaiyawan) กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส(Director & First Senior Executive Vice President) บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (Thai Life Insurance PCL.) เปิดเผยว่า ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) สถาบันจัดอันดับเครดิตทางการเงินระดับโลก ได้ประเมินและจัดอันดับเครดิตทางการเงินของบริษัทฯ ให้มีระดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (International Insurer Financial Strength (IFS)) ที่ระดับ A- และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National Insurer Financial Strength) ที่ระดับ AAA(tha) โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพซึ่งถือเป็นอันดับเครดิตทางการเงินสูงที่สุดในไทย
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า ไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีเงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่งอย่างมาก ตามแบบประมาณการของ Prism Factor Based Capital Model (Prism FBM) ซึ่งเป็นแบบจำลองที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ใช้ประเมินระดับความแข็งแกร่งด้านเงินกองทุน โดยพิจารณาจากข้อมูลการดำเนินงานของบริษัทฯ ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2558 ซึ่งมีส่วนแบ่งเบี้ยประกันผ่านช่องทางตัวแทนสูงถึง 21% และในช่วง 11 เดือนของปี 2558 (มกราคม-พฤศจิกายน) บริษัทฯ มีส่วนแบ่งเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 12.5% ขณะเดียวกันยังพิจารณาจากสัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Risk-Based Capital - RBC) อยู่ที่ 374% ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้ที่ 140%
"สำหรับปัจจัยสนับสนุนความแข็งแกร่งทางการเงินสากล และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศนั้น มาจากผลการดำเนินงานที่ดี อันเป็นผลจากการวางตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจน โดยมุ่งเน้นการขยายตลาดผ่านตัวแทนเป็นช่องทางหลัก และเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมด้านสินค้า และบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เอาประกันได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง ถูกใจ และต่อเนื่อง" นางวรางค์กล่าวและว่า
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการบริหารทรัพย์สินอย่างรอบคอบ โดยเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งพอร์ตการลงทุน ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ประกอบด้วย ตราสารหนี้ เงินสด และเงินฝาก ในสัดส่วนประมาณ 85% ของพอร์ตเงินลงทุนรวม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงรักษาสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนในระดับต่ำกว่า 10% ของเงินลงทุนรวม และมีผลการดำเนินงานที่ดี อันเป็นปัจจัยสะท้อนถึงความมั่นคงและความมีเสถียรภาพที่สร้างความมั่นคง เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้เอาประกันมากยิ่งขึ้น
ประกอบกับ การร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ คือ บริษัท เมจิ ยาซึดะ ไลฟ์ อินชัวรันส์ จำกัด (Meiji Yasuda Life Insurance Company) บริษัทประกันชีวิตยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ หรือ Strategic Partners ทั้งด้านการบริหารความเสี่ยง การพัฒนาความสามารถในการแข่งขันด้านการขายและผลิตภัณฑ์ รวมถึงการขยายตัวในภูมิภาคอาเซียน เพื่อการก้าวสู่การแข่งขันในระดับสากลได้อย่างแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพอีกด้วย
"ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประเมินว่า ไทยประกันชีวิตมีความแข็งแกร่งอย่างมาก จากนโยบายการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนจากสินทรัพย์ลงทุนในรูปของตราสารหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ส่งผลให้ระดับเงินกองทุนเมื่อเทียบกับความเสี่ยง อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่าการแข่งขันของตลาดประกันชีวิตในประเทศจะรุนแรง อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งในและต่างประเทศมีความผันผวน แต่บริษัทฯ มีความพร้อมในการขยายธุรกิจและรองรับการเติบโตสู่ระดับอาเซียนได้" นางวรางค์กล่าว
BAFS เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ชูดอกเบี้ย 4.75 - 5.10% ต่อปี คาดเปิดจองซื้อแก่ "สถาบัน-รายใหญ่" วันที่ 9 - 14 พ.ค. นี้ รองรับการขยายตัวธุรกิจในอนาคต
SCAP สุดปลื้ม! ฟิทช์จัดอันดับเครดิต 'A-(tha)' สะท้อนฐานะการเงินมั่นคง เพิ่มศักยภาพเข้าถึงแหล่งเงินต้นทุนต่ำ ช่วยเสริมแกร่งกลุ่ม SAWAD
เอสซีจี เตรียมเสนอขายหุ้นกู้เรทติ้ง "A" แก่ประชาชนทั่วไป อายุหุ้นกู้ 4 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 3.20% ต่อปี เริ่มจองซื้อ 3 มี.ค. 68 ผ่าน 5 ธนาคารชั้นนำ
GC พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ 4-12 ธันวาคมนี้ ชูดอกเบี้ย 5 ปี 6 เดือนที่ 5.25% ฟิทช์ เรทติ้งส์ ยืนยันความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้คงเดิม ที่ AA(tha) และ A+(tha)