สภาวะตลาดวันที่ 30 กันยายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,320.45-1,326.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV16 อยู่ที่ 21,870 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,790 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.14 น.ของวันที่ 30/09/16)
แนวโน้มวันที่ 03 ตุลาคม 2559
ความวิตกเกี่ยวกับเสถียรภาพของดอยซ์แบงก์ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดของเยอรมนี กำลังเผชิญกับความท้าทายเมื่อต้องเสียค่าปรับ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับสหรัฐเพื่อยุติคดีการขายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันอย่างไม่เหมาะสมให้กับลูกค้า กระทบหุ้นกลุ่มธนาคาร กดดันหุ้นยุโรปร่วงลงในช่วงเปิดตลาดลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่า เฮดจ์ฟันด์กว่า 10 แห่งที่ทำธุรกิจร่วมกับดอยซ์แบงก์นั้น ต่างพากันถอนสินทรัพย์ด้านการเงินออกจากดอยซ์แบงก์ ซึ่งรวมถึงสินทรัพย์ด้านตราสารหนี้ และกองทุนเฮจด์จำนวนหนึ่งที่ใช้บริการด้านโบรกเกอร์ของดอยช์ แบงก์ได้ย้ายการถือครองตราสารอนุพันธ์บางส่วนไปยังบริษัทอื่นๆ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าคู่สัญญาของธนาคารเกิดความวิตกที่จะทำธุรกิจกับดอยช์แบงก์ นักลงทุนจึงหลีกเลี่ยงการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยน่าสนใจลงทุนเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมได้หนุนดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินบวกขึ้น ขณะที่บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 56.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นจาก 53.1% ที่คาดไว้ในวันพุธ ทั้งนี้ นักลงทุนจึงจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งอาจมีนัยต่อความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และ กลับมากดดันตลาดได้ ขณะที่ความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำที่ส่งผลบวกต่อการเคลื่อนไหวในทองคำชัดเจนมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จากการเหวี่ยงตัวของราคาทองคำที่ยังคงมีความผันผวนและยังคงเห็นการแกว่งตัวของราคา วายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และ ปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,313 หรือ 1,304 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวผันผวน โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,339 หรือ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (21,520บาท) 1,304 (21,380บาท) 1,293 (21,200บาท)
แนวต้าน 1,339 (21,950บาท) 1,346 (22,070บาท) 1,352 (22,170บาท)
GOLD FUTURES (GFV16)
แนวรับ 1,313 (21,650บาท) 1,304 (21,510บาท) 1,293 (21,320บาท)
แนวต้าน 1,339 (22,080บาท) 1,346 (22,200บาท) 1,352 (22,300บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999