"Refinn" ชื่อนี้กำลังเริ่มเป็นที่รู้จักในแวดวงการเงินของประเทศไทย และกำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 กันยายน 2559 นี้ Refinn ถือเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของนักศึกษาทั้ง 6 คน จากภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ประยุกต์-มัลติมีเดีย คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยมี คุณนิลทิตา เลิศเรืองศุภกุล และคุณเพียรไกร อัศวโภคา นักธุรกิจและที่ปรึกษาทางการเงินระดับประเทศ ที่มองเห็นศักยภาพของโปรเจคดังกล่าวจนกระทั่งปัจจุบันเป็นทั้งที่ปรึกษาและผู้ร่วมก่อตั้ง Refinn
นายพงศธร ธนบดีภัทร ตัวแทนของนักศึกษากลุ่มนี้และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท รีฟินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ดอท คอม จำกัด ได้กล่าวว่าคนไทยมีหนี้สินเป็นอันดับต้นๆ ของโลก คนไทยที่อายุเกิน 60 ปี ยังมีไม่ถึงร้อยละ 10 ที่มีเงินเก็บเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตด้วยตนเอง Refinn เป็นโปรเจคที่เกิดขึ้นจากแนวคิดที่อยากจะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินของคนไทย ซึ่งโดยส่วนมากจะประกอบไปด้วยหนี้ 3 ประเภท คือ หนี้ที่อยู่อาศัย หนี้รถยนต์ และหนี้บัตรเครดิต โดยในปีนี้จะเริ่มต้นที่หนี้ที่อยู่อาศัยก่อนเพราะใช้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานหลาย 10 ปี ทำให้ต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยเป็นเงินอีกเท่าตัวของราคาที่อยู่อาศัย
"คนที่เป็นหนี้บ้านไม่ใช่คนไม่มีวินัยทางการเงิน ใครก็เป็นหนี้บ้านได้ แต่ยิ่งผ่อนนานเงินที่ต้องจ่ายก็ยิ่งทวีคูณเป็นเท่าตัวของราคาบ้าน Refinn จึงจะช่วยให้คนที่เป็นหนี้บ้านปลดหนี้ได้เร็วขึ้น โดยการเข้าถึงการรีไฟแนนซ์บ้านได้ง่ายขึ้น ปัญหาทุกวันนี้คือคนไม่รู้ว่ารีไฟแนนซ์ดีอย่างไร สมมติว่าคุณผ่อนบ้าน 30 ปี ผ่อนไปซัก 3 ปีแล้ว การรีไฟแนนซ์จะช่วยลดเวลาการผ่อนชำระให้เหลือเพียง 18-19 ปีได้ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของดอกเบี้ยได้เป็นหลักล้านบาท เพื่อนำเงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารเปลี่ยนมาเป็นเงินที่เราประหยัดได้และไปใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ที่จำเป็นของชีวิตแทน แต่ธนาคารในประเทศไทยมีเกือบ 20 แห่ง คนส่วนมากจึงมักจะเลือกแต่ธนาคารที่ตนรู้จักเท่านั้น ซึ่งเว็บไซต์ Refinn เป็นพันธมิตรกับธนาคารที่จะให้คำแนะนำคุณได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาทีผ่านระบบของเว็บไซต์ที่เราพัฒนาขึ้น"
นายพงศธร กล่าวต่อว่า Refinn ให้บริการฟรีโดยไม่เก็บค่าบริการใดๆ จากผู้ใช้งาน เพราะ Refinn เป็นพันธมิตรกับธนาคารอยู่แล้ว ทุกคนที่ผ่อนบ้านอยู่สามารถเข้ามาใช้บริการได้ที่ www.refinn.com ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์เพื่อลองคำนวณ ดูว่าบ้านของคุณสามารถประหยัดเงินได้เท่าไหร่ ที่ Refinn ก่อนได้ แล้วหากสนใจจะรีไฟแนนซ์ก็สามารถกดสมัครและส่งข้อมูลไปให้กับธนาคารที่สนใจ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ ติดต่อกลับไปเพื่อรับเอกสารจากท่าน โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเวลาในการเดินเรื่องทั้งหมดเองทุกขั้นตอน เพียงเท่านี้การรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัยของท่านก็เสร็จสมบูรณ์
"แน่นอนว่าการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือเปิดเผยข้อมูลใดๆ ผ่านระบบออนไลน์ ผู้ใช้ต้องมีความเชื่อมั่นในระดับหนึ่งว่ามีความปลอดภัย เราได้พัฒนาระบบเว็บไซต์ขึ้นมาโดยเว็บไซต์ Refinn ใช้ระบบ security ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยเดียวกับการเข้ารหัสต่างๆ บนเว็บไซต์ธนาคารชั้นนำของโลก คือมาตรฐาน ISO 27001 ผู้ใช้บริการจึงสามารถมั่นใจได้ว่าการใช้งานบนเว็บไซต์ Refinn นั้นมีความปลอดภัยสูงแน่นอน"
นายพงศธร ยังได้กล่าวทิ้งท้ายอีกด้วยว่าเว็บไซต์ Refinn ได้เปิดให้ใช้บริการอย่างไม่เป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมียอดเงินการรีไฟแนนซ์แล้วกว่า 700 ล้านบาท แต่กว่าเว็บไซต์ Refinn จะสมบูรณ์แบบพร้อมใช้อย่างในปัจจุบันนี้ ได้ผ่านการพัฒนาและปรับแก้มาแล้ว หลายครั้งเพื่อให้มั่นใจเรื่องของข้อมูลและความปลอดภัยอย่างสูงสุด
"เรามีข้อได้เปรียบในการทำงาน เพราะที่มหาวิทยาลัยสอนให้เราเรียนรู้จากปัญหาและความผิดพลาดมาโดยตลอด นี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้เราอดทนและมุ่งมั่นจนเกิดเป็นระบบเว็บไซต์ Refinn ได้สำเร็จ การทำบริษัท Refinn ก็เช่นกัน พวกเราเรียนวิศวะแต่มาเริ่มทำธุรกิจสตาร์ทอัพเราก็ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองกันตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ดีการทำสตาร์ทอัพใครๆ ก็ทำได้แต่สิ่งสำคัญ อย่างหนึ่งคือการมีที่ปรึกษาที่ดีโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเงินและธนาคารถือเป็นเรื่องซับซ้อนที่พวกเราต้องเรียนรู้"
ปัจจุบัน Refinn ได้รับเกียรติจากคุณกรณ์ จาติกวณิช ในฐานะที่ปรึกษาและเป็นนักลงทุนคนแรก ซึ่ง ในอนาคต Refinn จะเปิดให้บริการในการรีไฟแนนซ์หนี้สินของคนไทยในอีก 2 ประเภท คือ หนี้รถยนต์ และหนี้บัตรเครดิตต่อไป
นายพงศธร ธนบดีภัทร ตัวแทนของนักศึกษากลุ่มนี้และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท รีฟินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ดอท คอม จำกัด ได้กล่าวว่าคนไทยมีหนี้สินเป็นอันดับต้นๆ ของโลก คนไทยที่อายุเกิน 60 ปี ยังมีไม่ถึงร้อยละ 10 ที่มีเงินเก็บเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตด้วยตนเอง Refinn เป็นโปรเจคที่เกิดขึ้นจากแนวคิดที่อยากจะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินของคนไทย ซึ่งโดยส่วนมากจะประกอบไปด้วยหนี้ 3 ประเภท คือ หนี้ที่อยู่อาศัย หนี้รถยนต์ และหนี้บัตรเครดิต โดยในปีนี้จะเริ่มต้นที่หนี้ที่อยู่อาศัยก่อนเพราะใช้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานหลาย 10 ปี ทำให้ต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยเป็นเงินอีกเท่าตัวของราคาที่อยู่อาศัย
"คนที่เป็นหนี้บ้านไม่ใช่คนไม่มีวินัยทางการเงิน ใครก็เป็นหนี้บ้านได้ แต่ยิ่งผ่อนนานเงินที่ต้องจ่ายก็ยิ่งทวีคูณเป็นเท่าตัวของราคาบ้าน Refinn จึงจะช่วยให้คนที่เป็นหนี้บ้านปลดหนี้ได้เร็วขึ้น โดยการเข้าถึงการรีไฟแนนซ์บ้านได้ง่ายขึ้น ปัญหาทุกวันนี้คือคนไม่รู้ว่ารีไฟแนนซ์ดีอย่างไร สมมติว่าคุณผ่อนบ้าน 30 ปี ผ่อนไปซัก 3 ปีแล้ว การรีไฟแนนซ์จะช่วยลดเวลาการผ่อนชำระให้เหลือเพียง 18-19 ปีได้ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของดอกเบี้ยได้เป็นหลักล้านบาท เพื่อนำเงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารเปลี่ยนมาเป็นเงินที่เราประหยัดได้และไปใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ที่จำเป็นของชีวิตแทน แต่ธนาคารในประเทศไทยมีเกือบ 20 แห่ง คนส่วนมากจึงมักจะเลือกแต่ธนาคารที่ตนรู้จักเท่านั้น ซึ่งเว็บไซต์ Refinn เป็นพันธมิตรกับธนาคารที่จะให้คำแนะนำคุณได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาทีผ่านระบบของเว็บไซต์ที่เราพัฒนาขึ้น"
นายพงศธร กล่าวต่อว่า Refinn ให้บริการฟรีโดยไม่เก็บค่าบริการใดๆ จากผู้ใช้งาน เพราะ Refinn เป็นพันธมิตรกับธนาคารอยู่แล้ว ทุกคนที่ผ่อนบ้านอยู่สามารถเข้ามาใช้บริการได้ที่ www.refinn.com ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์เพื่อลองคำนวณ ดูว่าบ้านของคุณสามารถประหยัดเงินได้เท่าไหร่ ที่ Refinn ก่อนได้ แล้วหากสนใจจะรีไฟแนนซ์ก็สามารถกดสมัครและส่งข้อมูลไปให้กับธนาคารที่สนใจ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ ติดต่อกลับไปเพื่อรับเอกสารจากท่าน โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเวลาในการเดินเรื่องทั้งหมดเองทุกขั้นตอน เพียงเท่านี้การรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัยของท่านก็เสร็จสมบูรณ์
"แน่นอนว่าการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือเปิดเผยข้อมูลใดๆ ผ่านระบบออนไลน์ ผู้ใช้ต้องมีความเชื่อมั่นในระดับหนึ่งว่ามีความปลอดภัย เราได้พัฒนาระบบเว็บไซต์ขึ้นมาโดยเว็บไซต์ Refinn ใช้ระบบ security ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยเดียวกับการเข้ารหัสต่างๆ บนเว็บไซต์ธนาคารชั้นนำของโลก คือมาตรฐาน ISO 27001 ผู้ใช้บริการจึงสามารถมั่นใจได้ว่าการใช้งานบนเว็บไซต์ Refinn นั้นมีความปลอดภัยสูงแน่นอน"
นายพงศธร ยังได้กล่าวทิ้งท้ายอีกด้วยว่าเว็บไซต์ Refinn ได้เปิดให้ใช้บริการอย่างไม่เป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมียอดเงินการรีไฟแนนซ์แล้วกว่า 700 ล้านบาท แต่กว่าเว็บไซต์ Refinn จะสมบูรณ์แบบพร้อมใช้อย่างในปัจจุบันนี้ ได้ผ่านการพัฒนาและปรับแก้มาแล้ว หลายครั้งเพื่อให้มั่นใจเรื่องของข้อมูลและความปลอดภัยอย่างสูงสุด
"เรามีข้อได้เปรียบในการทำงาน เพราะที่มหาวิทยาลัยสอนให้เราเรียนรู้จากปัญหาและความผิดพลาดมาโดยตลอด นี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้เราอดทนและมุ่งมั่นจนเกิดเป็นระบบเว็บไซต์ Refinn ได้สำเร็จ การทำบริษัท Refinn ก็เช่นกัน พวกเราเรียนวิศวะแต่มาเริ่มทำธุรกิจสตาร์ทอัพเราก็ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองกันตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ดีการทำสตาร์ทอัพใครๆ ก็ทำได้แต่สิ่งสำคัญ อย่างหนึ่งคือการมีที่ปรึกษาที่ดีโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเงินและธนาคารถือเป็นเรื่องซับซ้อนที่พวกเราต้องเรียนรู้"
ปัจจุบัน Refinn ได้รับเกียรติจากคุณกรณ์ จาติกวณิช ในฐานะที่ปรึกษาและเป็นนักลงทุนคนแรก ซึ่ง ในอนาคต Refinn จะเปิดให้บริการในการรีไฟแนนซ์หนี้สินของคนไทยในอีก 2 ประเภท คือ หนี้รถยนต์ และหนี้บัตรเครดิตต่อไป
คณบดี GMI เข้าร่วมประชุม UIIN 2025 ณ เยอรมนี แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระดับโลก ขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่บทบาทใหม่
มจธ. สวทช. พร้อมพันธมิตร เดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังสู่ความยั่งยืน ผนึกความร่วมมือระดับโลกผ่านเวที Global Cassava Sustainability Forum 2025
GMI จัดงาน Open House 2025 ครั้งที่ 3
มจธ.ขอเชิญส่งบทความเข้าร่วมงานประชุมวิชาการความรู้และการวิจัยเพื่อสังคมที่เท่าเทียม : KRIS2025
อินฟอร์มาร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดการประชุมนานาชาติ "Future Move Forum"
National ITMX จับมือพันธมิตรชั้นนำ เปิดเวที Hackathon "Hack to the Max Season 2" ผลักดันคนรุ่นใหม่ ปั้นไอเดียพลิกโฉมอนาคตการเงินไทย
GMI เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ในงาน Project Day 2025 พร้อมร่วมให้กำลังใจโครงการพัฒนาร่วม
สมาคมไทยโลจิสติกส์การผลิต ร่วมหารือความร่วมมือกับ GMI พัฒนาหลักสูตรอบรมและวิจัยตอบโจทย์อุตสาหกรรม