สภาวะตลาดวันที่ 30 พฤษภาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,200.15-1,213.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM16 อยู่ที่ 20,530 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 160 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,690 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.03 น.ของวันที่ 30/05/16)
แนวโน้มวันที่ 31 พฤษภาคม 2559
นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้ โดยกล่าวในพิธีรับมอบรางวัล Radcliffe Award จากสถาบันแรดคลิฟสำหรับการศึกษาขั้นก้าวหน้า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในวันศุกร์ที่ผ่านมา บ่งชี้ว่าเฟดควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าหากเศรษฐกิจยังคงปรับตัวดีขึ้นตามคาด และการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งจะหนุนแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมนี้ ถ้อยแถลงของนางเยลเลนก็สอดคล้องกับ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาที่กล่าวว่า เฟดกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาทองคำปิดตลาดอ่อนตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่ราคาทองคำในช่วงเช้าวันจันทร์นี้อ่อนตัวลงสร้างระดับต่ำสุดครั้งใหม่จากสัปดาห์ก่อนหน้า จนลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อค่อนข้างจำกัดและแรงขายอยู่ในระดับสูง เมื่อดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับขึ้นต่อไปจนสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวในช่วงเช้าวันจันทร์นี้ตลาดทั่วโลกมีความพร้อมเป็นอย่างดีสำหรับความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจมากเกินไป และนโยบายของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ที่พยายามจะทำให้อัตราดอกเบี้ยกลับเข้าสู่ระดับปกติอย่างเชื่องช้า และอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปัจจัยดังกล่าวซึ่งได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำ และหากราคาทองคำดิ่งลงหลุดแนวรับจิตวิทยาที่ระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำตลาดโลกยังมีแนวโน้มอ่อนตัวทดสอบแนวรับในโซน 1,192-1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ แนะนำติดตาตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงนี้ โดยการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นยังคงช่วยพยุงราคาทองคำในประเทศไว้
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,216-1,224 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวขึ้นระยะสั้นเท่านั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,200-1,192 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,192 (20,160บาท) 1,185 (20,040บาท) 1,173 (19,830บาท)
แนวต้าน 1,216 (20,560บาท) 1,224 (20,700บาท) 1,233 (20,850บาท)
GOLD FUTURES (GFM16)
แนวรับ 1,192 (20,310บาท) 1,185 (20,190บาท) 1,173 (19,980บาท)
แนวต้าน 1,216 (20,720บาท) 1,224 (20,850บาท) 1,233 (21,010บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999
สภาวะตลาดวันที่ 04 ตุลาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,271.10-1,278.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,200 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV17 อยู่ที่ 20,260 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,230 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.34น. ของวันที่ 04/10/60) แนวโน้มวันที่ 05 ตุลาคม 2560 นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)