บริษัท วิค แอนด์ ฮุคลันด์ จำกัด (มหาชน) หรือ WiiK ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 1/2560 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 30.24 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสที่ 1/2559 ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 31.04 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ในไตรมาสนี้จำนวน 5.59 ล้านบาท ซึ่งหากพิจารณากำไรสุทธิก่อนภาษีเงินได้ ในไตรมาสที่ 1/2560 มีกำไรสุทธิก่อนภาษีเงินได้ จำนวน 35.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1/2559 จำนวน 4.75ล้านบาท คิดเป็น 15.28 %
โดยรายได้จากการขายและบริการในไตรมาสที่ 1/2560 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1/2559 จำนวน 8.91 ล้านบาท หรือคิดเป็น3.06% รายได้อื่นๆ ในไตรมาสที่ 1/2560 ลดลงจำนวน 0.78 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาสที่ 1/2560เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1/2559 จำนวน 2.55 ล้านบาท มีสาเหตุจากผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดจากการแปลงค่าเงินสดคงเหลือที่ถือในรูปของเงินตราต่างประเทศ และมีค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกิดตามธุรกรรมของบริษัทฯ เป็นครั้งคราว ส่วนค่าใช้จ่ายทางการเงินในไตรมาสที่1/2560 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1/2559 จำนวน 0.39 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากเงินกู้ยืมระยะยาวสำหรับโครงการบริหารจัดการน้ำ และการบริหารต้นทุนการเงินของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้ได้ต่ำกว่าไตรมาส 1/2559 ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ในไตรมาสที่ 1/2560 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1/2559 จำนวน 5.55 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีตามมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 12 ที่บริษัทฯนำขาดทุนสะสมมาใช้หักล้างจากกำไรในไตรมาสนี้
ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 บริษัทฯ มีปริมาณงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) คือกลุ่มธุรกิจท่อและข้อต่อพลาสติกพอลิเอทิลีน จำนวน 678.37 ลบ. และ กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการน้ำ (สำหรับปี 2560) จำนวน 67.53 ลบ.
โดยรายได้จากการขายและบริการในไตรมาสที่ 1/2560 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1/2559 จำนวน 8.91 ล้านบาท หรือคิดเป็น3.06% รายได้อื่นๆ ในไตรมาสที่ 1/2560 ลดลงจำนวน 0.78 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาสที่ 1/2560เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1/2559 จำนวน 2.55 ล้านบาท มีสาเหตุจากผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดจากการแปลงค่าเงินสดคงเหลือที่ถือในรูปของเงินตราต่างประเทศ และมีค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกิดตามธุรกรรมของบริษัทฯ เป็นครั้งคราว ส่วนค่าใช้จ่ายทางการเงินในไตรมาสที่1/2560 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1/2559 จำนวน 0.39 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากเงินกู้ยืมระยะยาวสำหรับโครงการบริหารจัดการน้ำ และการบริหารต้นทุนการเงินของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้ได้ต่ำกว่าไตรมาส 1/2559 ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ในไตรมาสที่ 1/2560 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1/2559 จำนวน 5.55 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีตามมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 12 ที่บริษัทฯนำขาดทุนสะสมมาใช้หักล้างจากกำไรในไตรมาสนี้
ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 บริษัทฯ มีปริมาณงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) คือกลุ่มธุรกิจท่อและข้อต่อพลาสติกพอลิเอทิลีน จำนวน 678.37 ลบ. และ กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการน้ำ (สำหรับปี 2560) จำนวน 67.53 ลบ.
เอ็ม บี เค คว้าคะแนนการประเมิน CGR ระดับ "ดีเลิศ" ต่อเนื่องปีที่ 10
กลุ่มบริษัท "เสนา" ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน "SET ESG Ratings ระดับ A"
"โนเบิล" คว้าเรตติ้งสูงสุด AAA ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จาก SET ESG Ratings 2025
TASCO คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับ "AA"
JMART - JMT ยืน SET100 ครึ่งแรกปี 2569 พร้อมตอกย้ำศักยภาพ ESG กลุ่มเจมาร์ทยกระดับคะแนนความยั่งยืน
MSC ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ประจำปี 2568
WINMED ลุย! ให้บริการนวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อคนไทย
SO คว้า SET ESG Ratings ปี 68 ระดับ "BBB" พร้อมมุ่งมั่นสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน
TBN เดินหน้าธุรกิจตามหลัก ESG คว้า SET ESG Ratings ระดับ "A" ประจำปี 2568 ตอกย้ำผู้นำดิจิทัลโซลูชันที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน