นายปริญญา เพ็งสมบัติ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน แถลงข่าวโครงการการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่เข้าสู่วาระการประชุม คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 ณ ทำเนียบรัฐบาล ว่า การบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยได้มีการประชุมพิจารณาอย่างรอบคอบหลายครั้ง และมติที่เกี่ยวข้องตามลำดับ ดังนี้ การประชุม กนช. ครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2559 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการดำเนินการศึกษาระบบระบายน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และมอบหมายให้กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ทบทวนความจำเป็นของโครงการคลองผันน้ำร่วมกับถนนวงแหวนรอบ 3 ในทางเทคนิคต่อเนื่องจากผลการศึกษาเดิมของ JICA มติ ครม. และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการแผนการบริหารจัดการน้ำและแผนการระบายน้ำ ตามที่กรมชลประทานเสนอ จำนวน 9 แผนงาน
การประชุม กนช. ครั้งที่ 4/2559 เมื่อวันที่ 23พฤศจิกายน 2559 ที่ประชุมมีมติรับทราบตามที่กรมชลประทานเสนอความก้าวหน้าแผนการบริหารจัดการน้ำและแผนการระบายน้ำเจ้าพระยา และมีมติให้ฝ่ายเลขานุการ กนช. เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการแผนงาน หากดำเนินการโครงการขนาดใหญ่ไม่ได้ ก็ปรับเป็นโครงการย่อยดำเนินการไปก่อน การประชุม ครม. และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย พิจารณากำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพิ่มเติม โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันตกและพื้นที่ฝั่งตะวันออกของบริเวณลุ่มน้ำดังกล่าว
สำหรับการประชุมครั้งล่าสุด ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 กรมชลประทานได้เสนอขอความเห็นชอบในหลักการของกรอบแผนงานการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 9 แผนงาน ซึ่งมี 7 แผนงาน ที่มีผลศึกษาชัดเจน กรอบวงเงิน 228,100 ล้านบาท ได้แก่ (1)โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง (2)โครงการคลองระบายน้ำหลากเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก (3)โครงการปรับปรุงโครงข่ายระบบชลประทานฝั่งตะวันตก (4)โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา (5)โครงการบริหารจัดการพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ (6)โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร และ(7)โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำท่าจีน ส่วนอีก 2 ได้แก่ (1)โครงการคลองระบายน้ำควบคู่กับถนนวงแหวนรอบที่ 3 และ(2)โครงการพื้นที่รับน้ำนอง แผนงานอยู่ในระหว่างการศึกษาความเหมาะสม และวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งยังไม่มีวงเงินปรากฏ ทั้งนี้ กนช. เห็นชอบในหลักการตามที่กรมชลประทานเสนอ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นโครงการสำคัญขนาดใหญ่ทั้ง 9 แผนงาน และมีวงเงินลงทุนสูง เพื่อความรอบคอบและชัดเจน จึงได้สั่งการให้นำไปจัดลำดับความสำคัญ ระยะเร่งด่วน และระยะยาว และจัดทำรายละเอียดของแผนงานทั้ง 9 แผนงาน โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติ และมิได้มีการสั่งเบรกโครงการแต่อย่างใด พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการ พิจารณาโครงการที่พร้อมดำเนินการเร่งด่วน โดยเฉพาะโครงการที่สามารถก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน30 ธันวาคม 2560 เพื่อเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ก่อนเสนอ ครม. เห็นชอบ ต่อไป
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้เชิญหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือในรายละเอียดของเป้าหมาย และองค์ประกอบ ของแผนงานทั้ง 9 แผนงาน พร้อมกับจัดทำแผนปฏิบัติการให้ชัดเจน ณ ห้องประชุมกรมชลประทาน ร่วมกับ กรมทรัพยากรน้ำ กรมเจ้าท่า กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 ทั้งนี้ ในวันนี้ (15 พ.ค. 60) ฝ่ายเลขานุการฯ กนช. ได้เชิญทุกหน่วยงานประชุมหาข้อสรุปเพื่อยืนยันและปรับแผนงานเร่งด่วน
การประชุม กนช. ครั้งที่ 4/2559 เมื่อวันที่ 23พฤศจิกายน 2559 ที่ประชุมมีมติรับทราบตามที่กรมชลประทานเสนอความก้าวหน้าแผนการบริหารจัดการน้ำและแผนการระบายน้ำเจ้าพระยา และมีมติให้ฝ่ายเลขานุการ กนช. เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการแผนงาน หากดำเนินการโครงการขนาดใหญ่ไม่ได้ ก็ปรับเป็นโครงการย่อยดำเนินการไปก่อน การประชุม ครม. และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย พิจารณากำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพิ่มเติม โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันตกและพื้นที่ฝั่งตะวันออกของบริเวณลุ่มน้ำดังกล่าว
สำหรับการประชุมครั้งล่าสุด ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 กรมชลประทานได้เสนอขอความเห็นชอบในหลักการของกรอบแผนงานการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 9 แผนงาน ซึ่งมี 7 แผนงาน ที่มีผลศึกษาชัดเจน กรอบวงเงิน 228,100 ล้านบาท ได้แก่ (1)โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง (2)โครงการคลองระบายน้ำหลากเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก (3)โครงการปรับปรุงโครงข่ายระบบชลประทานฝั่งตะวันตก (4)โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา (5)โครงการบริหารจัดการพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ (6)โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร และ(7)โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำท่าจีน ส่วนอีก 2 ได้แก่ (1)โครงการคลองระบายน้ำควบคู่กับถนนวงแหวนรอบที่ 3 และ(2)โครงการพื้นที่รับน้ำนอง แผนงานอยู่ในระหว่างการศึกษาความเหมาะสม และวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งยังไม่มีวงเงินปรากฏ ทั้งนี้ กนช. เห็นชอบในหลักการตามที่กรมชลประทานเสนอ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นโครงการสำคัญขนาดใหญ่ทั้ง 9 แผนงาน และมีวงเงินลงทุนสูง เพื่อความรอบคอบและชัดเจน จึงได้สั่งการให้นำไปจัดลำดับความสำคัญ ระยะเร่งด่วน และระยะยาว และจัดทำรายละเอียดของแผนงานทั้ง 9 แผนงาน โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติ และมิได้มีการสั่งเบรกโครงการแต่อย่างใด พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการ พิจารณาโครงการที่พร้อมดำเนินการเร่งด่วน โดยเฉพาะโครงการที่สามารถก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน30 ธันวาคม 2560 เพื่อเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ก่อนเสนอ ครม. เห็นชอบ ต่อไป
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้เชิญหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือในรายละเอียดของเป้าหมาย และองค์ประกอบ ของแผนงานทั้ง 9 แผนงาน พร้อมกับจัดทำแผนปฏิบัติการให้ชัดเจน ณ ห้องประชุมกรมชลประทาน ร่วมกับ กรมทรัพยากรน้ำ กรมเจ้าท่า กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 ทั้งนี้ ในวันนี้ (15 พ.ค. 60) ฝ่ายเลขานุการฯ กนช. ได้เชิญทุกหน่วยงานประชุมหาข้อสรุปเพื่อยืนยันและปรับแผนงานเร่งด่วน
"รมช.นเรศ" ลงพื้นที่เวียงป่าเป้า ตรวจแผนฟื้นฟูพื้นที่เกษตรเสียหายจากพายุยางิ
ต้นแบบแปลงใหญ่ 'ตะไคร้บ้านวงฆ้อง' จ.กำแพงเพชร รวมกลุ่มผลิตมาตรฐาน GAP สร้างรายได้ หนุนเศรษฐกิจชุมชน
เลขาธิการ สศก. เตรียมนำทีม ลุย Crop Cutting ภาคสนามเพชรบูรณ์ 27 ตุลาคมนี้ ลงพื้นที่แปลงข้าวโพดเกษตรกร ยกระดับข้อมูลแม่นยำพืชเศรษฐกิจของประเทศ
กยท. ร่วมมหกรรมเกษตรในร่มที่ใหญ่ที่สุดในไทย "FARM EXPO 2025" จัดเต็ม !! เนรมิตพื้นที่แสดงผลงาน ชู "ขับเคลื่อนนวัตกรรม ยางพาราไทย สู่โลกอนาคต
'โตโยต้า ฟาร์มเอ็กซ์โป' สร้างปรากฏการณ์คนล้นหลาม ร่วมชมมหกรรมเกษตรแห่งอนาคตที่ใหญ่ที่สุดในไทย ยกระดับเกษตรไทยสู่เวทีโลก ผสานนวัตกรรม-เทคโนโลยี สร้างฐานรากเศรษฐกิจไทยยั่งยืน
สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน
โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม
"รมว.อรรถกร"นำ กระทรวงเกษตรฯ ผนึกกำลังภาคเอกชน พัฒนา 'จุลสาหร่าย' สู่พลังงานสะอาด-นวัตกรรมอาหารสัตว์ ยกระดับทรัพยากรชีวภาพ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี สรุปผลการดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี 2568 ในพื้นที่ 8 จังหวัด 6 ศูนย์ปฏิบัติการ ภาคตะวันตก