บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีรายได้รวมจากการดำเนินงานไตรมาสแรกในปี 2560 เพิ่มขึ้น 10.94% หรือ 22.36 ล้านบาท จาก 204.46 ล้านบาทในไตรมาสแรกปี 2558 เป็น 226.82 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2560 เท่ากับ 25.71 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลงจากไตรมาส 1/2559 27.27% หรือ 9.64 ล้านบาท ด้วยต้นทุนรวมที่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการบริการเพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากการได้รับสัญญาจ้างเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ มั่นใจเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ปีนี้ผลประกอบการรวมจะเป็นไปตามเป้าหมายที่จะเติบโตทั้งในธุรกิจขนส่งและธุรกิจใหม่ในกลุ่ม KIAT
นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ผู้นำด้านการให้บริการการขนส่งวัตถุอันตราย และสินค้าพิเศษในประเทศไทย เปิดเผยว่าจากภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ประกอบกับการเปิดตลาด AEC ทำให้ภาคการขนส่งวัตถุอันตราย สารเคมี และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง มีความต้องการด้านการขนส่งเพิ่มขึ้น ในขณะที่การแข่งขันเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องจากตลาดการแข่งขันเสรีที่มีผู้เล่นเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด
"ในส่วนของ KIAT การแข่งขันยังถือว่าอยู่ในกรอบที่ไม่สูงมาก เพราะ KIAT เป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง ทำให้ผลดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้มีรายได้ปรับเพิ่มขึ้น 10.94% หรือ เพิ่มขึ้น 22.36 ล้านบาท เป็นรายได้รวม 226.82 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ตามเป้าหมาย โดยในปี 2560 เราตั้งเป้าหมายเติบโตรวม 10%" นายคีรินทร์ กล่าว
ในไตรมาสแรกของปี 2560 นี้ จากการที่ KIAT มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการได้รับสัญญาจ้างบริการขนส่งใหม่ อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการบริการเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มจำนวนพนักงาน ยานพาหนะ เป็นต้น ประกอบกับในไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีการบันทึกกลับรายการประมาณการขาดทุนตามสัญญารับจ้างจำนวน 5.12 ล้านบาท ส่งผลให้ต้นทุนร่วมต่ำกว่าต้นทุนดำเนินงานจริง ทำให้ต้นทุนรวมในไตรมาส 1/2560 เพิ่มขึ้นเป็น 157.56 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.41% จากไตรมาส 1/2559 ทั้งนี้ กำไรสุทธิในไตรมาส 1/2560 เท่ากับ 25.71 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิลดลง 27.27% หรือ 9.64 ล้านบาทจากไตรมาส 1/2559
นายคีรินทร์ กล่าวว่า ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา KIAT มีกำไรสุทธิลดลงจากต้นทุนการบริการที่เพิ่มขึ้น เรามั่นใจว่าจะยังคงสามารถควบคุมต้นทุนให้อยู่จุดที่เหมาะสม นอกจากนี้ KIAT ยังมีแผนในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจใหม่ นอกเหนือจากการเติบโตจากธุรกิจขนส่ง ล่าสุด KIAT ได้ก่อตั้ง บริษัท เคจีพี จำกัด บริษัทใหม่ในกลุ่ม KIAT เพื่อเป็นผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นความปลอดภัยและการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการขับขี่ของผู้ขับขี่รถบรรทุกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยได้แนะนำระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เป็นการนำร่องในธุรกิจขับขี่ปลอดภัยซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของ KIAT
"ประเด็นนี้ เราได้เล็งเห็นมานานแล้ว เราจึงพยายามนำมาตรการ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งสามารถทำได้ ตอนนี้เราได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ช่วยแก้ไขปัญหาการหลับในและการละสายตาจากการขับขี่ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ของภาคการขนส่ง ทั้งสินค้าและการเดินทางของประชาชนได้เป็นอย่างดี" นายคีรินทร์ กล่าว
ทางด้าน นายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคจีพี จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า นับจากการเปิดตลาดเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อ KIAT โดยตรงเพราะเป็นการขยายผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทแม่ไปยังเครือข่าย และที่สำคัญเป็นสินค้าที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเนื่องจากนโยบายภาครัฐและกระแสสังคมที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของ KIAT ที่ขนส่งสินค้าประเภทวัตถุอันตรายที่ต้องการความปลอดภัยสูง
การนำระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ จาก Guardian System มาใช้นี้ นับเป็นการมีส่วนสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการรณรงค์เรื่องความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานธุรกิจการขนส่งในประเทศสู่ระดับสากล นายเมฆ กล่าว
นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ผู้นำด้านการให้บริการการขนส่งวัตถุอันตราย และสินค้าพิเศษในประเทศไทย เปิดเผยว่าจากภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ประกอบกับการเปิดตลาด AEC ทำให้ภาคการขนส่งวัตถุอันตราย สารเคมี และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง มีความต้องการด้านการขนส่งเพิ่มขึ้น ในขณะที่การแข่งขันเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องจากตลาดการแข่งขันเสรีที่มีผู้เล่นเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด
"ในส่วนของ KIAT การแข่งขันยังถือว่าอยู่ในกรอบที่ไม่สูงมาก เพราะ KIAT เป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง ทำให้ผลดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้มีรายได้ปรับเพิ่มขึ้น 10.94% หรือ เพิ่มขึ้น 22.36 ล้านบาท เป็นรายได้รวม 226.82 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ตามเป้าหมาย โดยในปี 2560 เราตั้งเป้าหมายเติบโตรวม 10%" นายคีรินทร์ กล่าว
ในไตรมาสแรกของปี 2560 นี้ จากการที่ KIAT มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการได้รับสัญญาจ้างบริการขนส่งใหม่ อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการบริการเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มจำนวนพนักงาน ยานพาหนะ เป็นต้น ประกอบกับในไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีการบันทึกกลับรายการประมาณการขาดทุนตามสัญญารับจ้างจำนวน 5.12 ล้านบาท ส่งผลให้ต้นทุนร่วมต่ำกว่าต้นทุนดำเนินงานจริง ทำให้ต้นทุนรวมในไตรมาส 1/2560 เพิ่มขึ้นเป็น 157.56 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.41% จากไตรมาส 1/2559 ทั้งนี้ กำไรสุทธิในไตรมาส 1/2560 เท่ากับ 25.71 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิลดลง 27.27% หรือ 9.64 ล้านบาทจากไตรมาส 1/2559
นายคีรินทร์ กล่าวว่า ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา KIAT มีกำไรสุทธิลดลงจากต้นทุนการบริการที่เพิ่มขึ้น เรามั่นใจว่าจะยังคงสามารถควบคุมต้นทุนให้อยู่จุดที่เหมาะสม นอกจากนี้ KIAT ยังมีแผนในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจใหม่ นอกเหนือจากการเติบโตจากธุรกิจขนส่ง ล่าสุด KIAT ได้ก่อตั้ง บริษัท เคจีพี จำกัด บริษัทใหม่ในกลุ่ม KIAT เพื่อเป็นผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นความปลอดภัยและการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการขับขี่ของผู้ขับขี่รถบรรทุกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยได้แนะนำระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เป็นการนำร่องในธุรกิจขับขี่ปลอดภัยซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของ KIAT
"ประเด็นนี้ เราได้เล็งเห็นมานานแล้ว เราจึงพยายามนำมาตรการ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งสามารถทำได้ ตอนนี้เราได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ช่วยแก้ไขปัญหาการหลับในและการละสายตาจากการขับขี่ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ของภาคการขนส่ง ทั้งสินค้าและการเดินทางของประชาชนได้เป็นอย่างดี" นายคีรินทร์ กล่าว
ทางด้าน นายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคจีพี จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า นับจากการเปิดตลาดเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อ KIAT โดยตรงเพราะเป็นการขยายผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทแม่ไปยังเครือข่าย และที่สำคัญเป็นสินค้าที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเนื่องจากนโยบายภาครัฐและกระแสสังคมที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของ KIAT ที่ขนส่งสินค้าประเภทวัตถุอันตรายที่ต้องการความปลอดภัยสูง
การนำระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ จาก Guardian System มาใช้นี้ นับเป็นการมีส่วนสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการรณรงค์เรื่องความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานธุรกิจการขนส่งในประเทศสู่ระดับสากล นายเมฆ กล่าว
IDG เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่งเหนือจอง 80%
SYNEX ได้รับประเมินหุ้นยั่งยืน (SET ESG Ratings) ในระดับ AA ติด 1 ใน 80 บริษัทที่ได้รับการจัดอันดับเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน สะท้อนการดำเนินธุรกิจยั่งยืน ด้วยธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่ง
DMT มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG คว้า SET ESG Ratings ระดับ "AA" 2 ปีซ้อน
ธนาคารไทยเครดิต คว้า SET ESG Ratings ประจำปี 2568 ระดับ "A" ตอกย้ำถึงการเป็น "ธนาคารเพื่อความยั่งยืน"
TGE คว้าเรตติ้ง ESG ระดับ A จาก SET ปี 2568 ตอกย้ำผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดที่เติบโตอย่างยั่งยืน
เอ็ม บี เค คว้าคะแนนการประเมิน CGR ระดับ "ดีเลิศ" ต่อเนื่องปีที่ 10
กลุ่มบริษัท "เสนา" ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน "SET ESG Ratings ระดับ A"
"โนเบิล" คว้าเรตติ้งสูงสุด AAA ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จาก SET ESG Ratings 2025
JMART - JMT ยืน SET100 ครึ่งแรกปี 2569 พร้อมตอกย้ำศักยภาพ ESG กลุ่มเจมาร์ทยกระดับคะแนนความยั่งยืน