คณะผู้บริหารเอสวีแอล กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร ต้อนรับ นาย.พิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะฯ ในโอกาสเยี่ยมชมธุรกิจโลจิสติกส์ SVL Group และธุรกิจเหล็กรีดร้อน บมจ.สหวิริยาสตีล อินดัสตรี พร้อมประชุมหารือแนวทางการพัฒนาศักยภาพท่าเรือน้ำลึกประจวบ เพื่อเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) และเชื่อมไปยังเมืองมะริด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
นายถาวร คณานับ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด บริษัทในกลุ่มเอสวีแอล (SVL Group) ธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร ในเครือสหวิริยา พร้อมคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะข้าราชการกระทรวงฯ โดยเดินทางเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน บริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) และการดำเนินงานของท่าเรือประจวบ พร้อมด้วยรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินธุรกิจท่าเรือน้ำลึก และการขนส่งสินค้าผ่านท่าฯ และรถบรรทุกสินค้า ภายใต้เอสวีแอล กรุ๊ป
โดยนายถาวร คณานับ ให้รายละเอียดว่า "ในโอกาสที่ท่าเรือประจวบ อ.บางสะพาน ได้ต้อนรับท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะฯ พร้อมกับได้นำเสนอการดำเนินงานธุรกิจ ศักยภาพของท่าเรือประจวบ ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกตามธรรมชาติ รองรับการขนถ่ายสินค้าได้ปีละกว่า 10 ล้านตัน เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่จะเชื่อมโยงโลจิสติกส์สู่ EEC และเมืองมะริด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รวมถึงการขนส่งทางบกด้วยรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ทำให้เกิดเป็นโลจิสติกส์ฮับ โดยมีนิคมฯ โลจิสติกส์ บางสะพาน เป็นตัวขับเคลื่อน และโครงการในอนาคตที่จะตามมาเช่น โครงการตัดถนนเส้นใหม่สำหรับการขนส่งสินค้า การขนส่งสินค้าทางเรือ Ro-Ro (Roll-on/Roll-off) รวมทั้งเส้นทางรถไฟ เป็นต้น"
"ซึ่งท่านรัฐมนตรีฯ ได้ให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในด้านศักยภาพของท่าเรือประจวบ อ.บางสะพาน ว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมในการเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์กับภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการพัฒนาเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะมีปริมาณการขนถ่ายสินค้าจากกลุ่ม EEC มายังภาคใต้มากขึ้น หรือขนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา โดยท่าเรือประจวบมีศักยภาพ และเป็นจุดที่เหมาะสม เป็นศูนย์กลางการขนส่ง และการเชื่อมโยงธุรกิจโลจิสติกส์กับภูมิภาคอื่นๆ" นายถาวร คณานับ กล่าว
นายถาวร คณานับ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด บริษัทในกลุ่มเอสวีแอล (SVL Group) ธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร ในเครือสหวิริยา พร้อมคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะข้าราชการกระทรวงฯ โดยเดินทางเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน บริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) และการดำเนินงานของท่าเรือประจวบ พร้อมด้วยรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินธุรกิจท่าเรือน้ำลึก และการขนส่งสินค้าผ่านท่าฯ และรถบรรทุกสินค้า ภายใต้เอสวีแอล กรุ๊ป
โดยนายถาวร คณานับ ให้รายละเอียดว่า "ในโอกาสที่ท่าเรือประจวบ อ.บางสะพาน ได้ต้อนรับท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะฯ พร้อมกับได้นำเสนอการดำเนินงานธุรกิจ ศักยภาพของท่าเรือประจวบ ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกตามธรรมชาติ รองรับการขนถ่ายสินค้าได้ปีละกว่า 10 ล้านตัน เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่จะเชื่อมโยงโลจิสติกส์สู่ EEC และเมืองมะริด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รวมถึงการขนส่งทางบกด้วยรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ทำให้เกิดเป็นโลจิสติกส์ฮับ โดยมีนิคมฯ โลจิสติกส์ บางสะพาน เป็นตัวขับเคลื่อน และโครงการในอนาคตที่จะตามมาเช่น โครงการตัดถนนเส้นใหม่สำหรับการขนส่งสินค้า การขนส่งสินค้าทางเรือ Ro-Ro (Roll-on/Roll-off) รวมทั้งเส้นทางรถไฟ เป็นต้น"
"ซึ่งท่านรัฐมนตรีฯ ได้ให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในด้านศักยภาพของท่าเรือประจวบ อ.บางสะพาน ว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมในการเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์กับภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการพัฒนาเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะมีปริมาณการขนถ่ายสินค้าจากกลุ่ม EEC มายังภาคใต้มากขึ้น หรือขนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา โดยท่าเรือประจวบมีศักยภาพ และเป็นจุดที่เหมาะสม เป็นศูนย์กลางการขนส่ง และการเชื่อมโยงธุรกิจโลจิสติกส์กับภูมิภาคอื่นๆ" นายถาวร คณานับ กล่าว
CCP เผยผลประกอบการ 9 เดือนปี 68 กำไรโต 20% ส่ง Green Precast ลุยตลาด หนุนการเติบโตธุรกิจ
MENA โชว์ผลงาน 9 เดือนปี 68 กำไรทะลุ 45 ลบ. ธุรกิจโลจิสติกส์-ส่วนแบ่ง TDM ซัพพอร์ตเต็มสูบ
'ทริพเพิล ไอ' โชว์ผลงาน Q3/68 กำไรสุทธิ 101.2 ล้านบาท เติบโต 37.6% จากไตรมาสก่อน เดินหน้าต่อยอดธุรกิจหลัก พร้อมเข้าสู่ไตรมาส 4 รับปัจจัยบวก High Season
เอสวีแอล โลจิสติกส์ เดินหน้ารุกงานขากลับ ช่วยลูกค้าลดต้นทุน พร้อมเสริมศักยภาพการขนส่งครบวงจร
เอสวีแอลกรุ๊ป ร่วมขับเคลื่อนงานพัฒนาขนส่งสินค้า ผ่านคณะกรรมการประชารัฐพัฒนาชุมชนขนส่งบางสะพาน
LEO เข้าร่วมโครงการ "JUMP+" ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เสริมศักยภาพแข่งขันเวทีระดับประเทศและภูมิภาค ยกระดับธรรมาภิบาล หนุนเติบโตยั่งยืน