Aristo Aroma ผนึกกำลังผู้นำการสร้างกลิ่นหอมระดับโลก เปิดสัมผัสใหม่แบบ 2 in 1 แคร์ทุกลมหายใจด้วยกลิ่นหอมพร้อมอากาศบริสุทธิ์ ชูเทคโนโลยีเหนือคู่แข่งด้วย Anti-Microbiol Technology มาตรฐานสิงคโปร์ ผลสำรวจระบุ กลยุทธ์ Scent Marketing สร้างแบรนด์ด้วยกลิ่นกระตุ้นการซื้อได้ถึง 20% เผยสายการบินแถวหน้าให้ความสนใจแล้ว พร้อมเดินสายโรดโชว์งานแสดงสินค้า และผุดสาขาหัวเมืองใหญ่ คาดยอดขายโตเท่าตัว
จากรายงานขององค์การอนามัยโลกระบุว่า อาคารต่างๆ ถึงร้อยละ 30 ไม่ถูกสุขลักษณะ เพราะทุกครั้งที่ผู้คนเดินทางออกไปยังที่ต่างๆ มลพิษได้เกาะติดร่างกายและเสื้อผ้า เป็นพาหะนำสิ่งปนเปื้อนกลับเข้ามา คุณภาพอากาศในอาคารจึงมีความสำคัญมากต่อความเป็นอยู่ของชีวิตมนุษย์ อาจส่งผลถึงสุขภาพกายและใจทั้งทางตรงและทางอ้อม เชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ในอากาศ นอกจากจะเจริญเติบโตได้ตามธรรมชาติโดยอาศัยความชื้นแล้ว ยังเจริญเติบโตได้ในอาคารที่มีอากาศไม่ถูกสุขลักษณะอนุภาคเหล่านี้ก่ออันตรายต่อสุขภาพในรูปแบบต่างๆ ทั้งระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองในช่องจมูก ฯลฯ เมื่อปอดของเราต้องสูดดมเข้าไปทุกวันโดยที่ไม่รู้ตัว เชื้อโรคจะค่อยๆ เจริญเติบโต และทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้หลายรูปแบบ
สมาคมโรคภูมิแพ้ โรคหืดและวิทยาคุ้มกันแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลว่า คนไทยกว่า 10 ล้านคนล้วนเป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูก ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการจาม น้ำมูกไหล คัดจมูก คันตา คันบริเวณปากและลำคอ โดยสารที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้เหล่านี้ส่งผ่านมาทางอากาศ ได้แก่ ฝุ่น ตัวไรฝุ่น เชื้อราในอากาศ ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เป็นอาทิ
บริษัท อาริสโต อาโรม่า จำกัด ผู้ให้บริการการตลาดด้วยกลิ่นที่มาพร้อมนวัตกรรม "กลิ่นหอม" และ "การฆ่าเชื้อในอากาศ" อันทรงประสิทธิภาพมารวมไว้ในที่เดียวกัน ภายใต้แบรนด์ Aristo Aroma เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์สินค้าและบริการ ทั้งในด้านความหอมสมชื่น และความห่วงใยในทุกลมหายใจของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ
นายศิรเมศร์ อัครวัชรเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาริสโต อาโรม่า จำกัด เปิดเผยว่า การตลาดด้วยกลิ่น (Scent Marketing) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ถูกกล่าวถึงในต่างประเทศมาราว 10 ปี โดยผลวิจัยในอเมริการะบุว่า กลิ่นหอมสามารถกระตุ้นยอดขายให้กับสินค้าได้ถึง 20% และเริ่มมีแบรนด์สินค้าและบริการในเมืองไทย นำเข้ามาใช้ประมาณ 5 ปี แต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก ส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม สัมผัสได้จากกลิ่นหอมบริเวณล็อบบี้ ซึ่งเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าตั้งแต่แรกเจอ เพราะกลิ่นหอมจะช่วยสร้างอารมณ์ผ่อนคลายได้ ขณะที่ร้านค้าหรือสถานที่ต่างๆ สามารถสร้างบรรยากาศด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้เช่นกัน
บริษัทได้เซ็นสัญญากับ SCENT LINQ ผู้นำ Top 3 การตลาดด้วยกลิ่นระดับโลก บริษัทแม่อยู่ในประเทศตุรกี ตัวเครื่องผลิตและได้รับมาตรฐานเยอรมัน ตัวน้ำหอมจากสวิตเซอร์แลนด์และเยอรมัน ปัจจุบัน SCENT LINQ มีบริษัทสาขาอยู่ 40 ประเทศทั่วโลก โดย บริษัท อาริสโต อาโรม่า จำกัด ได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
จุดเด่นของนวัตกรรมการสร้างอากาศสะอาดพร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Aristo Aroma คือ ความเชี่ยวชาญของแบรนด์ระดับสากล บวกกับคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรียและเชื้อรา Anti-Microbiol Technology ที่ผ่านการทดสอบจาก PSB Corporation ประเทศสิงคโปร์เป็นรายแรกในประเทศไทย รวมทั้งน้ำมันหอมระเหยที่สร้างกลิ่นหอมผ่านการทดสอบจาก PSB Corporation ประเทศสิงคโปร์เช่นกันว่ามีความสามารถในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในอากาศได้ถึง 99% โดยไม่กระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมให้เลือกมากกว่า 70 ชนิด นับเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ให้บริการการตลาดด้วยกลิ่นโดยทั่วไปซึ่งมีแค่ความหอมเพียงอย่างเดียว
รูปแบบการทำงานของการตลาดด้วยกลิ่น คือการติดตั้งเครื่องพ่นกลิ่นหอมขนาดต่างๆ ในอาคาร ห้อง หรือร้านค้า บริษัทฯ จะเป็นผู้ให้บริการการติดตั้งและเก็บค่าบริการเป็นรายเดือน โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 4,000 บาทต่อเดือน สำหรับเครื่องขนาดเล็ก หลังจากเปิดตัวและทำตลาดมาแล้ว 2 ปี มีผู้ใช้บริการในกลุ่มโรงแรม โชว์รูม ห้องรับรองลูกค้า รวมประมาณ 10 แห่ง อาทิ โรงแรมในเครือบันยันทรี โรงแรมดีวารี โรงแรมเมเปิ้ล โรงแรมเมโทรโพล โชว์รูมซูบารุ ล็อบบี้อาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สถานบันเทิงมอนติคาโล ออนิกซ์ เป็นต้น
"กลิ่นหอมยังสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับสถานที่และธุรกิจ สร้างความประทับใจและน่าจดจำให้กับลูกค้า สร้างเอกลักษณ์เหนือคู่แข่ง ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อ รวมไปถึงสร้างความภักดีต่อแบรนด์ ยกตัวอย่างร้านกาแฟที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟ หรือร้านเบเกอรี่ที่มีความหอมของขนมอบใหม่ สามารถกระตุ้นการซื้อให้กับผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ ซึ่งกลิ่นเครื่องดื่มหรืออาหารทางบริษัทก็มีให้บริการ แม้แต่ในสถานพยาบาลที่มีกลิ่นที่หลายคนไม่ชอบ ก็สามารถใช้กลิ่นหอมเพื่อความผ่อนคลายได้ด้วย และสำคัญไปกว่านั้นคือ เป็นความหอมที่มาพร้อมอากาศบริสุทธิ์ เหมาะกับแบรนด์สินค้าที่สื่อสารถึงความห่วงใยและแคร์ทุกลมหายใจของทุกคน" นายศิรเมศร์ กล่าว
สำหรับเป้าหมายในการบุกตลาดในปีนี้ มุ่งเน้นไปที่สร้างการรับรู้และความสำคัญของการตลาดด้วยกลิ่นที่มาพร้อมนวัตกรรมสร้างอากาศบริสุทธิ์ เนื่องจากกลยุทธ์นี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย โดยมีกลุ่มเป้าหมาย 10 กลุ่ม ประกอบด้วย โรงแรม ห้างร้าน ฟิตเนส อาคารสำนักงาน โชว์รูมรถยนต์ สถานพยาบาลและคลินิก สถานีขนส่งและสนามบิน (ห้องพักรับรองผู้โดยสารของสายการบิน) งานแต่งงาน โรงภาพยนตร์และสถานบันเทิง รวมทั้งธนาคาร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจกับสายการบินชั้นนำในประเทศไทย เพื่อติดตั้งเครื่องพ่นกลิ่นหอมและสร้างอากาศบริสุทธ์ในห้องพักผู้โดยสาร และโรงแรมอีกหลายแห่ง
แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง จะมีการเดินสายโรดโชว์ในงานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม รวมทั้งงานแสดงนวัตกรรมการตกแต่งภายใน พร้อมแผนการเปิดสาขาในหัวเมืองใหญ่ เริ่มต้นจากเชียงใหม่และภูเก็ต คาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 ราย ส่งผลถึงการเติบโตของรายได้ที่ 100% ในปี 2560 และในปี 2561 มีแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องหอมแบบขวด เพื่อใช้สื่อสารแบรนด์ด้วยกลิ่นให้กับโรงแรมหรือร้านค้า สำหรับลูกค้าที่เข้าใช้บริการแล้วมีความประทับใจในกลิ่นหอมของสถานที่นั้นๆ นับเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ให้เกิดความรู้สึกนึกถึงและกลับมาใหม่
"บริการของ Aristo Aroma ไม่ได้เป็นเพียง Scent Marketing ที่ช่วยการสร้างกลิ่นหอมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างอากาศบริสุทธ์ที่มาพร้อมกลิ่นหอม เผยให้เห็นถึงความห่วงใยและใส่ใจต่อทุกลมหายใจ แม้แต่บ้านเรือนที่ใส่ใจในคุณภาพของอากาศภายในบ้าน จากประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องสร้างกลิ่นหอมพร้อมอากาศบริสุทธิ์ที่แตกต่างจากเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศโดยทั่วไปก็สามารถเลือกใช้บริการของเราได้" นายศิรเมศร์ กล่าวในตอนท้าย
ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่
http://aristo-aroma.com/
https://www.facebook.com/aristo.aroma
จากรายงานขององค์การอนามัยโลกระบุว่า อาคารต่างๆ ถึงร้อยละ 30 ไม่ถูกสุขลักษณะ เพราะทุกครั้งที่ผู้คนเดินทางออกไปยังที่ต่างๆ มลพิษได้เกาะติดร่างกายและเสื้อผ้า เป็นพาหะนำสิ่งปนเปื้อนกลับเข้ามา คุณภาพอากาศในอาคารจึงมีความสำคัญมากต่อความเป็นอยู่ของชีวิตมนุษย์ อาจส่งผลถึงสุขภาพกายและใจทั้งทางตรงและทางอ้อม เชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ในอากาศ นอกจากจะเจริญเติบโตได้ตามธรรมชาติโดยอาศัยความชื้นแล้ว ยังเจริญเติบโตได้ในอาคารที่มีอากาศไม่ถูกสุขลักษณะอนุภาคเหล่านี้ก่ออันตรายต่อสุขภาพในรูปแบบต่างๆ ทั้งระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองในช่องจมูก ฯลฯ เมื่อปอดของเราต้องสูดดมเข้าไปทุกวันโดยที่ไม่รู้ตัว เชื้อโรคจะค่อยๆ เจริญเติบโต และทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้หลายรูปแบบ
สมาคมโรคภูมิแพ้ โรคหืดและวิทยาคุ้มกันแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลว่า คนไทยกว่า 10 ล้านคนล้วนเป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูก ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการจาม น้ำมูกไหล คัดจมูก คันตา คันบริเวณปากและลำคอ โดยสารที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้เหล่านี้ส่งผ่านมาทางอากาศ ได้แก่ ฝุ่น ตัวไรฝุ่น เชื้อราในอากาศ ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เป็นอาทิ
บริษัท อาริสโต อาโรม่า จำกัด ผู้ให้บริการการตลาดด้วยกลิ่นที่มาพร้อมนวัตกรรม "กลิ่นหอม" และ "การฆ่าเชื้อในอากาศ" อันทรงประสิทธิภาพมารวมไว้ในที่เดียวกัน ภายใต้แบรนด์ Aristo Aroma เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์สินค้าและบริการ ทั้งในด้านความหอมสมชื่น และความห่วงใยในทุกลมหายใจของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ
นายศิรเมศร์ อัครวัชรเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาริสโต อาโรม่า จำกัด เปิดเผยว่า การตลาดด้วยกลิ่น (Scent Marketing) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ถูกกล่าวถึงในต่างประเทศมาราว 10 ปี โดยผลวิจัยในอเมริการะบุว่า กลิ่นหอมสามารถกระตุ้นยอดขายให้กับสินค้าได้ถึง 20% และเริ่มมีแบรนด์สินค้าและบริการในเมืองไทย นำเข้ามาใช้ประมาณ 5 ปี แต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก ส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม สัมผัสได้จากกลิ่นหอมบริเวณล็อบบี้ ซึ่งเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าตั้งแต่แรกเจอ เพราะกลิ่นหอมจะช่วยสร้างอารมณ์ผ่อนคลายได้ ขณะที่ร้านค้าหรือสถานที่ต่างๆ สามารถสร้างบรรยากาศด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้เช่นกัน
บริษัทได้เซ็นสัญญากับ SCENT LINQ ผู้นำ Top 3 การตลาดด้วยกลิ่นระดับโลก บริษัทแม่อยู่ในประเทศตุรกี ตัวเครื่องผลิตและได้รับมาตรฐานเยอรมัน ตัวน้ำหอมจากสวิตเซอร์แลนด์และเยอรมัน ปัจจุบัน SCENT LINQ มีบริษัทสาขาอยู่ 40 ประเทศทั่วโลก โดย บริษัท อาริสโต อาโรม่า จำกัด ได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
จุดเด่นของนวัตกรรมการสร้างอากาศสะอาดพร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Aristo Aroma คือ ความเชี่ยวชาญของแบรนด์ระดับสากล บวกกับคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรียและเชื้อรา Anti-Microbiol Technology ที่ผ่านการทดสอบจาก PSB Corporation ประเทศสิงคโปร์เป็นรายแรกในประเทศไทย รวมทั้งน้ำมันหอมระเหยที่สร้างกลิ่นหอมผ่านการทดสอบจาก PSB Corporation ประเทศสิงคโปร์เช่นกันว่ามีความสามารถในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในอากาศได้ถึง 99% โดยไม่กระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมให้เลือกมากกว่า 70 ชนิด นับเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ให้บริการการตลาดด้วยกลิ่นโดยทั่วไปซึ่งมีแค่ความหอมเพียงอย่างเดียว
รูปแบบการทำงานของการตลาดด้วยกลิ่น คือการติดตั้งเครื่องพ่นกลิ่นหอมขนาดต่างๆ ในอาคาร ห้อง หรือร้านค้า บริษัทฯ จะเป็นผู้ให้บริการการติดตั้งและเก็บค่าบริการเป็นรายเดือน โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 4,000 บาทต่อเดือน สำหรับเครื่องขนาดเล็ก หลังจากเปิดตัวและทำตลาดมาแล้ว 2 ปี มีผู้ใช้บริการในกลุ่มโรงแรม โชว์รูม ห้องรับรองลูกค้า รวมประมาณ 10 แห่ง อาทิ โรงแรมในเครือบันยันทรี โรงแรมดีวารี โรงแรมเมเปิ้ล โรงแรมเมโทรโพล โชว์รูมซูบารุ ล็อบบี้อาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สถานบันเทิงมอนติคาโล ออนิกซ์ เป็นต้น
"กลิ่นหอมยังสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับสถานที่และธุรกิจ สร้างความประทับใจและน่าจดจำให้กับลูกค้า สร้างเอกลักษณ์เหนือคู่แข่ง ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อ รวมไปถึงสร้างความภักดีต่อแบรนด์ ยกตัวอย่างร้านกาแฟที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟ หรือร้านเบเกอรี่ที่มีความหอมของขนมอบใหม่ สามารถกระตุ้นการซื้อให้กับผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ ซึ่งกลิ่นเครื่องดื่มหรืออาหารทางบริษัทก็มีให้บริการ แม้แต่ในสถานพยาบาลที่มีกลิ่นที่หลายคนไม่ชอบ ก็สามารถใช้กลิ่นหอมเพื่อความผ่อนคลายได้ด้วย และสำคัญไปกว่านั้นคือ เป็นความหอมที่มาพร้อมอากาศบริสุทธิ์ เหมาะกับแบรนด์สินค้าที่สื่อสารถึงความห่วงใยและแคร์ทุกลมหายใจของทุกคน" นายศิรเมศร์ กล่าว
สำหรับเป้าหมายในการบุกตลาดในปีนี้ มุ่งเน้นไปที่สร้างการรับรู้และความสำคัญของการตลาดด้วยกลิ่นที่มาพร้อมนวัตกรรมสร้างอากาศบริสุทธิ์ เนื่องจากกลยุทธ์นี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย โดยมีกลุ่มเป้าหมาย 10 กลุ่ม ประกอบด้วย โรงแรม ห้างร้าน ฟิตเนส อาคารสำนักงาน โชว์รูมรถยนต์ สถานพยาบาลและคลินิก สถานีขนส่งและสนามบิน (ห้องพักรับรองผู้โดยสารของสายการบิน) งานแต่งงาน โรงภาพยนตร์และสถานบันเทิง รวมทั้งธนาคาร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจกับสายการบินชั้นนำในประเทศไทย เพื่อติดตั้งเครื่องพ่นกลิ่นหอมและสร้างอากาศบริสุทธ์ในห้องพักผู้โดยสาร และโรงแรมอีกหลายแห่ง
แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง จะมีการเดินสายโรดโชว์ในงานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม รวมทั้งงานแสดงนวัตกรรมการตกแต่งภายใน พร้อมแผนการเปิดสาขาในหัวเมืองใหญ่ เริ่มต้นจากเชียงใหม่และภูเก็ต คาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 ราย ส่งผลถึงการเติบโตของรายได้ที่ 100% ในปี 2560 และในปี 2561 มีแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องหอมแบบขวด เพื่อใช้สื่อสารแบรนด์ด้วยกลิ่นให้กับโรงแรมหรือร้านค้า สำหรับลูกค้าที่เข้าใช้บริการแล้วมีความประทับใจในกลิ่นหอมของสถานที่นั้นๆ นับเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ให้เกิดความรู้สึกนึกถึงและกลับมาใหม่
"บริการของ Aristo Aroma ไม่ได้เป็นเพียง Scent Marketing ที่ช่วยการสร้างกลิ่นหอมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างอากาศบริสุทธ์ที่มาพร้อมกลิ่นหอม เผยให้เห็นถึงความห่วงใยและใส่ใจต่อทุกลมหายใจ แม้แต่บ้านเรือนที่ใส่ใจในคุณภาพของอากาศภายในบ้าน จากประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องสร้างกลิ่นหอมพร้อมอากาศบริสุทธิ์ที่แตกต่างจากเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศโดยทั่วไปก็สามารถเลือกใช้บริการของเราได้" นายศิรเมศร์ กล่าวในตอนท้าย
ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่
http://aristo-aroma.com/
https://www.facebook.com/aristo.aroma
โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน "ฆาตกรเงียบ" ที่คร่าชีวิตโดยไม่มีสัญญาณเตือน รู้ทันก่อนสายเกินไป
ผงปรุงรสจากพืชพื้นบ้าน: นวัตกรรมทางเลือกเพื่อสุขภาพและความยั่งยืนของชุมชน
กปภ. ตรวจเข้มคุมคุณภาพน้ำ 24 ชั่วโมงย้ำ ! น้ำประปาเชียงรายสะอาด ปลอดภัย มั่นใจได้
สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์ วันงดสูบบุหรี่โลก 2568 เน้นย้ำ "กระชากหน้ากาก ธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า : นิโคตินเสพติด จน ตาย"
เนื่องในวันความดันโลหิตสูงโลก มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ แนะวิธีป้องกัน 'ภัยเงียบ' ที่คร่าชีวิตคนไทย
โนโว นอร์ดิสค์ จัดงานแถลงข่าวมุ่งเน้นประโยชน์สำหรับคนไข้ที่มากกว่าการลดน้ำหนัก
เปิดเวทีแพทย์แลกเปลี่ยนองค์ความรู้เร่งแก้ไขวิกฤตโรคอ้วน ด้วยการรักษาแบบองค์รวมเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน
GSK ร่วมรณรงค์ "สัปดาห์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก 2025" ชูการป้องกันโรคสำหรับทุกวัย
แอสตร้าเซนเนก้า เผยความสำเร็จในการใช้ AI คัดกรองมะเร็งปอดจากภาพเอกซเรย์ เสริมความมั่นคงด้านสุขภาพที่ยั่งยืน